BR7879CBS4 - ความจริงคืออะไร
สนทนากับปราชญ์ชาวพุทธครั้งที่ 4
ที่บร็อควูดพาร์ค สหราชอาณาจักร วันที่
28
0:15 | N:คุณ ฟีโรส เมทห์ธา |
เป็นนักวิทยาศาสตร์... | |
0:20 | ...และได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่ง |
เมื่อราว สอง สาม ปีมาแล้ว... | |
0:25 | ...เรื่อง "หัวใจแห่งศาสนา" |
0:28 | ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันมาก |
0:30 | เขามาที่นี่เมื่อปีที่แล้วครั้งหนึ่ง |
และเขาก็รู้จักดร.ราหุลา... | |
0:34 | ...ซึ่งมาร่วมเสวนาที่นี่ |
เมื่อปีที่แล้ว | |
0:43 | K:เริ่มเลยครับ |
0:48 | R:ทำไมคุณไม่พูดอะไร |
สักคำหนึ่งก่อนละครับ | |
0:51 | K:ผมจะพูดอะไรดี ผมไม่ทราบ |
0:54 | พวกเราทุกคนจะเข้าไปร่วม |
0:56 | R:คุณครับวันนี้ผมต้องการจะถาม |
คุณสักอย่างหนึ่ง | |
1:03 | ท่านก็เห็นแล้วว่า |
พวกเราพากันพูดถึงสัจธรรม | |
1:08 | สัจธรรมอันสมบูรณ์ |
สัจธรรมอันสูงสุด.. | |
1:12 | ...การเห็นธรรมและการบรรลุธรรม |
1:15 | เราพูดถึงเรื่องนี้กันเสมอ |
1:18 | และในพุทธศาสนา |
ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า... | |
1:22 | ...แน่นอนว่า สิ่งเหล่านี้เป็นแก่น |
ที่สำคัญมากเป็นหัวใจจริงๆ | |
1:29 | และพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า |
สัจธรรมมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ไม่มีสอง | |
1:42 | มีการกล่าวไว้อย่างชัดเจน |
1:47 | แต่ที่ไม่เคยกล่าวไว้ในเชิงบวก |
1:52 | นั่นคือสัจธรรมนี้ถือว่า |
เสมอกันกับนิพพาน | |
2:01 | คือว่าเท่าเทียมกัน |
2:03 | และบางครั้งคำว่าสัจธรรม... |
2:08 | ...ก็ใช้แทนคำว่านิพพาน |
สัจจะอันสูงสุด สัจจะที่สมบูรณ์ | |
2:12 | และคำว่านิพพาน |
ไม่เคยมีการให้คำจำกัดความ | |
2:17 | ยกเว้นจะกล่าวไว้ในเชิงปฏิเสธ |
เสียเป็นส่วนใหญ่ | |
2:21 | ถ้าจะมีการพรรณนาถึงในเชิงบวก... |
2:24 | ...ส่วนใหญ่จะเป็นการอุปมาอุปมัย |
2:25 | เป็นสัญลักษณ์ เป็นเครื่องหมาย |
2:32 | และมีพระสูตรของฝ่ายมหายาน |
บทหนึ่งไพเราะมาก... | |
2:38 | ...ผมคิดว่าเมื่อผมใช้คำว่า |
"มหายาน" ทุกคนคงเข้าใจ... | |
2:41 | |
2:44 | ...มีคำสอนของพระพุทธเจ้า |
ที่เป็นของแท้ดั้งเดิม... | |
2:50 | ...รู้จักกันในนามของ "เถรวาท" |
คือจารีตประเพณีของคนรุ่นสูงอายุ | |
2:57 | แล้วราว ค.ศ. ที่ 1 |
ราวๆ ช่วงเวลานั้น... | |
3:03 | ...ฝ่ายมหายานซึ่งพัฒนา |
ขึ้นมาทีหลังเริ่มเติบโต... | |
3:09 | ...มีการตีความคำสอน |
ของพระพุทธเจ้ากันอย่างเสรี | |
3:12 | มีพระสูตรบทหนึ่งเขียนไว้ไพเราะมาก... |
3:16 | ...มันเป็นงานที่เขียนขึ้นในภายหลัง... |
3:20 | ...นักศึกษา ลูกศิษย์ลูกหายอมรับว่า... |
3:23 | ...นั่นคือคำสอนของ |
พระโพธิสัตว์วิมาลากีรติ | |
3:29 | มีการชุมนุมของบรรดาพระโพธิสัตว์ |
และสาวกทั้งหลาย... | |
3:34 | ...ซึ่งเหมือนๆ กับ |
การประชุมที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ | |
3:40 | ณ ที่ประชุมแห่งนั้น |
3:46 | มีการตั้งคำถามขึ้นมาว่า |
"อะไรคือความไม่เป็นคู่" | |
3:52 | นั่นคือคำว่า "ความไม่เป็นคู่" |
เป็นอีกหนึ่งที่ใช้แทนคำว่า... | |
3:55 | ...สัจธรรมที่สมบูรณ์หรือนิพพาน |
3:58 | คำในภาษาสันสกฤต เรียกว่า อทฺลย |
4:02 | K:ใช่ครับ อทฺไวต ในภาษาสันสกฤต |
4:04 | R:ไม่ใช่ครับ อทฺไวต |
เป็นคนละคำกับอทฺลย | |
4:07 | |
4:09 | |
4:12 | |
4:17 | ในพุทธศาสนา ในความหมายทาง |
พุทธศาสนา อทฺลย หมายถึง... | |
4:22 | ...ไม่ใช่ทั้งการดำรงอยู่ |
และการไม่ดำรงอยู่... | |
4:25 | ...พระพุทธเจ้าตรัสว่า |
"โลกคือความเป็นคู่" | |
4:28 | นั่นหมายความว่า |
อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้... | |
4:31 | ...อาจจะดำรงอยู่หรือไม่ดำรงอยู่ก็ได้ |
อาจจะถูกหรือผิดก็ได้... | |
4:36 | ...นั่นคือ อทฺลย |
ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า | |
4:40 | นั่นคือพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า |
โลกขึ้นอยู่กับสิ่งนี้... | |
4:44 | |
4:46 | แต่พระพุทธเจ้าสอนโดย |
ไม่ตกอยู่ในเรื่องนี้…เรื่องนั้น... | |
4:51 | และมีการตั้งคำถามว่า "อะไรคืออทฺลย" |
4:54 | มีการให้คำจำกัดความถึง 32 ความหมาย |
ยาวเป็นหางว่าว... | |
4:57 | ในเรื่องนี้พระวิมาลากีรติโดดเด่น |
5:01 | บรรดาพระโพธิสัตว์ |
และสาวกทั้งหลายกล่าวว่า... | |
5:07 | "ท่านครับ มันไม่ใช่ |
ความเห็นของพวกเรา... | |
5:10 | ...แต่พวกเราต้องการทราบ |
ความเห็นของท่าน" | |
5:13 | และในพระสูตรกล่าวไว้ |
อย่างน่าสนใจทีเดียว... | |
5:18 | ...พระวิมาลากีรติตอบคำถามนั้น |
ด้วยความเงียบสนิท | |
5:23 | K:จริง |
5:25 | R:ถ้าคุณพูดมันก็ไม่ใช่ความเป็นคู่ |
5:29 | ศาสนาจารย์คนหนึ่ง |
ในมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด | |
5:32 | เคยถามผม ตอนที่ผมสอนอยู่ที่นั่น... |
5:35 | "คุณสามารถแสดงความไม่เป็นคู่ |
หรือสัจธรรมนี้ออกมาเป็นสูตรได้ไหม" | |
5:40 | ผมพูดว่าในทันทีที่คุณกำลังคิดสูตร |
มันก็ไม่ใช่ความไม่เป็นคู่แล้ว... | |
5:45 | ...มันจะกลายเป็นความเป็นคู่ |
ในทันทีที่คุณคิดสูตรให้มัน | |
5:50 | ดังนั้นวันนี้ผมขอถามคุณเหมือนกับที่ |
สาวกทั้งหลายถามพระวิมาลากีรติ... | |
5:56 | ...ท่านเห็นว่าสัจธรรมคืออะไร |
สัจธรรมอันสมบูรณ์คืออะไร... | |
6:00 | สัจธรรมสูงสุดคืออะไรและ |
ความไม่เป็นคู่นั้นคืออะไรตามที่คุณเห็น | |
6:02 | กรุณาตอบด้วยครับ |
6:09 | มันเป็นการท้าทาย |
6:18 | K:พวกเขากำลังมองมาที่เรา |
6:20 | R:ถูกต้องแล้วครับ |
6:24 | ผมว่าเขามองท่านอยู่ |
6:26 | K:มองเราครับ |
6:32 | คุณคิดว่ามีความแตกต่างระหว่าง |
ความเป็นจริงกับสัจจะไหมครับ | |
6:38 | |
6:46 | และสัจจะสามารถวัดหรือประเมิน |
ได้ด้วยคำพูดหรือไม่ | |
6:58 | และถ้าเราสามารถจำแนกแยกแยะได้ว่า |
7:01 | อะไรคือความเป็นจริง |
และอะไรคือสัจธรรม... | |
7:10 | ...บางทีเราจะสามารถ |
เจาะลงไปในคำถามนี้ลึกกว่า | |
7:18 | อะไรคือความเป็นจริง |
7:21 | คำว่า res หมายถึง |
"สิ่งต่างๆ" สิ่งของ | |
7:28 | สิ่งของคืออะไร |
7:32 | เราสามารถพูดได้ไหมว่า |
7:46 | ทุกสิ่งทุกอย่างที่ความคิดสร้างขึ้น |
คือความเป็นจริง... | |
7:59 | ...รวมทั้งมายา เทพเจ้า |
บทสวดมนต์และพิธีกรรมต่างๆ | |
8:04 | ...การเคลื่อนไหวทั้งหมดของความคิด |
ที่ความคิดสร้างขึ้นมาในโลก... | |
8:06 | ...เช่นโบสถ์ วัดวาอาราม สุเหร่า |
8:09 | และอะไรต่อมิอะไรที่มีอยู่ในนั้น |
8:12 | นั่นคือความเป็นจริง |
เหมือนกับไมรโครโฟนชุดนี้... | |
8:18 | ...ความคิดสร้างมันขึ้นมา |
มันอยู่ตรงนั้นจริง | |
8:23 | แต่ธรรมชาติไม่ได้สร้าง |
ขึ้นมาด้วยความคิด | |
8:31 | มันมีอยู่ |
8:33 | แต่มนุษย์เราได้ใช้ธรรมชาติ |
ผลิตสิ่งต่างๆ ขึ้นมา... | |
8:39 | ...เช่นบ้านของเรา เก้าอี้ และอื่นๆ |
8:45 | R:คุณหมายถึง |
ธรรมชาติของสิ่งของต่างๆ | |
8:48 | ธรรมชาติของสิ่งต่างๆ |
8:50 | K: ธรรมชาติ |
8:55 | R: ครับ ธรรมชาติ |
8:58 | K:ความงามของโลกแม่น้ำ |
น้ำ ทะเล ต้นไม้... | |
9:02 | ...สวรรค์ ดวงดาวและสายลม |
และอะไรทำนองนั้น | |
9:07 | R:แล้วทำไมไม่พูดถึงความงามของสิ่งนี้ |
9:10 | K:โอ! มีความงามในสิ่งนี้ |
9:11 | R:ถูกต้อง |
9:12 | K:แต่เรากำลังพูดว่า... |
9:15 | ...ผมหมายถึงโบสถ์ที่งดงาม |
บทกลอนที่ไพเราะ... | |
9:20 | ...รูปภาพที่สวยงาม |
9:23 | ทั้งหมดนั้นเป็นผลของความคิด |
9:26 | ดังนั้นเราจะพูดได้ไหมว่า |
9:29 | |
9:33 | อะไรก็ตามที่ความคิดสร้างขึ้นมา... |
9:36 | ...ทำให้เกิดขึ้นหรือประกอบกันขึ้น |
คือความเป็นจริง | |
9:43 | M:คุณค่ะ เมื่อคุณพูดถึง |
ความงามของวัตถุสิ่งของ... | |
9:46 | ...คุณหมายรวมลักษณะแห่งความงามของมัน |
ว่าเป็นความเป็นจริงด้วยหรือค่ะ... | |
9:50 | ...หรือเฉพาะตัววัตถุอันนั้น... |
9:51 | |
9:54 | ...ส่วนความงามอาจจะเป็น |
อีกคุณสมบัติหนึ่ง | |
9:56 | K:ตัววัตถุเองอาจจะงดงาม |
หรือเราอาจจะหาเหตุผลของความงาม... | |
10:00 | ...ใส่ให้กับสิ่งนั้นซึ่งตัวมันเอง |
อาจจะไม่ได้สวยงามเลยก็ได้ | |
10:02 | |
10:06 | M:ดังนั้นคุณรวมถึงความคิดเห็น |
เกี่ยวกับความงามของวัตถุนั้นด้วยใช่ไหม... | |
10:07 | K:ใช่ทั้งสองอย่างครับ |
10:10 | เราทำอย่างนั้นได้ไหมครับ |
แยกให้เห็นชัดว่าความเป็นจริงคืออะไร | |
10:12 | ความเป็นจริงนั้น รวมถึงมายาต่างๆ |
ที่ความคิดสร้างขึ้นมา... | |
10:18 | ...เช่นเดียวกับสิ่งที่เป็นวัตถุต่างๆ |
ที่ความคิดสร้างขึ้น... | |
10:22 | ...โดยใช้ความรู้ทางเทคโนโลยีและอื่นๆ |
10:26 | ทั้งหมดนั้นคือความเป็นจริง |
10:29 | R:ครับ ผมขอเพิ่มเติม |
ในเรื่องนั้นสักเล็กน้อย | |
10:34 | คือเกี่ยวกับความเป็นจริง... |
10:44 | ...ผมกำลังจะอธิบายทัศนคติของชาวพุทธ |
เกี่ยวกับปัญหานี้ให้คุณฟัง... | |
10:51 | ...ตามระบบความคิดของชาวพุทธ... |
10:55 | ...ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า... |
10:59 | ...มีสัจจะในเชิงสัมพันธ์ |
(สมมุติสัจจะ) หรือความเป็นจริง | |
11:05 | K:ขออย่าใช้คำว่าสัจจะ |
และความเป็นจริง... | |
11:08 | R:ได้ครับ ขอพูดว่า |
ความเป็นจริงคือ... | |
11:12 | K:แน่นอน |
11:13 | R:….และสมบูรณ์ |
11:14 | ที่คุณพูดมาทั้งหมดนั้น |
11:17 | ยอมรับได้เต็มที่ว่า |
นั่นคือความเป็นจริง | |
11:19 | K:นั่นคือทุกสิ่ง ทุกอย่าง |
ที่ความคิดสร้างขึ้น คือความเป็นจริง | |
11:24 | R:คือความเป็นจริง |
11:27 | K:แม้ความฝัน... |
11:29 | R:แม้แต่ความฝันก็คือความเป็นจริง |
11:33 | K:ความฝัน การตอบสนองทางประสาทสัมผัส |
และความรู้สึกต่างๆ ทั้งหมด | |
11:41 | R:ครับ |
11:42 | K:โลกแห่งความรู้ |
ทางเทคโนโลยีทั้งหมด... | |
11:50 | ...สิ่งทั้งหลายทั้งปวง |
ที่ความคิดสร้างขึ้นมา | |
11:56 | ...เช่นวรรณกรรม โครงกลอน ภาพเขียน |
มายา เทพเจ้า สัญลักษณ์ต่างๆ | |
12:02 | ทั้งหมดนั้นคือความเป็นจริง |
12:09 | คุณยอมรับไหมครับ |
12:13 | F:ใช่ครับ แต่คำว่า ความเป็นจริง |
มีความหมายแรกของมัน... | |
12:25 | ...เช่นเดียวกันกับความหมายแฝงของมัน |
12:29 | K:ใช่ครับ |
12:30 | F:และตลอดเวลานับร้อยๆ ปีมาแล้ว |
12:32 | ผู้คนพากันพูดถึงความเป็นจริง |
ในความหมายแฝงของมันมากกว่า... | |
12:37 | ...ว่าคือความเป็นจริงสูงสุด |
12:44 | K:ผมทราบ แต่ผมอยากจะแยกสองคำนี้ |
สัจจะและความเป็นจริง | |
12:49 | |
12:53 | มิฉะนั้นแล้วเราเอาคำต่างๆ |
มาปนเปกันตลอดเวลา | |
12:56 | F:จริงครับ |
13:00 | S:ขออภัยครับ คุณรวมธรรมชาติ |
ไว้ในความเป็นจริงด้วยหรือครับ | |
13:01 | |
13:04 | K:ไม่รวม |
13:06 | S:ไม่ ถูกไหมครับ |
13:07 | K:ไม่ครับ ความคิดไม่ได้สร้าง |
ต้นไม้นั้นขึ้นมา | |
13:10 | แต่จากต้นไม้นั้น มนุษย์สามารถ |
ผลิตเป็นเก้าอี้และอื่นๆ ได้ | |
13:16 | S:ครับ แล้วมีประเภทที่สาม |
ของสรรพสิ่งไหมครับ... | |
13:18 | ...สิ่งที่ไม่ใช่ทั้งสัจจะ |
หรือความเป็นจริง | |
13:23 | หรือคุณเรียกว่าธรรมชาติ... |
13:25 | K:ธรรมชาติไม่ได้ |
ถูกสร้างขึ้นโดยความคิด | |
13:27 | S:ไม่ใช่ครับ |
13:29 | K:เสือ ช้าง กวาง |
หรือกวางตัวเล็กๆ ที่กระโจนผ่านไป | |
13:33 | เห็นได้ชัดเจนว่า |
ความคิดไม่ได้สร้างมันขึ้นมา | |
13:40 | R:นั่นหมายความว่าคุณไม่นับว่า |
ต้นไม้คือความเป็นจริงอย่างหนึ่ง | |
13:46 | K:ผมถือว่ามันคือความเป็นจริง |
แน่นอนมันคือความเป็นจริงหนึ่ง... | |
13:51 | ...แต่ความคิดไม่ได้สร้างมันขึ้นมา |
13:52 | R:อันนั้นจริง |
13:54 | ถ้าอย่างนั้นที่คุณพูดหมายความว่า... |
13:56 | ...สิ่งที่ความคิด |
สร้างขึ้นเท่านั้น... | |
13:58 | ...ที่คุณรวมมันไว้ในความเป็นจริง |
14:00 | K:ครับ |
14:01 | R:แน่นอนนั่นเป็น |
คำจำกัดความของคุณเอง | |
14:04 | K:ไม่ใช่ครับ ผมกำลังพยายาม |
ให้แน่ใจว่าเราเข้าใจกัน... | |
14:11 | ...เพื่อคำสองคำนี้ |
สัจจะและความเป็นจริง... | |
14:14 | ...จะได้ไม่สับสนปนเปกันในการสืบค้น |
14:19 | R:ครับ ผมเข้าใจ เก็บคำว่าสัจจะ |
ไว้ใช้ในวัตถุประสงค์อื่น และเรามา... | |
14:22 | K:ไม่ใช่จุดประสงค์อื่น |
เรามามองดูความเป็นจริงกัน | |
14:25 | อะไรคือความเป็นจริง |
14:33 | กำแพงคือความเป็นจริง |
14:35 | R:ครับ |
14:36 | K:ตะเกียงเหล่านี้คือความเป็นจริง |
14:40 | |
14:45 | คุณนั่งอยู่ตรงนั้น คนนี้นั่งตรงนั้น |
คือความเป็นจริงทั้งนั้น | |
14:51 | มายาลวงต่างๆ ที่เรามี |
คือความเป็นจริงที่มีอยู่จริง | |
14:54 | M:คุณค่ะ แต่ผู้คนที่นั่งอยู่ตรงนั้น |
ไม่ได้สร้างขึ้นโดยความคิด | |
14:55 | K:ไม่ใช่ครับ |
14:56 | M:ดังนั้นเราควรจะ... |
14:58 | ...จัดสรรให้สิ่งมีชีวิต ธรรมชาติ |
ต้นไม้ สัตว์ต่างๆ... | |
15:01 | ...และผู้คนอยู่อีกประเภทหนึ่งหรือไม่ |
15:04 | K:มนุษย์ไม่ได้ถูกสร้าง |
ขึ้นมาโดยความคิด | |
15:07 | M:ไม่ค่ะ |
15:08 | K:แต่สิ่งที่มนุษย์สร้าง... |
15:10 | M:ค่ะ |
15:12 | ดังนั้นคุณกำลังพูดถึง |
ประเภทของความเป็นจริง... | |
15:15 | ...ในความหมายสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น |
15:18 | K:สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมา |
15:20 | เช่นสงครามคือความเป็นจริง |
15:26 | คุณลังเลเล็กน้อยเกี่ยวกับตรงนี้ |
15:30 | F:เราจะถือว่าสิ่งทั้งหมดนั้น |
รับรู้เข้ามาผ่านประสาทสัมผัสต่างๆ... | |
15:36 | ...แล้วสมองก็ตีความออกมา |
เป็นความเป็นจริงได้ไหมครับ | |
15:41 | K:ถูกต้องครับ |
15:44 | S:ครั้งหนึ่งเราได้จำแนกแยกแยะ |
ระหว่างความเป็นจริง... | |
15:47 | |
15:49 | ...ซึ่งก็คืออะไรก็ตาม |
ที่จิตใจคิดสร้างขึ้น... | |
15:53 | ...และสิ่งที่มีอยู่จริง... |
15:54 | ...ซึ่งก็คืออะไรก็ตาม |
ที่จิตใจจับต้องได้... | |
15:58 | ...อะไรก็ตามซึ่งดำรงอยู่ |
ในกาลเวลาและมีพื้นที่ | |
16:00 | K:ครับ |
16:01 | S:และยังมีสัจจะ |
16:02 | ความเป็นจริงคือส่วนหนึ่ง |
ของสิ่งที่มีอยู่จริง | |
16:09 | พูดอีกอย่างหนึ่งว่า |
16:12 | ต้นไม้เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง |
ไม่ใช่ความเป็นจริง | |
16:14 | K:ทำไมคุณต้องการแบ่งแยก... |
16:16 | S:มิฉะนั้นแล้วมันจะสับสนมาก... |
16:18 | ...เพราะถ้าเราพูดว่า |
คุณและผมเป็นคน... | |
16:21 | ...ความคิดไม่ได้สร้างเราขึ้นมา |
ดังนั้นเราจึงไม่ใช่ความเป็นจริง | |
16:25 | K:คุณต้องการแยกออกเป็น |
สิ่งที่มีอยู่จริง ความเป็นจริง และสัจจะหรือ | |
16:30 | อย่างนั้นใช่ไหม |
16:31 | S:ผมเพียงเสนอขึ้นมาเพื่อเป็นนิยาม |
16:34 | ที่เข้าใจง่ายขึ้นของคำต่างๆ |
ที่เราเคยใช้มาแล้ว | |
16:38 | K:เราจะพูดว่าสิ่งที่มีอยู่จริงก็คือ |
16:39 | สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ |
ในขณะนี้ได้ไหม | |
16:49 | F:ครับ นั่นเป็นการอธิบายที่ดี |
16:54 | ประเด็นที่เกิดขึ้นก็คือ... |
16:59 | ...เราสามารถเข้าใจ |
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้... | |
17:02 | |
17:07 | ...อย่างสมบูรณ์จริงๆ ได้ไหม |
17:10 | เราเข้าใจมันเพียงบางส่วนเท่านั้น |
17:13 | K:ครับ แต่นั่นเป็นคนละประเด็นกัน |
เราสืบค้นในประเด็นนั้นได้ | |
17:14 | แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจริงๆ |
17:17 | สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น |
เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง เท่านั้นแหละ | |
17:21 | ไม่ได้เกี่ยวกับการที่ |
เราเข้าใจมันได้ทั้งหมด | |
17:22 | หรือเข้าใจเพียงบางส่วน |
17:26 | สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ |
คือสิ่งที่มีอยู่จริง | |
17:29 | F:ครับ |
17:33 | นั่นเป็นความจริง |
17:35 | K:นั่นคือความจริง |
17:36 | F:ครับ |
17:37 | K:ดังนั้นคุณมีอะไรจะพูด |
เกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้ไหมครับ | |
17:43 | R:ผมยังลังเลใจ |
ผมกำลังรอฟังอีกสักหน่อย | |
17:52 | K:ดังนั้นจิตใจสามารถ |
มองเห็นสิ่งที่มีอยู่จริง... | |
17:57 | ...ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ |
หรือไม่ครบถ้วนก็ตาม... | |
18:00 | ...สำหรับขณะนี้ |
นั่นยังไม่ใช่ประเด็น | |
18:07 | และจิตใจสามารถจะเข้าใจ หรือรับรู้ |
18:08 | หรือสังเกต หรือเห็นไหมว่า... |
18:21 | ...จากความเป็นจริง |
คุณไม่สามารถจะเข้าถึงสัจจะๆ ได้ | |
18:29 | X:บางที นั่นอาจจะเป็น |
การก้าวกระโดดเกินไป | |
18:39 | K:คุณครับ เราจะพูด |
อย่างนี้ด้วยได้ไหม | |
18:42 | อย่างที่คุณได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า |
18:48 | การตอบสนองทางประสาทสัมผัสทั้งหลาย... |
18:54 | ...เป็นจุดเริ่มต้นของความคิด |
18:56 | F:ได้ครับ |
18:59 | K:และความคิด พร้อมทั้งกระแส |
อันสลับซับซ้อนของมันทั้งหมด... | |
19:07 | ...คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น |
อยู่เดี๋ยวนี้ ในขณะที่เรากำลังพูดอยู่นี้... | |
19:12 | F:ใช่ครับ |
19:18 | K:และสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ |
เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง... | |
19:21 | ...และการตีความหรือการทำความเข้าใจ |
ในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น... | |
19:25 | ...ก็ขึ้นอยู่กับความคิด |
19:30 | ทั้งหมดนั้น รวมทั้งมายาต่างๆ |
และอะไรต่อมิอะไรของมัน | |
19:33 | ทั้งหมดทั้งสิ้นคือความเป็นจริง |
19:35 | F:ใช่ครับมันเป็นเช่นนั้น |
19:45 | K:สำหรับตอนนี้ถ้าเราเห็นด้วย |
หรือยอมรับอย่างนั้นแล้ว | |
19:51 | คำถามเกิดขึ้นว่า จิตใจซึ่งเป็น |
เครือข่ายของประสาทรับสัมผัสต่างๆ... | |
19:57 | ...ของสิ่งที่มีอยู่จริงและอื่นๆ อีก... |
20:00 | |
20:06 | ...จิตใจสามารถเข้าใจ เห็น |
สังเกตได้ไหมว่าอะไรคือสัจจะ... | |
20:14 | F:ได้ หากจิตใจปลอดพ้น |
จากอิทธิพลครอบงำทั้งปวง | |
20:19 | K:เอาไว้อีกสักครู่ |
ผมจะพูดถึงเรื่องนั้น | |
20:22 | แต่นั่นแหละคือปัญหา |
20:24 | การจะค้นหาว่า |
สัจจะอันสมบูรณ์คืออะไร... | |
20:26 | ...ต้องเข้าใจความคิด... |
20:35 | ...จะต้องสืบค้นและสังเกต... |
20:36 | ...กระบวนการทั้งหมด การเคลื่อนไหว |
ทั้งหมดของความคิด... | |
20:38 | ...และธรรมชาติของความคิด... |
20:42 | ...และเมื่อความคิดอยู่ในที่ |
ในทางที่เหมาะสมของมัน... | |
20:50 | ...ดังนั้นแล้วจิตใจ |
ก็จะสงบนิ่งถึงที่สุด... | |
20:55 | ...และบางทีจากตรงนั้น |
ในความสงบนิ่งนั้น... | |
20:58 | ...จิตใจสามารถหยั่งเห็นสัจจะ |
ที่ไม่อาจหยั่งวัดด้วยถ้อยคำ | |
21:01 | |
21:11 | F:ครับ ผมเห็นด้วยเต็มที่ |
21:14 | R:ครับ ผมเห็นด้วย |
21:15 | K:เอาละ มีสองอย่างนี้ไม่ใช่หรือ |
21:19 | มนุษย์ถูกกักขังอยู่ในกระแสของความคิด |
21:31 | และกระแสนี้เองที่คาดคิดเอาเองว่า |
สัจจะคืออะไร | |
21:37 | F:เป็นความผิดพลาด |
ที่มนุษย์สร้างขึ้นมา | |
21:39 | K:แน่นอน |
21:41 | มนุษย์คาดคิดจาก |
สิ่งนี้เพื่อไปหาสิ่งนั้น | |
21:44 | โดยหวังจะค้นพบว่าอะไรคือสัจจะ |
21:47 | หรือสร้างภาพออกไปว่าสัจจะคืออะไร |
จากที่เขาคิดขึ้นเอง | |
21:53 | และจะใช้คำต่างๆ พาดพิง |
ถึงสัจจะเช่น พระเจ้า | |
22:01 | หรือในประเทศอินเดียเรียกว่า |
พระพรหม... | |
22:04 | ...หรือนิพพาน หรือโมกษะ... |
22:08 | ...คุณก็รู้เรื่องเหล่านี้ดี |
22:12 | ดังนั้นคำถามของเราก็คือ |
22:16 | จิตใจสามารถหยุดการหยั่งวัด |
หรือประเมินค่าได้ไหม | |
22:27 | F:ถ้าจะพูดว่า... |
22:28 | ...จิตใจที่ในขณะนี้อยู่ในตัวเราแต่ละคน |
ปฎิบัติการเสมือนเป็นปัจเจกชน | |
22:34 | K:เป็นมนุษย์ |
22:37 | F:ครับ เป็นมนุษย์ |
22:38 | K:การหยั่งวัดหรือประเมินค่า |
เป็นอิทธิพลครอบงำ... | |
22:41 | ...ทั้งทางสังคม สิ่งแวดล้อม |
และทางการศึกษาทั้งหมดของเรา... | |
22:43 | F:ครับ |
22:48 | K:คุณเห็นด้วยไหมครับ |
22:50 | R:ครับ |
22:55 | K:ถ้าอย่างนั้นอะไรคือการวัด |
หรือการประเมินค่า | |
22:56 | F:คือขอบเขตอันจำกัด |
23:01 | K:ไม่ การวัดประเมินค่าคืออะไร |
23:07 | ฉันวัดความยาวของผ้าชิ้นหนึ่ง... |
23:11 | ...หรือวัดความสูงของบ้าน... |
23:17 | ...วัดระยะทางจากที่นี่ |
ไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่งและอื่นๆ | |
23:24 | การวัดหมายถึงการเปรียบเทียบ |
ถูกต้องไหมครับ | |
23:28 | |
23:32 | ผมพูดอยู่คนเดียว ผมไม่ทราบว่า |
ทำไมพวกคุณจึงไม่ร่วมพูดคุยด้วยกัน | |
23:35 | X:ในเรื่องทั้งหมดนี้ยังมีการวัด |
หรือการประเมินค่าในทางจิตใจด้วย | |
23:38 | K:ใช่ มีการวัดทั้งทางวัตถุ |
และทางด้านจิตใจ | |
23:42 | ทางด้านจิตใจเราวัดหรือให้ค่า |
ตัวเราเองเปรียบเทียบกับคนอื่น | |
23:49 | F:ครับ |
23:51 | K:ดังนั้นจึงมีการวัด |
หรือประเมินค่า... | |
23:55 | ...ด้วยการเปรียบเทียบ |
อย่างนี้อยู่ตลอดเวลา... | |
23:58 | ...ทั้งข้างนอกและข้างใน |
24:03 | ถูกต้องไหม |
24:06 | กลายเป็นว่าผมบรรยาย |
เราคิดอย่างไรกันบ้าง | |
24:11 | R:ผมขอถามคำถามคุณ |
24:13 | K:เชิญครับ |
24:15 | R:เหมือนกับที่คณะสงฆ์ |
ถามพระวิมาลากีรติ | |
24:18 | ผมขอถามคำถามนั้นกับคุณ |
24:20 | K:คำถามคืออะไรครับ |
24:22 | R:อะไรคือความไม่เป็นคู่ |
24:24 | อะไรคือสัจจะ |
24:26 | K:ไม่ใช่ |
24:27 | R:คุณกำลังอธิบายอยู่ |
24:28 | K:ตราบใดที่ความคิด |
ยังวัด ยังประเมินอยู่ | |
24:31 | ความเป็นคู่ย่อมต้องมีอยู่ |
24:34 | R:ถูกต้อง นั่นคือข้อเท็จจริง |
มันเป็นเช่นนั้นจริง | |
24:39 | K:เอาล่ะ แล้วอิทธิพลครอบงำนี้ |
24:43 | การถูกกำหนดให้เป็นเช่นนี้ |
เกิดขึ้นได้อย่างไร | |
24:46 | คุณเข้าใจไหมครับ |
24:47 | มิฉะนั้นแล้วเราก็ไม่อาจเคลื่อน |
จากนี่ไปสู่นั่นได้ | |
24:52 | ทำไมจึงมีการวัดเปรียบเทียบ |
การเลียนแบบอยู่ตลอดเวลา... | |
24:59 | ...ทำไมคนจึงถูกจับอยู่ใน |
กระบวนการทั้งหมด... | |
25:06 | ...ของการวัดหรือการประเมินค่า |
25:11 | R:การวัดทั้งหมดนั้น |
อยู่บนพื้นฐานตัวตน | |
25:22 | |
25:24 | K:แต่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร |
25:29 | ทำไมมนุษย์เรา |
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม... | |
25:33 | ...ทำไมพวกเขาจึงถูกอิทธิพลของการวัด |
หรือการประเมินค่านี้ครอบงำ | |
25:39 | ผมต้องการ เราต้องการจะค้นหาว่า... |
25:42 | ...อะไรคือเหตุที่มาของการวัด |
หรือการให้ค่านี้ | |
25:44 | คุณเข้าใจไหมครับ |
25:46 | F:เข้าใจครับ |
25:47 | X:ส่วนหนึ่งของมันดูจะเป็นผล |
มาจากการสังเกตการณ์... | |
25:51 | ...เพราะคุณสังเกตเห็น |
ความเป็นคู่ในชีวิต... | |
25:54 | ...ในแง่ของกลางวันและกลางคืน... |
25:57 | ...ผู้ชาย ผู้หญิง การเปลี่ยนแปลง |
ของฤดูกาล และอะไรทำนองนี้... | |
26:02 | ...ซึ่งเป็นบางสิ่ง |
บางอย่างที่ตรงข้ามกัน | |
26:05 | มีสิ่งที่แตกต่างตรงข้ามกัน |
อย่างเห็นได้ชัด | |
26:07 | K:คุณหมายถึงว่า... |
26:08 | X:มันจึงดูเหมือนจะเป็น |
ขั้นตอนตามธรรมชาติ... | |
26:09 | ...ที่จะพูดว่ามีสิ่งที่ตรงข้ามกัน |
หรือมีการเปรียบเทียบ... | |
26:13 | ...ที่ใช้ได้ในชีวิตของคนเรา |
26:15 | K:มีความมืดและแสงสว่าง |
26:19 | เสียงฟ้าร้องและความเงียบ |
26:22 | P:ดูเหมือนว่าความคิดจำเป็นต้องมี |
จุดคงที่เพื่อจะวัดหรือหาค่า... | |
26:31 | ...และตัวมันเองก็เคลื่อนที่ |
อยู่ตลอดเวลา... | |
26:35 | และอยู่ในสภาวะที่เลื่อนไหล |
เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง... | |
26:38 | ...หรือมันเคลื่อนตลอดเวลา |
มันจึงไม่สามารถวัดได้... | |
26:40 | ...ดังนั้นมันจึงสร้างจุดคงที่ขึ้นมา... |
26:44 | ...ซึ่งเคลื่อนที่ไม่ได้ |
ซึ่งมันถือเป็นจุดศูนย์กลางของตัวมัน | |
26:49 | จากศูนย์กลางนั้นเท่านั้น |
ที่คุณสามารถวัดหรือประเมินค่าได้ | |
26:51 | K:ใช่ |
26:52 | ผมหมายถึงคำว่า |
"ดีกว่า" "ยิ่งใหญ่กว่า"... | |
26:58 | ...ในภาษาอังกฤษก็คือ |
การวัดหรือการประเมินค่า... | |
26:59 | F:การวัดหรือการให้ค่าครับ ใช่เลย |
27:04 | K:แม้ภาษาโดยตัวมันเอง |
ก็เกี่ยวเนื่องกับการวัด การให้ค่า | |
27:10 | เอาละเราจะต้องค้นหากันไม่ใช่หรือ... |
27:14 | ...ผมเพียงถามว่า อะไรคือเหตุที่มา |
ของการวัดหรือการประเมินค่านี้... | |
27:19 | ทำไมคนเราจึงใช้มัน |
เป็นเครื่องมือของการดำรงชีวิต | |
27:31 | คุณเข้าใจคำถามของผมไหมครับ |
27:34 | F:เข้าใจครับ |
27:36 | K:เราเห็นกลางวันและกลางคืน... |
27:40 | ...เห็นภูเขาสูง หุบเขาต่ำเตี้ย... |
27:45 | ...คนสูง คนเตี้ย ผู้หญิง |
ผู้ชาย เด็กและคนแก่... | |
27:50 | ...ในทางกายภาพมีภาวะของการวัด |
หรือการประเมินค่าทั้งหมด | |
27:55 | และยังมีการวัดหรือการประเมินค่า |
ในด้านจิตใจด้วย | |
27:58 | ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมกำลังพูดถึง... |
28:01 | ...มากกว่าจะพูดแค่เพียงเรื่องของ |
กายภาพ ระยะทาง และอื่นๆ | |
28:09 | ทำไมคนเราจึงถูกครอบงำ |
ด้วยการวัดหรือการประเมินค่านี้ | |
28:18 | X:บางทีเขาคิดว่ามันอาจจะเป็น |
หนทางก้าวเคลื่อนออกไป... | |
28:22 | ...เพราะว่าถ้าคุณเป็นชาวนา... |
28:26 | ...และคุณเพาะปลูกเพื่อเก็บเกี่ยว |
ด้วยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง... | |
28:28 | ...และคุณก็ได้รับผลอย่างนี้... |
28:30 | ...ปีหน้าคุณเปลี่ยนมาใช้อีกวิธีหนึ่ง |
และคุณก็ได้รับผลดีกว่าเดิม | |
28:32 | K:ครับ ดังนั้นมันคือกาลเวลา |
28:34 | X:มันคือเวลา |
28:35 | K:ว่าต่อไปอีกหน่อยซิครับ |
เกี่ยวกับกาลเวลา | |
28:45 | X:มันรวมถึงความสามารถ |
ที่จะสะท้อน ที่จะมีประสบการณ์... | |
28:47 | ...ที่จะสะท้อนถึงประสบการณ์... |
28:49 | ...ที่จะผลิตบางสิ่งบางอย่างที่ดีกว่า |
จากประสบการณ์อันนั้น... | |
28:53 | ...อาจจะเป็นในแง่ |
ความเห็นที่ยอมรับกัน... | |
28:58 | ...ว่าอะไรดี อะไรที่ |
เราควรจะมี ที่ดีกว่า... | |
29:01 | ...หรือสถานการณ์ที่ถูกต้อง |
ของสิ่งต่างๆ คืออะไร | |
29:04 | K:นั่นใช่แน่ๆ แต่ผมต้องการ |
สืบค้นต่อไปอีกสักหน่อย | |
29:09 | |
29:19 | ทำไมคนเราจึงใช้กาลเวลา |
เป็นหนทางแห่งความก้าวหน้า | |
29:20 | ผมกำลังพูดถึงด้านจิตใจ... |
29:21 | ...ไม่ใช่กาลเวลาซึ่งจำเป็น |
ในการเรียนรู้ภาษา... | |
29:25 | ...ในการพัฒนาเทคโนโลยีและอื่นๆ |
จำเป็นต้องใช้เวลา | |
29:34 | P:บางทีความคิดต้องการ |
ความมั่นคงปลอดภัยให้กับตัวมันเอง | |
29:38 | K:กาลเวลาซึ่งก็คือการวัด |
หรือการประเมินค่า | |
29:43 | F:คุณคิดไหมว่าแนวโน้มของเรา... |
29:50 | ...เริ่มต้นด้วยข้อเท็จจริง |
ของความแตกต่างทางกายภาพ... | |
29:53 | ...ขนาด คุณภาพ และอื่นๆ... |
29:59 | K:นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการจะพูดถึง |
30:00 | F:เราเอาความคล้ายคลึงกัน |
มาใช้กับกระบวนการทางจิตใจด้วย | |
30:05 | K:ใช่ครับ |
30:09 | หรือหากปราศจากการวัด |
หรือการประเมินค่าแล้ว | |
30:11 | คงจะไม่มีเทคโนโลยีเกิดขึ้น |
30:16 | F:จริงครับ |
30:19 | K:คุณครับ ผมไม่ทราบว่าคุณ... |
30:22 | N:อย่างในด้านวิทยาศาสตร์ |
และคณิตศาสตร์ซึ่งก้าวหน้าไปเรื่อยๆ... | |
30:26 | ...การวัดหรือการประเมินค่า |
ยิ่งละเอียดขึ้น... | |
30:28 | ...และความประณีตของการวัด |
หรือการประเมินค่าในแต่ละค่า... | |
30:31 | ...ได้นำไปสู่ความก้าวหน้า |
ขั้นต่อๆ ไป เช่นคอมพิวเตอร์ | |
30:34 | K:เราไม่ได้ปฏิเสธสิ่งนั้น |
30:40 | N:ในแง่มุมหนึ่ง การวัดและการ |
กำหนดความชัดเจนของการวัด... | |
30:44 | ...ได้นำไปสู่ความก้าวหน้า |
ในทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | |
30:46 | K:แน่นอน เราพูดถึงประเด็นนั้นแล้ว |
30:49 | R:แต่เราไม่ได้พูดเน้นถึงการวัด |
ทางวัตถุมากเหมือนกับการวัดทางด้านจิตใจ | |
30:52 | |
30:54 | K:ใช่ครับ |
30:56 | ทำไมคนเราจึงใช้กาลเวลาทางจิตใจ... |
31:00 | ...เป็นหนทางแห่งความเติบโต |
ก้าวหน้าของตัวตน... | |
31:04 | ...การทำให้ตัวตนแผ่ขยายใหญ่ขึ้น... |
31:08 | เขาเรียกมันว่า |
"กำลังดีขึ้นกว่าเดิม"... | |
31:12 | ...มีคุณธรรมสูงขึ้น |
กำลังเข้าถึงการบรรลุธรรม | |
31:16 | ทั้งหมดนั้นแสดงนัยถึงกาลเวลา |
31:19 | N:อย่างที่คุณเมทห์ธาพูดว่า... |
31:23 | ...จากลักษณะต่างๆ ของการวัด |
ในชีวิตเราแต่ละวัน... | |
31:27 | ...แล้วมันเคลื่อนเข้าสู่ |
เรื่องจิตใจหรือเปล่า | |
31:30 | มันยกยอดมาหรือเปล่า... |
31:34 | ...หรือว่ามันมีในจิตใจอยู่แล้ว |
โดยไม่ต้องอ้างอิงถึงสิ่งนี้ | |
31:37 | K:นั่นคือสิ่งที่เรากำลังถกกันอยู่ |
31:40 | ว่ามีวิวัฒนาการทางจิตใจอยู่หรือไม่ |
31:49 | S:เราจะพูดได้ไหมว่า |
เราเริ่มใช้การวัดกับเรื่องของจิตใจ... | |
31:52 | |
31:56 | ...ประการหนึ่งก็ด้วยความเคยชิน... |
31:58 | ...เพราะว่าเราใช้กับเรื่อง |
ทางกายภาพ... | |
32:01 | ...แต่เราอาจจะนำให้มัน |
เคลื่อนมาสู่ทางจิตใจด้วย... | |
32:03 | ...เพราะมันสะดวกสบายมากที่จะคิด... |
32:04 | K:แน่นอนครับ |
32:05 | S:เช่นว่าผมอาจจะแย่ในตอนนี้ |
แต่ไม่นานผมคงจะดีขึ้น | |
32:08 | K:ขอให้เราเข้าใจเรื่องนี้ให้ชัดเจน |
32:11 | ในระดับเทคโนโลยีและทางด้านกายภาค... |
32:15 | ...เราจำเป็นต้องใช้เวลา |
32:18 | เราจำเป็นต้องใช้เวลา |
ในการเรียนรู้ภาษา... | |
32:22 | ...ใช้เวลาในการสร้างบ้าน... |
32:26 | ...เดินทางจากที่นี่ |
ไปที่นั่นต้องใช้เวลา... | |
32:29 | ...หรือเราต้องใช้เวลา |
ในการพัฒนาเทคโนโลยี... | |
32:34 | ...และวิทยาศาสตร์ |
32:35 | ดังนั้น ขอให้เข้าใจในเรื่องนั้น |
32:39 | แล้วผมกำลังจะถามคำถามอย่างอื่นว่า |
32:41 | ในเรื่องของจิตใจ |
เราจำเป็นต้องใช้เวลาด้วยหรือ | |
32:49 | Y:อะไรสร้างกาลเวลาขึ้นมา |
32:52 | K:ความคิด ความคิดคือกาลเวลา |
32:56 | Y:ความคิดเกี่ยวข้องกับ |
กาลเวลาไม่ใช่หรือ | |
32:58 | K:ซึ่งก็คือสิ่งที่เรากำลังพูดถึงอยู่ |
33:02 | ว่ากาลเวลาเป็นการเคลื่อนออกไป |
ไม่ใช่หรือ | |
33:06 | ดังนั้นความคิดเป็นกระแส |
ความคิดเป็นการเคลื่อนไหว | |
33:08 | กาลเวลาเป็นการเคลื่อนที่... |
33:10 | ...จากที่นี่ไปสู่ที่นั่น... |
33:13 | |
33:18 | ...เราเป็นคนโลภ ขี้อิจฉา |
ผมต้องใช้เวลาที่จะเป็นอิสระจากมัน | |
33:21 | มีระยะห่างทางกายภาพ |
และระยะห่างทางจิตใจ | |
33:29 | เรากำลังถามว่า |
นั่นไม่ใช่มายาหรอกหรือ... | |
33:37 | ...นี่ไม่ได้หมายถึง |
ระยะห่างทางกายภาพนะ... | |
33:40 | ...แต่เป็นระยะห่างทางจิตใจ |
33:47 | มีอยู่หรือครับ เพื่อให้ชัด |
และกระชับขอถามว่า... | |
33:50 | ...ในเรื่องทางจิตใจมีพรุ่งนี้หรือ |
33:56 | F:มีเฉพาะในแง่ของการคาดหวังรอคอย |
33:58 | K:เพราะความคิดบอกว่า |
"ผมหวังว่าจะ" | |
34:04 | F:นอกจากความคิด ยังมีข้อเท็จจริง |
ของประสบการณ์ทางกายภาพของเรา... | |
34:06 | ...มีกลางวันและกลางคืน... |
34:09 | ... เพราะฉะนั้นจึงมีคำว่า |
"วันนี้ และ พรุ่งนี้" | |
34:12 | K:เรื่องนั้นเราพูดกันชัดเจนมากแล้ว |
34:15 | มีวันวาน วันนี้และพรุ่งนี้ |
นั่นคือความเป็นจริง | |
34:19 | นั่นเป็นการวัดด้วย |
34:25 | แต่เรากำลังถามว่า |
ในเรื่องของจิตใจ กาลเวลามีอยู่หรือ... | |
34:32 | ...หรือความคิดได้สร้างกาลเวลาขึ้นมา |
เวลาทางจิตใจ... | |
34:37 | ...เพื่อมันจะได้รู้สึกว่า |
มันสามารถบรรลุถึง... | |
34:44 | ...หรือมันอยู่ด้วยความรู้สึก |
มั่นคงปลอดภัยบางอย่าง | |
34:52 | R:กาลเวลาคืออะไร |
34:54 | K:กาลเวลาคือกระแสที่เคลื่อนออกไป |
34:57 | R:ครับ |
34:58 | กาลเวลาไม่ใช่อะไรอื่น |
นอกจากเป็นการสืบต่อๆ กัน... | |
35:04 | ...แห่งเหตุและผลโดยต่อเนื่อง |
นั่นคือกระแสที่เคลื่อนออกไป | |
35:07 | K:การเคลื่อนที่เป็นกระแส |
ของเหตุและผล | |
35:08 | แล้วผลนั้นกลับกลายเป็นเหตุต่อไป |
สืบต่อๆ กันไป | |
35:14 | R:นั่นคือกาลเวลา |
35:16 | เราใช้คำว่า "กาลเวลา" |
สำหรับกระแสที่เคลื่อนนั้น | |
35:21 | K:ครับ ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่ |
35:23 | ขณะนี้เที่ยงห้านาทีแล้ว |
35:26 | มันเป็นการเคลื่อนไป |
จนกระทั่งถึงบ่ายโมง | |
35:28 | R:ครับ มันเป็นการเคลื่อนที่ |
K:มันเป็นกระแส | |
35:30 | R:กระแสของเหตุและผล |
ต่อเนื่องกันไม่หยุด | |
35:33 | K:ครับ นั่นเป็นลักษณะหนึ่งของกาลเวลา |
35:36 | และยังมีอีกด้านหนึ่งของกาลเวลา |
35:43 | ซึ่งเป็นระยะทางในทางกายภาพ |
เช่น จากที่นี่ไปถึงลอนดอน... | |
35:48 | ...ต้องใช้เวลาในการเดินทาง |
35:52 | R:ครับ นั่นเป็นแนวคิดอีกอย่างหนึ่ง |
เกี่ยวกับกาลเวลา | |
35:56 | K:กาลเวลาอีกอย่างหนึ่ง |
เรากำลังมองกาลเวลาในหลายๆ แง่ | |
35:57 | R:ครับกาลเวลาอีกอย่างหนึ่ง |
36:02 | M:ความคิดโดยตัวมันเอง |
ก็หมายถึงกาลเวลา... | |
36:06 | ...เพราะการทำงานของจิตใจ |
เกี่ยวข้องกับความคิด... | |
36:08 | ...การเคลื่อนไปของกระบวนการ |
ของความคิดต้องใช้เวลา... | |
36:11 | ...แม้ว่าจะเร็วมาก |
หรือเวลาสั้นเพียงใดก็ตาม... | |
36:13 | ...มันก็ยังเป็นกาลเวลา |
36:15 | K:แน่นอน เพราะความคิดคือ |
การตอบสนองของความทรงจำ | |
36:18 | ความทรงจำคือกาลเวลา |
36:21 | K:ความทรงจำคือกาลเวลาใช่ไหม |
36:27 | F:ครับ |
36:30 | K:ดังนั้น กรุณาอย่าได้พูด |
ย้อนกลับไปมา | |
36:33 | ให้เกาะติดเจาะจงลงในเรื่องเดียว |
คือมีกาลเวลาทางกายภาพอยู่... | |
36:37 | ...เช่นเมื่อวานนี้ วันนี้ พรุ่งนี้ |
36:41 | กาลเวลาเป็นการเคลื่อนออกไป |
36:44 | F:ซึ่งเราเรียกว่ากาลเวลา |
ตามลำดับของเหตุการณ์ | |
36:46 | K:กาลเวลาตามลำดับของเหตุการณ์ |
36:48 | เราเรียกว่า กาลเวลา |
ตามลำดับของเหตุการณ์ | |
36:50 | กาลเวลาที่มาจากระยะทางด้วย |
36:56 | กาลเวลาที่เกิดจากเหตุและผลด้วย |
37:00 | เช่น จากเมล็ดของต้นโอ๊คเติบโต |
มาเป็นต้นโอ๊คใช้กาลเวลา | |
37:05 | การจะปีนภูเขาต้องใช้เวลา |
37:08 | ดังนั้นเรากำลังพูดว่า |
กาลเวลาทางกายภาพมีอยู่จริง | |
37:15 | F:ครับ |
37:16 | K:ถูกต้องไหมครับ |
กาลเวลาทางกายภาพ... | |
37:19 | ..เช่นเวลาที่เด็กทารก |
เติบโตเป็นผู้ใหญ่ | |
37:23 | ฉะนั้นกาลเวลาจึงจำเป็น |
กาลเวลามีอยู่จริง | |
37:27 | นั่นเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง |
37:33 | นั่นคือความเป็นจริง |
37:35 | เรากำลังค้นหาว่าในแง่ของจิตใจ |
กาลเวลามีอยู่หรือ | |
37:39 | หรือว่าความคิดได้สร้าง |
กาลเวลาขึ้นมา... | |
37:43 | ...เพื่อเป็นหนทางที่จะได้รับ |
ความมั่นคงปลอดภัย... | |
37:52 | ...หรือว่ามันเกียจคร้านที่จะ |
เปลี่ยนแปลงตัวมันเองอย่างสิ้นเชิง | |
37:59 | F:อย่างทันทีทันควัน |
38:01 | K:ในทันทีทันใด |
38:02 | ดังนั้นมันจึงพูดว่า |
"ให้เวลาผมหน่อย" | |
38:06 | ให้เวลาผมเพื่อผมจะได้มี |
จิตใจที่เข้มแข็ง | |
38:11 | F:เข้มแข็งในจิตใจ |
38:14 | K:เข้มแข็งทางจิตใจ |
38:15 | ผมขอเวลาทำใจ เพื่อผมจะได้ |
ขจัดความโกรธของผมออกไป... | |
38:23 | ...ขจัดความริษยาหรืออะไรก็ตาม... |
38:28 | ...แล้วผมก็จะเป็นอิสระจากมัน |
38:36 | ดังนั้นเขาจึงใช้กาลเวลาเป็นหนทาง |
ที่จะได้รับความสำเร็จในเรื่องทางจิตใจ | |
38:38 | M:ถ้าอย่างนั้นเราต้องขอถามคุณ |
เกี่ยวกับการใช้คำว่า "ทางจิตใจ"... | |
38:41 | ...ในกรณีนี้ เพราะถ้ามีกระบวนความคิด |
เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย... | |
38:45 | ...และเราเพิ่งพูดไปว่ากาลเวลา |
แสดงนัยอยู่ในความคิดแล้ว | |
38:50 | ...คุณจะอยู่โดยปราศจากความคิด |
ในเรื่องทางจิตใจได้อย่างไร | |
38:55 | K:เรากำลังจะพูดถึงเรื่องนั้น |
38:56 | M:หรือว่าในการเสวนาครั้งนี้... |
39:00 | ...เรื่องของจิตใจ |
อยู่นอกกรอบของความคิด... | |
39:02 | ...หรือว่าเป็นส่วนหนึ่งของความคิด |
หรืออาจจะเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง | |
39:06 | K:จิตใจทั้งหมดประกอบขึ้นด้วย |
ความคิดไม่ใช่หรือ | |
39:16 | X:ดูเหมือนจะมีคำถามขึ้นมาตรงนี้ว่า |
มันเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า | |
39:19 | K:ขอให้เคลื่อนไปช้าๆ |
39:21 | ผมถามว่าจิตใจทั้งหมดนั้น |
ก็คือ "ตัวฉัน" ไม่ใช่หรือ | |
39:25 | X:นั่นเป็นจิตใจหรือ |
39:28 | K:มันเป็นบางส่วนของ |
"ตัวฉัน" ไม่ใช่หรือ... | |
39:30 | ...สิ่งที่ฉันคิด |
สิ่งที่ฉันต้องการ... | |
39:32 | ...สิ่งที่ฉันไม่ต้องการ |
สิ่งที่ฉันมุ่งหวัง... | |
39:34 | ...ฉันปรารถนา และอื่น ๆ |
การเคลื่อนไหวทั้งหมดนั้น... | |
39:37 | ...การเคลื่อนไหวที่มีตนเอง |
เป็นศูนย์กลางของ "ตัวฉัน"... | |
39:43 | ...ที่ความคิดสร้างขึ้นมา |
39:45 | M:ถ้าเป็นเช่นนั้น |
แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไร... | |
39:50 | ...ที่ไม่มีกาลเวลาเกี่ยวข้อง |
อยู่ในการเคลื่อนไหวทางจิตใจ | |
39:51 | K:เรากำลังจะสืบค้นลงไปในเรื่องนั้น |
39:53 | ก่อนอื่นผมต้องการให้แน่ใจว่า |
พวกเราเข้าใจคำถามกันแล้ว | |
39:59 | N:คุณครับ คุณจะกรุณา |
จำแนกให้เห็นความแตกต่าง... | |
40:02 | ...ระหว่างความหวัง |
กับความปรารถนาได้ไหมครับ... | |
40:05 | ...เพราะหลายคนพูดว่า |
ความปรารถนาเป็นอะไรที่สูงส่ง... | |
40:09 | ...แต่ความหวังเป็น... |
40:11 | K:ความปรารถนาเป็นกาลเวลา |
40:13 | N:ครับ มีกาลเวลา แต่... |
40:15 | K:การมุ่งหวังก็เช่นกัน |
40:17 | N:แต่ในความปรารถนา |
ดูเหมือนจะมีความคิดเห็น... | |
40:21 | ...เกี่ยวกับอะไรบางอย่างที่ถูกต้องอยู่ |
40:24 | K:ผมมีความปรารถนาจะเป็นเทพเจ้า |
40:29 | มันช่างเขลาเสียเหลือเกิน |
40:30 | N:ในโลกแห่งศาสนาทั้งหมด |
มีความปรารถนาอยู่ทั้งนั้น | |
40:33 | คุณจะว่าอย่างนั้นหรือ |
40:35 | R:แน่นอน ตามจารีตทางศาสนา |
มีความปรารถนาอยู่เสมอ | |
40:39 | สิ่งที่เราพูดคุยกัน... |
40:42 | ...ประเด็นก็คือคุณสามารถ |
เห็นสัจธรรมได้... | |
40:44 | ...โดยไม่มีการคิด |
หรือไม่มีกาลเวลาได้ไหม... | |
40:51 | ...เกิดการเห็นสัจธรรมในขณะนี้ |
เดี๋ยวนี้ไหม... | |
40:54 | ...หรือว่าคุณผัดผ่อนออกไป |
จนกว่าคุณจะดีขึ้นกว่านี้ | |
40:57 | K:ไม่ใช่ |
41:00 | R:นั่นคือคำถาม |
41:01 | K:ในทันทีที่คุณนำเอาคำว่า |
ดีกว่า มาใช้... | |
41:05 | R:นั่นคือสิ่งที่ผมพูด |
41:07 | K:ครับ แน่นอน |
41:08 | R:นั่นคือสิ่งที่ผมพูด |
นั่นคือมีคำถามอื่นเกิดขึ้นมา | |
41:13 | คำถามก็คือ มันเป็นจริง |
คุณเห็นมันในขณะนี้ | |
41:20 | K:เรายังพูดไม่ถึงสัจจะ |
41:23 | ผมระมัดระวังมากครับ |
ผมยังไม่ต้องการเข้าสู่โลกแห่งสัจจะ | |
41:29 | เราต้องการให้แน่ใจว่า... |
41:32 | ...การคิดของเราสอดคล้องกับ |
หลักตรรกวิทยา เป็นปกติ... | |
41:40 | ...มีเหตุมีผล หรือว่ามันกลายเป็น |
ข้อสรุปที่เลื่อนลอย | |
41:47 | |
41:52 | และดังนั้นเราต้องการจะตรวจสอบ |
ธรรมชาติทั้งหมดของกาลเวลาในทางจิตใจ | |
41:56 | นั่นคือสิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมด |
42:07 | ถ้าหากไม่มีวันพรุ่งนี้ในทางจิตใจแล้ว |
42:13 | การกระทำทั้งหมดของเราจะเปลี่ยนแปลงไป |
42:22 | แต่ในทางจิตใจแล้วเรากลับบอกว่า |
วันพรุ่งนี้มีความสำคัญ... | |
42:27 | ...วันพรุ่งนี้ผมจะทำสิ่งนี้... |
42:30 | ...ผมหวังว่าพรุ่งนี้จิตใจของผม |
จะเปลี่ยนแปลง | |
42:36 | ผมขอตั้งคำถามในเรื่องนั้น |
42:42 | เพราะความปรารถนา |
ความหวังทั้งหมดของเรา... | |
42:45 | ...ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับอนาคต |
ซึ่งก็คือกาลเวลา | |
42:51 | F:ใช่ครับ |
42:54 | N:คุณหมายถึงว่าความปรารถนาใดๆ |
ไม่ว่าจะสูงส่งเพียงไรก็ตาม... | |
42:58 | ...อยู่ในขอบเขตของความเป็นจริง |
43:02 | K:อยู่ในขอบข่ายของความคิด ใช่ครับ |
43:05 | F:ครับ เพราะว่ามันเป็นการกำหนดขึ้นมา |
43:07 | K:การกำหนดขึ้นมาจากความคิด |
43:16 | F:ใช่เลยครับ |
43:19 | ดังนั้นถูกไหมครับ |
ถ้าจะพูดว่าคุณสนใจ... | |
43:25 | ...เกี่ยวกับการเป็นอิสระจากปัจจัย |
ของกาลเวลาทางจิตใจโดยสิ้นเชิง | |
43:26 | K:ใช่ครับ มิฉะนั้นผมก็จะถูกกักขัง |
43:32 | จิตใจของเราอยู่ในวังวนตลอดเวลา |
43:34 | F:จริงครับ |
43:36 | เราผูกติดอยู่กับอดีต |
ติดอยู่กับแนวความคิด... | |
43:39 | ...ระบบที่คร่ำครึ |
ที่เราไม่อยากเปลี่ยนแปลง | |
43:40 | K:ครับ ดังนั้นอดีตดัดปรับปัจจุบัน |
43:50 | และอดีตนี้ที่ดับปรับตัวมันเอง |
ไปสู่อนาคตคือกาลเวลา | |
43:57 | ดังนั้นเมื่อเราพูดว่า |
"ฉันจะดีขึ้น" | |
44:04 | "ฉันจะเข้าใจ" หรือ "ฉันจะพยายาม"... |
44:09 | ...ทั้งหมดนี้เกี่ยวเนื่องกับกาลเวลา |
44:15 | ดังนั้นผมตั้งข้อสงสัยว่า... |
44:18 | ...มันเป็นเพียงการสร้างเรื่องราว |
ของความคิดเพื่อตัวมันเองหรือไม่... | |
44:24 | ...ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม |
เราสามารถสืบค้นได้... | |
44:30 | ...และดังนั้นมันจึงเป็นมายา... |
44:37 | ...และดังนั้นจึงไม่มีวันพรุ่งนี้ |
44:41 | F:ในแง่ของจิตใจ |
44:43 | K:แน่นอน เราได้พูดชัดเจน |
แล้วว่าในแง่ของจิตใจ | |
44:47 | ดังนั้นถ้าเรารู้สึกอิจฉา |
44:49 | ซึ่งความอิจฉาเป็นการตอบสนอง |
ทางประสาทสัมผัสอย่างหนึ่ง... | |
44:56 | ...เพราะฉะนั้นความคิด |
ได้สร้างความริษยาขึ้น | |
45:04 | โดยทั่วไปเราก็บอกว่า ให้เวลาฉัน |
แล้วฉันจะเป็นอิสระจากความริษยานั้น | |
45:07 | |
45:13 | F:ครับ ขอเพียงแต่ให้เรารู้เห็นว่า |
มันคือความอิจฉาริษยา | |
45:17 | K:ใช่ครับ ผมอิจฉาที่คุณมีบ้าน |
หลังใหญ่กว่า แต่งตัวดีกว่า... | |
45:21 | ...คุณมีเงินมากกว่า |
และอะไรทำนองนั้น... | |
45:24 | ทุกๆ คนรับรู้ได้ถึงความริษยานี้ |
ความอิจฉานี้ การเป็นปรปักษ์นี้ | |
45:32 | ดังนั้น เป็นไปได้หรือไม่ |
เมื่อเกิดความรู้สึกอิจฉาขึ้น... | |
45:40 | ...แล้วเป็นอิสระจากมันได้ในทันที |
โดยไม่ให้กาลเวลาเข้ามาแทรกแซง | |
45:48 | นั่นคือประเด็นที่แท้จริง |
45:55 | F: ความอิจฉาริษยา |
เป็นปฏิกิริยาตอบโต้ทางจิตใจ... | |
45:58 | ...ต่อสิ่งที่ได้รับรู้ผ่านประสาทสัมผัส |
ต่างๆ ไม่ใช่หรือ | |
46:05 | K:ครับ ถูกต้อง |
46:06 | F:และการทำงานต่างๆ |
ของประสาทสัมผัส... | |
46:11 | K:...เป็นจริง |
46:13 | F:ครับ มันเป็นของจริง |
46:17 | การทำงานของประสาทสัมผัสต่างๆ... |
46:26 | ...ถูกกำหนดโดยสภาพทางกายภาพ |
ที่เป็นจริงไม่ใช่หรือ | |
46:31 | K:ครับ มันเห็นได้ชัดเจน |
46:33 | F:ดังนั้นเมื่อมีการสัมผัสรับรู้ |
ทางประสาทสัมผัส... | |
46:36 | ...ปฏิกิริยาทางจิตใจจะเกิดขึ้นตามมา |
46:38 | และนั่นก็เกี่ยวข้องกับแรงขับ |
ของความพึงพอใจ | |
46:42 | ความปวดร้าวที่อยู่ภายในเรา |
46:45 | K:ชัดเจน |
46:47 | เราเห็นคุณขับรถคันใหญ่หรูหรา |
46:52 | |
46:57 | ส่วนผมขับรถคันเล็กๆ |
จึงเกิดการเปรียบเทียบขึ้นมา | |
46:58 | F:ใช่ครับ การเปรียบเทียบ |
เกิดขึ้นอย่างแน่นอน... | |
47:09 | ...ส่วนหนึ่งมาจากที่คนอื่นๆ |
พูดกับเราว่า สิ่งนี้ดีกว่าสิ่งนั้น | |
47:15 | |
47:17 | K:มากกว่านั้น |
47:19 | F:อันนี้ให้ความพอใจกว่า |
หรืออันนี้ให้ความพอใจน้อยกว่า | |
47:20 | K:มันเริ่มต้นกันมาตั้งแต่วัยเด็ก |
47:23 | F:ดังนั้นเราจึงติดเป็นนิสัย |
เป็นความเคยชินทางจิตใจ | |
47:26 | K:เรื่องนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ในวัยเด็ก |
47:28 | F:ครับ |
47:32 | K:เธอไม่เก่งเท่าพี่ชาย |
หรือน้องชายของเธอ... | |
47:34 | ...ในการสอบและ |
ในระบบการศึกษาทั้งหมด... | |
47:36 | ...อยู่บนพื้นฐานของการวัดความสามารถ |
การประเมินผลด้วยการเปรียบเทียบนี้ | |
47:45 | ขณะนี้เรากำลังออกไปไกลจาก… |
47:48 | R:ครับ จากประเด็นสำคัญ |
47:51 | S:เราค้นพบข้อเท็จจริงที่ว่า... |
47:58 | ...อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการวัด |
หรือการประเมินค่าและความคิด... | |
48:02 | ...ไม่อาจจะขจัดการวัด |
และความคิดออกไปได้ | |
48:06 | K:ก่อนอื่นจะต้องตระหนักรู้ |
ถึงความมีอยู่จริงของมัน | |
48:13 | ไม่พูดว่า "ใช่ ผมเข้าใจได้ |
ในเชิงขบคิดด้วยเหตุและผล" | |
48:15 | S:ตระหนักรู้ได้ด้วยความคิด |
อย่างนั้นหรือ | |
48:19 | K:ไม่ |
48:20 | S:ดังนั้นแล้วอะไรคือ… |
48:21 | K:เดี๋ยวก่อนครับ เรากำลัง |
มาสู่เรื่องนั้นกันอย่างช้าๆ | |
48:25 | เราเห็นไหมว่าในทางจิตใจ |
เราใช้กาลเวลา... | |
48:32 | ...และการใช้กาลเวลาในทางจิตใจ |
เป็นมายา เป็นสิ่งลวง | |
48:37 | |
48:39 | ก่อนอื่นผมต้องการให้แน่ใจว่า |
48:44 | เราเข้าใจประเด็นนั้นกันชัดเจน |
ที่ว่าผมจะได้ไปถึงสวรรค์ | |
48:47 | ผมจะบรรลุธรรม |
48:51 | ในที่สุดผมจะเข้าถึงนิพพาน |
หรือโมกษะ หรืออะไรเหล่านี้... | |
48:57 | ...ภายในชาตินี้หรืออีกหลายชาติก็ตาม |
48:58 | |
49:02 | ทั้งหมดนั้นเป็นกาลเวลาในทางจิตใจ |
49:05 | เรากำลังตั้งคำถามว่า |
มันเป็นมายาลวงหรือไม่ | |
49:13 | ถ้าหากเป็นมายาลวง |
มันก็เป็นส่วนหนึ่งของความคิด | |
49:18 | |
49:21 | S:ถูกต้อง เพื่อการเห็นสิ่งทั้งหมดนี้ |
เราไม่อาจจะใช้ความคิดได้ | |
49:23 | K:เดี๋ยวก่อน |
49:24 | เราเข้าใจกันหรือไม่แม้ในระดับคำพูด... |
49:27 | S:แม้จะด้วยความคิดหรือ |
49:30 | K:ใช่ เข้าใจด้วยความคิด |
49:37 | ตอนนี้เราใช้คำพูด |
ในการสื่อสารระหว่างเรา | |
49:40 | ถ้อยคำเหล่านั้นได้สะสมมา... |
49:42 | |
49:45 | ...และเราทั้งสองฝ่าย |
ก็พูดภาษาอังกฤษกัน | |
49:47 | เราเข้าใจความหมาย |
49:49 | แล้วตอนนี้เรามองเห็นไหม |
49:50 | เห็นจริงๆ ไม่ใช่เห็น |
โดยการถกเถียง โดยคำอธิบาย... | |
49:56 | ...หรือโดยการแสดงความเป็นเหตุเป็นผล |
50:02 | เห็นว่าความคิดได้สร้าง |
กาลเวลาทางจิตใจขึ้นมา... | |
50:07 | ...เพื่อเป็นหนทางที่จะ |
ได้รับอะไรบางอย่าง | |
50:12 | M:ดังนั้นเราสามารถเห็นได้ว่า |
นั่นยังอยู่ภายในกระบวนการของความคิด... | |
50:17 | ...ยังอยู่ภายในขอบข่ายของความคิด |
50:19 | K:เดี๋ยวก่อนครับ |
50:20 | M:นั่นเป็น "การเห็น" |
ที่คุณพูดถึงหรือ | |
50:22 | K:เปล่า ผมกำลังจะมาถึงตรงนั้น |
50:25 | ผมกำลังจะมาถึงตรงนั้นอย่างช้าๆ |
50:29 | ผมต้องการค้นหาไปถึงนั้น |
มิฉะนั้นมันจะไม่ชัดเจน | |
50:33 | ผมพูดเข้าใจไหม เราเข้าใจที่เรา |
แต่ละคนพูดกันหรือเปล่าครับ | |
50:34 | R:ผมเข้าใจครับ |
50:35 | K:ที่พูดมาถูกต้องไหมครับ |
50:37 | R:นั่นผมยังพูดไม่ได้ว่าถูกต้องไหม |
50:39 | ผมยังตอบคุณไม่ได้ |
50:42 | เพราะผมไม่รู้ว่าเรากำลังจะมุ่งไปไหน |
50:45 | K:ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมกำลัง |
จะไปตรงไหน แต่นี่คือข้อเท็จจริง | |
50:49 | R:ใช่ครับ ถูกต้อง |
50:53 | นั่นคือ ผมกำลังเฝ้าดูอยู่ |
50:56 | N:ผมคิดว่ามีความยุ่งยากบางประการ |
ที่จะเข้าใจในสิ่งที่คุณกำลังพูด... | |
50:57 | ...เพราะว่าในธรรมชาติ |
มีการเจริญเติบโตเต็มที่... | |
51:01 | ...และมีการเติบใหญ่โดยผ่านกาลเวลา |
51:04 | K:เรื่องนั้นเราพูดกันมาแล้วนะ |
นารายัน | |
51:05 | อย่าย้อนกลับไปอีก |
51:07 | N:ผมไม่ได้ย้อนกลับไป |
51:10 | แต่ว่าเราจำแนกตนเข้าไปเกาะยึด |
อยู่กับมันโดยไม่รู้ตัว | |
51:12 | วุฒิภาวะและความเจริญเติบโตในมนุษย์ |
โดยผ่านกาลเวลามีอยู่หรือ | |
51:16 | มีการเจริญเติบโตบางชนิด |
ที่ผ่านกาลเวลา | |
51:18 | K:เราพูดไปแล้ว |
51:19 | N:ครับ ดังนั้นเราจึงข้องติดอยู่กับมัน |
51:22 | K:เราเกาะยึด เรายึดมั่นอยู่กับ |
แนวความคิดเกี่ยวกับกาลเวลานี้... | |
51:24 | ...ในการปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น... |
51:31 | ...ไม่เพียงเฉพาะทางกายเท่านั้น |
แต่ทางจิตใจด้วย | |
51:37 | N:ผมไม่แม้แต่จะพูดว่า |
การปรับปรุงตนเองเป็นวุฒิภาวะ | |
51:40 | K:ไม่ |
51:41 | N:มีการเติบโตตามธรรมชาติชนิดหนึ่ง... |
51:45 | ...เมื่อเปรียบเทียบตนเองกับธรรมชาติ |
ตามที่คุณเห็นอยู่ทั่วไป | |
51:48 | K:ครับ แต่เดี๋ยวก่อน |
คำว่า วุฒิภาวะ คุณหมายถึงอะไร | |
51:54 | เราอาจจะให้ความหมาย |
กับคำว่า เติบโตเต็มที่ ต่างกันก็ได้ | |
51:59 | ต้นไม้เติบใหญ่ หรือออกลูกออกผลได้ |
เมื่อมีอายุเท่านั้นเท่านี้... | |
52:04 | ...ร่างกายมนุษย์เจริญเติบโต |
เป็นผู้ใหญ่ เมื่อมีอายุเท่านั้นเท่านี้ | |
52:12 | หรือเนยแข็งที่ได้ที่แล้ว |
52:15 | N:ทั้งหมดครับ |
ผลไม้ที่เกิดมาจากดอกตูม | |
52:19 | K:ครับ ผลไม้สุกได้ที่ |
เก็บได้แล้ว และอื่นๆ | |
52:24 | แต่มีการเจริญเติบโตในทางจิตใจ |
อยู่บ้างไหม | |
52:29 | นั่นคือประเด็นทั้งหมดของผม |
52:33 | P:บางทีอาจจะมีปัจจัยแห่งชีวิต |
52:36 | มีวุฒิภาวะในทางความคิด |
ที่เป็นเหตุเป็นผล ซึ่งก็คือ... | |
52:40 | K:ใช่ครับผมเห็นด้วย |
52:43 | M:ในโลกที่เป็นมายา |
มีวุฒิภาวะในทางจิตใจบางอย่างอยู่... | |
52:47 | |
52:49 | ...แต่มันก็ยังอยู่บนรากฐาน |
ของความคิดและกาลเวลา | |
52:53 | K:ใช่มาเรีย แต่ผมเพียงถามว่า |
เราเข้าใจกันชัดเจนไหม... | |
52:57 | ...แม้เข้าใจในระดับคำพูด ซึ่งก็คือ |
เข้าใจโดยปัญหาขบคิดตามเหตุผล... | |
53:06 | ...ว่าเราได้ใช้กาลเวลา |
เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาทางจิตใจ... | |
53:13 | ...เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง |
ใช่ไหมครับ | |
53:17 | |
53:18 | R:นั่นคือ... |
53:22 | K:และผมกำลังตั้งข้อสงสัย |
กับตัวเร่งปฏิกิริยาอันนั้น | |
53:25 | F:ผมขออนุญาตถามครับ |
คุณหมายถึงอะไรกันแน่ครับเมื่อถามว่า... | |
53:28 | ..."คุณเห็นไหมว่ากาลเวลา |
ทางจิตใจเป็นมายาลวง"... | |
53:32 | ...คำว่า "เห็น" คุณหมายถึงอะไร |
53:35 | K:คำว่า "เห็น" ผมหมายถึงการสังเกต |
โดยไม่มีการแทรกแซงของความคิด | |
53:39 | |
53:45 | F:นั่นหมายถึงรู้ตัวเต็มที่... |
53:47 | ...การรู้ตัวอย่างเต็มที่ |
ที่ว่ากาลเวลาทางจิตใจเป็นมายา | |
53:49 | นั่นคือความเป็นจริง |
53:53 | K:ครับ เห็นเหมือนกับที่ผมเห็นงู |
54:00 | และไม่ได้เข้าใจผิดว่ามันเป็นเชือก |
54:01 | F:ไม่ ดังนั้นคุณจะเห็นด้วยไหม... |
54:06 | ...ว่านั่นเกี่ยวข้องกับการ |
เปลี่ยนแปลงสู่สภาวะใหม่อย่างสมบูรณ์... | |
54:07 | |
54:11 | |
54:14 | ...ของลักษณะความรู้สึกตัวของคุณ |
ของจิตสำนึกของคุณ | |
54:17 | เมื่อคุณรู้ตัวถึงอะไรบางอย่างจริงๆ |
คุณไม่ต้อง… | |
54:18 | K:ช้าก่อนครับ |
54:19 | คำว่า "จิตสำนึก" และ "รู้สำนึก" |
54:22 | F:มันเป็นคำที่ยาก |
54:30 | K:คำเหล่านั้นเป็นคำที่ยาก |
54:33 | ผมจะทำได้ไหมเมื่อผมเห็นสิ่งนี้ |
แล้วไม่เรียกมันว่าไมโครโฟน | |
54:40 | F:ครับ |
54:41 | K:ไม่เรียกชื่อมัน |
แต่เห็นรูปร่างของมัน... | |
54:43 | ...เพียงแค่สังเกตดูโดยไม่สะท้อน |
ความคิดเห็นใดๆ ออกมา | |
54:48 | F:ถูกครับ โดยไม่เรียกชื่อมัน |
54:51 | K:ไม่เรียกชื่อ ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น |
54:53 | F:ไม่วิเคราะห์ |
K:ไม่วิเคราะห์มัน | |
54:56 | F:อีกอย่างก็คือว่า |
การเห็นเป็นการเห็นที่เป็นทั้งหมด... | |
54:57 | K:การเห็น |
55:01 | F:...แทบจะหมายถึง |
คุณมองเห็นทั้งหมดของชีวิตคุณ | |
55:02 | K:ไม่ ไม่ใช่ |
55:03 | นั่นกลายเป็นความเป็นคู่ไปเสียแล้ว |
55:07 | คุณกลายไปเป็นสิ่งนั้น |
ไม่ใช่อย่างนั้น | |
55:08 | F:คุณไม่ได้กลายเป็นสิ่งนั้น |
ในความหมายว่าคุณเข้าไปร่วมรวมอยู่ในมัน | |
55:12 | แต่คุณตื่นตัวในลักษณะที่เป็น |
หนึ่งเดียวกันทั้งหมด | |
55:19 | K:เดี๋ยวก่อนครับ คำเหล่านี้ |
เป็นคำที่ค่อนข้างยากอีกเหมือนกัน | |
55:22 | R:ผมไม่คิดว่าเขา |
หมายความว่าอย่างนั้น | |
55:28 | K:คุณครับ การสังเกตหมายถึง |
55:33 | ก่อนอื่นเรามาดูมัน |
อย่างที่เข้าใจกันทั่วๆ ไป... | |
55:36 | ...การสังเกตดูต้นไม้ต้นหนึ่ง |
ผมจะเรียกชื่อมัน | |
55:39 | F:ใช่ครับ |
55:40 | K:ผมรู้สึกว่าผมชอบมัน |
หรือไม่ชอบมัน และอื่นๆ | |
55:45 | แต่การสังเกต การเห็น เราหมายถึง... |
55:54 | ...การฟังเสียก่อนและไม่สร้าง |
แนวความคิดใดๆ... | |
55:57 | ...เกี่ยวกับมันขึ้นมา |
เป็นความคิดเห็นใช่ไหม... | |
56:02 | ...และจากนั้นความคิดเห็น |
เป็นผู้เห็น | |
56:04 | F:จริงครับ |
56:06 | ผมสงสัยว่าคุณเข้าใจไหม |
56:09 | R:ครับ เข้าใจ |
56:12 | K:ตัวอย่างเช่น... |
56:15 | ...ผมพูดไปเมื่อกี้นี้ว่า |
ในทางจิตใจแล้วไม่มีกาลเวลา... | |
56:19 | ...กาลเวลาทางจิตใจ |
เป็นสิ่งที่ความคิดสร้างขึ้น... | |
56:25 | ...และอาจจะเป็นสิ่งลวง |
56:30 | ที่นี้ การได้ฟังคำกล่าวนั้น |
โดยไม่มีการตีความ... | |
56:40 | ...คุณหมายถึงอะไร... |
56:43 | ...ไม่หาเหตุหาผลให้มัน หรือพูดว่า |
"ผมไม่เข้าใจ" "ผมไม่เข้าใจ"... | |
56:49 | ...เพียงแต่ฟังคำกล่าวนั้น... |
56:52 | |
56:56 | ...ไม่สร้างความคิดเห็นเกี่ยวกับมัน |
แต่เพียงแค่ฟัง | |
57:02 | ลองสังเกต ลองดู |
เช่นเดียวกันกับที่คุณฟัง | |
57:11 | คุณจะว่าอย่างไรครับ |
57:23 | R:ผมต้องการถามว่า |
คุณพยายามจะบอกอะไรกับเรา | |
57:26 | K:ผมกำลังพยายามจะพูด... |
57:31 | ...ว่าสัจจะมิอาจจะรับรู้ |
หรือเห็นได้โดยผ่านกาลเวลา | |
57:44 | R:ถูกต้อง |
57:46 | K:เดี๋ยวครับ |
คุณไม่สามารถจะเห็นด้วยได้ | |
57:48 | R:ไม่ใช่เห็นด้วย ผมเห็นมันอย่างนั้น |
57:52 | นั่นคือสาเหตุที่ผมรอถามว่า |
คุณกำลังพยายามพูดถึงอะไร | |
57:56 | |
58:00 | K:ผมพยายามพูดว่า |
ผมไม่ได้พยายาม ผมกำลังพูด | |
58:02 | R:แน่นอนครับ คุณต้องการพูดว่าอะไร |
58:07 | K:ขออภัยครับ |
58:10 | ผมกำลังพูดว่า |
โดยการเปรียบเทียบกับโลกภายนอก... | |
58:17 | ...มนุษย์เราได้สร้างกาลเวลา |
ทางจิตใจขึ้นมา... | |
58:23 | ...เป็นหนทางของการได้ผลตอบแทน |
ที่อยากได้ - ที่บั้นปลาย | |
58:34 | R:ผมเห็นด้วย |
58:35 | K:ไม่ใช่ คุณเห็นมัน |
อย่างเป็นความจริงหรือเปล่า | |
58:46 | ความจริงในความหมายว่า |
มันเป็นเช่นนั้นจริง | |
58:50 | S:ความสามารถของจิตใจ |
ที่เห็นอย่างนั้น | |
58:56 | เป็นความสามารถที่ |
เหมือนกับการเห็นสัจจะหรือ | |
58:58 | K:สก๊อต ก่อนอื่นคุณฟัง |
คำกล่าวนั้น ใช่หรือไม่ | |
59:04 | S:ครับ |
59:05 | K:คุณฟังคำกล่าวนั้นอย่างไร |
59:12 | S:ก่อนอื่นผมก็แค่ฟัง |
59:14 | K:คุณฟัง |
59:15 | คุณสร้างความเห็น |
เกี่ยวกับมันหรือเปล่า | |
59:18 | S:ใช่ครับ บ่อยครั้งหลังจากนั้น |
59:20 | K:ไม่ใช่ มันเป็นกระบวนการ |
ที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน | |
59:26 | คุณฟังและคุณก็มีความคิดเห็น |
เกี่ยวกับมันขึ้นมา... | |
59:32 | ...และความคิดเห็น |
ไม่ใช่การสังเกตจริง | |
59:38 | เท่านั้นแหละที่ผมพูด |
59:41 | S:แต่ถ้ามีสิ่งนั้น... |
59:43 | K:ไม่ครับ ตั้งแต่สมัยกรีกและฮินดู... |
59:49 | ...ที่โครงสร้างทั้งหมดของเรา |
ขึ้นอยู่กับแนวความคิด | |
59:58 | |
1:00:01 | ความคิดเห็นไม่ใช่ |
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจริงๆ | |
1:00:11 | ไม่ใช่การฟังจริงๆ |
1:00:14 | F:ความคิดเห็นเป็นเพียง |
มโนภาพของการฟังจริงๆ | |
1:00:17 | K:ครับ |
1:00:18 | ซึ่งเป็นการเลี่ยง การหลบ |
จากการสังเกตจริงๆ | |
1:00:21 | F:ของความเป็นจริง |
ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น | |
1:00:25 | K:ครับ การดูหรือการฟัง |
1:00:27 | X:ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่ามีอะไร |
บางอย่างที่เราหลบเลี่ยงอยู่ตลอดเวลา | |
1:00:32 | R:ใช่ครับ |
1:00:35 | X:ผมใคร่จะเสนอว่า |
ที่เราได้พูดมาเกี่ยวกับความคิด... | |
1:00:40 | ...และอีกหลายอย่างที่ความคิด |
ได้คิดขึ้นหรือสร้างขึ้นมา... | |
1:00:43 | ...เพื่อจะทำให้เกิดเสรีภาพ |
หรืออิสรภาพ... | |
1:00:47 | ...หรือการปลดปล่อย |
หรือการไถ่ถอนปลดเปลื้อง... | |
1:00:50 | ...มันอาจจะมีปัจจัย |
ที่เป็นพลังผลักดันบางอย่าง... | |
1:00:53 | ...ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความคิด... |
1:00:55 | ...หรืออาจจะมีปัจจัยที่เป็นพลัง |
ผลักดันบางอย่างซึ่งเป็นเหตุที่มา... | |
1:00:56 | ...ซึ่งอาจจะเป็นความทุกข์โศก |
1:01:03 | K:ใช่ครับ เราหลบเลี่ยง |
จากความเจ็บปวด... | |
1:01:07 | ...ไปหาความพึงพอใจ |
1:01:11 | X:ดูเหมือนมันจะเกิดขึ้นเช่นนี้... |
1:01:12 | ...ทั้งในวัฒนธรรมดึกดำบรรพ์ |
จนถึงวัฒนธรรมที่ศิวิไลซ์ที่สุด... | |
1:01:15 | ...เกิดขึ้นกับทุกคน |
1:01:16 | K:ชัดเจนทีเดียวครับ |
1:01:18 | เพราะการคิดทั้งหมดของเรา |
ขึ้นอยู่กับสองหลักการนี้ | |
1:01:20 | รางวัลและการลงโทษ |
การได้และการเสีย | |
1:01:25 | รางวัลที่เราหวังจะได้คือ |
การตรัสรู้ พระเจ้า นิพพาน... | |
1:01:28 | ...หรือคุณอยากจะเรียกว่าอะไรก็ตาม... |
1:01:32 | ...เพื่อหนีห่างจากความวิตกกังวล |
ความรู้สึกผิดบาป... | |
1:01:35 | ...หนีจากความเจ็บปวดรวดร้าว |
ของการดำรงอยู่ทั้งหมด... | |
1:01:39 | ...ความทุกข์ยากทั้งหมดของมัน |
ซึ่งคุณก็รู้ดี | |
1:01:43 | F:เป็นไปไม่ได้หรือที่จะเป็นอิสระ |
จากแนวความคิดเห็น... | |
1:01:44 | ...เรื่องรางวัลหรือการลงโทษ |
การได้หรือการเสีย | |
1:01:47 | K:นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังพูด |
1:01:49 | ตราบใดที่จิตใจของเรา |
ยังคิดในแง่ของรางวัลและการลงโทษ | |
1:01:56 | นั่นคือกาลเวลา |
1:02:01 | F:ทำไมจิตใจของเราจึงคิดแบบนั้น |
1:02:05 | K:เพราะเราถูกสอนมาอย่างนั้น |
1:02:08 | F:จริงครับ |
1:02:11 | K:เราถูกกำหนด |
ถูกครอบงำมาตั้งแต่วัยเด็ก | |
1:02:12 | จากสมัยของชาวกรีกในตะวันตก... |
1:02:15 | ...เพราะช่วงนั้นการวัด |
หรือการประเมินค่าเป็นเรื่องสำคัญ... | |
1:02:20 | ...มิฉะนั้นคุณคงไม่มีความรู้ |
ทางเทคโนโลยีทั้งหมดนี้หรอก | |
1:02:24 | F:และคุณจะพูดว่า |
นี่เป็นเพราะความจริง... | |
1:02:28 | ...ที่ว่าเรายึดติดกับความคิด |
ที่แบ่งแยกเป็น "ตัวฉัน" เป็น "ฉัน" | |
1:02:39 | หรือสมมติว่าเราดู |
เราฟัง สัมผัสรับรู้ ฯลฯ... | |
1:02:43 | ...ทั้งหมดในลักษณะของความเห็นทั้งหมด |
เป็นความรู้สึกตัวที่เป็นทั้งหมด | |
1:02:48 | |
1:02:51 | K:คุณไม่สามารถรู้สึกตัว |
ต่อความเป็นทั้งหมด... | |
1:02:54 | ...นอกจากว่าคุณจะเข้าใจ... |
1:02:56 | ...นอกจากว่าเราได้เข้าใจ |
การเคลื่อนไหวของความคิด | |
1:03:02 | |
1:03:03 | F:ความคิด |
1:03:07 | K:เพราะความคิดในตัวของมันเองนั้น |
จำกัดคับแคบ | |
1:03:08 | F:แน่นอนครับ ซึ่งหมายถึงว่า... |
1:03:09 | ...การล่วงล้ำเข้ามา |
ของสำนึกแห่งความเป็นตัวตน... | |
1:03:12 | ...ซึ่งเป็นอะไรบางอย่างที่แบ่งแยก |
1:03:16 | K:ครับ |
1:03:20 | F:มิฉะนั้นมันคงไม่มีอยู่ที่นั่น |
1:03:21 | K:คุณครับจิตสำนึกที่มีการแบ่งแยก |
ตนนี้ก่อตัวขึ้นมาได้อย่างไร | |
1:03:27 | F:อิทธิพลกำหนดเป็นอันดับแรก |
1:03:29 | K:มันเห็นได้ชัดเจนมาก |
1:03:31 | F:เป็นผม คุณ ฉัน |
1:03:33 | K:แน่นอนซึ่งคือการวัด |
หรือการประเมินค่า | |
1:03:35 | F:การวัดหรือการประเมินค่า ใช่เลย |
1:03:38 | และกระบวนการที่เกี่ยวกับ |
การเปรียบเทียบนี้... | |
1:03:43 | ...ก็เกิดการเคลื่อนย้ายไปสู่ขอบข่าย |
ของจิตด้วยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง... | |
1:03:45 | |
1:03:47 | K:แน่นอน |
1:03:48 | F:หรืออะไรก็ตาม |
1:03:51 | K:ดังนั้นเรามาถึงจุดนี้ |
ที่คุณกล่าวว่า... | |
1:03:54 | ...มนุษย์ใช้กาลเวลาทางจิตใจ... |
1:04:00 | ...เพื่อเป็นหนทางของการได้รับ |
สิ่งตอบแทนของเขา... | |
1:04:05 | ...มันชัดเจนมาก |
1:04:07 | และรางวัล สิ่งตอบแทนนั้นก็อยู่ไกล |
ออกไปจากความเจ็บปวดที่เขามีอยู่ | |
1:04:17 | ดังนั้นเราจึงพูดว่า |
การแสวงหารางวัล... | |
1:04:19 | ...หรือความพึงพอใจ |
หรือสิ่งตอบแทนนี้... | |
1:04:26 | ...เป็นกระแสแห่งกาลเวลา |
1:04:30 | กาลเวลาดังว่านั้นมีอยู่จริงๆ หรือ |
1:04:35 | เราได้สร้างมันขึ้นมา |
มันอาจจะเป็นมายาลวง | |
1:04:44 | และจากมายาลวงนี้ |
ผมไม่อาจจะเข้าถึงความเป็นจริง | |
1:04:45 | ผมหมายถึงสัจจะ |
1:04:53 | ดังนั้นจิตใจต้องเป็นอิสระ |
อย่างสมบูรณ์เต็มที่... | |
1:04:57 | ...จากกระแสของการวัด |
หรือการประเมินค่านี้ | |
1:05:06 | จะเป็นไปได้ไหม |
1:05:21 | F:ถ้าให้ตอบสั้นๆ ผมจะตอบว่าได้ครับ |
1:05:26 | |
1:05:36 | K:ครับ คุณก็จะตอบว่าได้ |
ในลักษณะที่เป็นข้อสรุปที่มีเหตุผล... | |
1:05:44 | ...หรือไม่ก็เป็นการวินิจฉัยที่คาดเดา |
หรือเป็นความอยากแนวความคิด... | |
1:05:50 | ...หรือเพราะมันเป็นเช่นนั้นจริง |
1:05:53 | F:มี "ความแน่นอน" อยู่ในนั้นครับ |
1:05:56 | |
1:05:58 | ถ้ามีความรู้สึกของ "ความแน่นอน" อยู่ |
มันเป็นอย่างนั้นแน่นอน | |
1:06:00 | K:ถ้าอย่างนั้น |
ผมคิดนึกเอาว่ามันเป็นอย่างนั้น... | |
1:06:02 | ...แต่ผมก็ยังคงใช้ชีวิต |
ไปในทิศทางอื่นตลอดเวลา | |
1:06:10 | F:ถ้าเราเห็นจริงๆ |
1:06:12 | K:นั่นแหละคือสิ่งที่เรา |
กำลังพูดถึงอยู่ | |
1:06:14 | F:...เราก็จะไม่ไปในทิศทางอื่น |
1:06:17 | |
1:06:21 | K: ฉะนั้น นั่นคือสิ่งที่ |
เรากำลังพูดถึงว่า... | |
1:06:26 | ...เราเห็นหรือ |
หรือว่าเราคิดว่าเราเห็นกันแน่ | |
1:06:29 | F:จริงครับ |
1:06:31 | M:เราย้อนกลับไปสักเล็กน้อยได้ไหมค่ะ |
1:06:32 | คุณบอกว่าคุณสังเกต |
คุณฟังคำกล่าวนั้น คุณสังเกตมัน | |
1:06:38 | จริงๆ แล้ว จิตใจมันทำอะไรหรือ |
ในการสังเกตนั้น | |
1:06:47 | K:ผมขอบอกว่า... |
1:06:50 | |
1:06:54 | ...กรุณาอย่ายอมรับในสิ่งที่ผม |
กำลังพูด แต่ขอให้เราค้นหาด้วยกัน | |
1:06:57 | การสังเกต ที่หมายถึง |
การเห็นโดยปราศจากการเรียกชื่อ... | |
1:07:07 | ...ปราศจากการวัดหรือให้ค่า... |
1:07:11 | ...ปราศจากแรงจูงใจ ปราศจากเป้าหมาย... |
1:07:18 | ...นั่นคือการเห็นจริงๆ |
1:07:22 | คำว่า "ไอเดีย" มาจากภาษากรีก |
1:07:27 | ศัพท์คำนี้หมายถึงการสังเกต |
1:07:31 | M:แต่คุณค่ะ เราทั้งหมด |
อาจจะเห็นด้วยกับที่พูดมา | |
1:07:35 | |
1:07:37 | และอะไรที่กำลังแสดงบทบาท |
อยู่ในขณะนั้นหรือ | |
1:07:40 | ดิฉันคิดว่าสำหรับคนส่วนใหญ่ |
มันเป็นการอนุมานด้วยเหตุผล | |
1:07:41 | K:ไม่ใช่ครับ |
1:07:42 | M:สิ่งที่คุณพูดมา |
ดูเหมือนจะแจ่มชัดมาก | |
1:07:44 | K:การสังเกต หมายถึงความเงียบ |
และไม่มีการสร้างข้อสรุปใดๆ ขึ้นมา... | |
1:07:54 | ...เพียงแต่สังเกตดูอย่างเงียบเชียบ.. |
1:07:57 | ...ปราศจากการตอบสนอง |
ทางจิตใจหรือประสาทสัมผัสใดๆ... | |
1:08:02 | ...นอกจากสิ่งที่มองเห็นได้ |
หรือสิ่งที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ | |
1:08:07 | เป็นการหยั่งเห็นที่ปราศจาก |
การตอบสนองของความจำ | |
1:08:13 | R:ปราศจากการตัดสินให้ค่าใดๆ |
1:08:16 | K:ครับ |
1:08:20 | F:คุณครับ คุณจะพูดว่านั่นหมายถึง |
ปราศจากปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ จากสมอง... | |
1:08:27 | ...หรือจากประสาท |
สัมผัสต่างๆ ใช่ไหม... | |
1:08:30 | K:นั่นแหละครับใช่ |
1:08:33 | เดี๋ยวก่อน การพูดถึงสมองขึ้นมา |
ขณะนี้มันค่อนข้างอันตรายอยู่... | |
1:08:37 | ...เพราะว่านั่นเราต้องสืบค้น |
ถึงปัญหาทั้งหมด ซึ่งคุณก็รู้... | |
1:08:38 | ...ผมไม่ต้องการสืบค้น |
ถึงเรื่องของ "สมอง" ในขณะนี้ | |
1:08:41 | |
1:08:43 | หมายความว่า ในการสังเกต |
ความคิดจะเงียบเชียบลงถึงที่สุดจริงๆ | |
1:09:00 | F:อย่างเช่นนักวิทยาศาสตร์... |
1:09:03 | ...ผู้ซึ่งมีความบันดาลใจใหม่ๆ |
ที่เหลือเชื่อจริงๆ... | |
1:09:09 | ...หรือศิลปินผู้ยิ่งใหญ่... |
1:09:13 | ...เมื่อเขาสร้างสรรค์ |
สิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ ขึ้นมา... | |
1:09:16 | ...มันเกิดขึ้นในเวลาที่ |
ทุกสิ่งทุกอย่างในจิตใจเงียบลง... | |
1:09:21 | ...จึงเปิดโอกาสให้สิ่งใหม่ |
เผยตัวออกมา... | |
1:09:24 | ... สิ่งใหม่ ใหม่จริงๆ |
เป็นการสั่นสะเทือนของวงการสร้างสรรค์ | |
1:09:32 | K:ใช่ครับ แต่การหยั่งเห็นนั้น |
เป็นเพียงเศษเสี้ยว | |
1:09:40 | การหยั่งเห็นหรือการรับรู้ |
ของนักวิทยาศาสตร์เป็นเพียงส่วนเสี้ยว | |
1:09:45 | F:ครับ แค่บางส่วน |
1:09:47 | นั่นคือจะพูดว่า |
การแสดงออกของการหยั่งเห็นนั้น | |
1:09:51 | การหยั่งเห็นของเขา |
ไม่ใช่เป็นเพียงการแสดงออก... | |
1:09:52 | ...หรือสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาเท่านั้น... |
1:09:55 | ...แต่เป็นความจริง |
ที่เขาเกิดหยั่งเห็น... | |
1:09:58 | ...เพราะการหยั่งเห็นหมายถึง... |
1:10:02 | ...การเปลี่ยนแปลงใหม่ |
ของชีวิตประจำวันทั้งหมดของเขา... | |
1:10:05 | ...มันไม่ใช่แค่ว่า |
ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์... | |
1:10:08 | ...และผมเข้าใจอย่างถ่องแท้ |
เกี่ยวกับคณิตศาสตร์... | |
1:10:12 | ...เกี่ยวกับสสาร |
เกี่ยวกับอะตอมเท่านั้น | |
1:10:15 | แต่การหยั่งเห็นยังหมายถึง |
วิถีแห่งการดำรงอยู่ที่เป็นทั้งหมด | |
1:10:19 | ไม่มีการแบ่งแยกของบุคคลนั้น |
1:10:24 | R:นั่นถูกต้องที่สุด |
1:10:25 | F:และการหยั่งเห็นใดๆ ก็ตาม... |
1:10:31 | ...เป็นการแสดงออกอันเฉพาะ |
ที่มาจากความเป็นทั้งหมด | |
1:10:36 | K:ไม่ใช่ เราออกไปเรื่องอื่นแล้ว |
1:10:38 | ขออภัยผมไม่ยอมรับ... |
1:10:42 | |
1:10:43 | ...ไม่ใช่ผมจะไม่ยอมรับ |
แต่ที่คุณพูดมามันค่อนข้างจะสับสน | |
1:10:46 | คุณครับขอให้เราพูดถึงการหยั่งเห็น |
หรือการเห็นอีกสักเล็กน้อย | |
1:10:52 | การหยั่งเห็น หมายถึงการสังเกตเห็น... |
1:10:57 | ...ซึ่งไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับ |
สิ่งต่างๆ ที่ผ่านมาแล้ว ที่เป็นอดีต... | |
1:11:06 | ...เพราะฉะนั้น จิตใจจึงตื่น... |
1:11:10 | ...เป็นอิสระจากปัจจัยต่างๆ ทั้งหมด |
1:11:14 | เพียงแต่สังเกต... |
1:11:20 | ...เมื่อเป็นอย่างนี้เท่านั้น |
คุณจึงเกิดการหยั่งเห็น | |
1:11:23 | แต่การหยั่งเห็นซึ่งเราพูดถึงอยู่นี้ |
หมายถึงชีวิตทั้งหมดของเขา... | |
1:11:29 | ...ไม่ใช่ชีวิตที่แบ่งแยก |
เป็นนักวิทยาศาสตร์ หรือเป็นศิลปินคนหนึ่ง | |
1:11:36 | |
1:11:37 | พวกเขาเหล่านั้น |
มีการหยั่งเห็นเพียงบางส่วน | |
1:11:38 | R:นั่นเป็นเพียงส่วนเสี้ยวเล็กๆ |
บางส่วนเท่านั้น | |
1:11:40 | K:แค่ส่วนเสี้ยวของการหยั่งเห็น |
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เรากำลังพูดถึง | |
1:11:45 | ดังนั้นมันจึงมาถึงตรงนี้ |
1:11:47 | R:และสิ่งที่เราพูดถึงคือ |
การดำรงอยู่ทั้งหมดของชีวิต | |
1:11:51 | K:แน่นอน การดำรงอยู่ของมนุษย์ |
1:11:54 | R:ครับ การดำรงอยู่ |
1:11:59 | F:ดังนั้นในสภาวะของการสังเกต |
ที่คุณกำลังพูดถึงอยู่นั้น... | |
1:12:05 | ...จะไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ทั้งสิ้น |
1:12:09 | K:แน่นอนครับ มันชัดเจน |
1:12:12 | มันไม่ใช่ปฏิกิริยาของเหตุ - ผล |
1:12:15 | F:จริงทีเดียว |
1:12:17 | มันเป็นอิสระจากความโยงใยของเหตุ |
และผลที่กลายเป็นเหตุ | |
1:12:19 | K:แน่นอนมันชัดเจน... |
1:12:20 | ...มิฉะนั้นเราก็จะ |
ย้อนกลับไปสู่เรื่องเก่า... | |
1:12:24 | ...ที่ว่าเหตุคือแรงจูงใจ และอื่นๆ |
1:12:27 | R:และการเห็นนั้นอยู่เหนือพ้นกาลเวลา |
1:12:32 | มันอยู่เหนือกาลเวลา |
1:12:34 | การเห็นนั้นไม่ถูกจำกัด |
หรือถูกจับเอาไว้ในกาลเวลา | |
1:12:40 | มันไม่ถูกจำกัด |
หรือถูกจับอยู่ในกาลเวลา | |
1:12:41 | K:และการหยั่งเห็นนั้น |
ไม่เกี่ยวข้องกับกาลเวลา | |
1:12:45 | R:ถูกต้อง |
1:12:47 | และโดยธรรมชาติ |
มันจึงไม่ใช่ทั้งเหตุหรือผล | |
1:12:52 | K:ครับ แต่เดี๋ยวก่อนครับ |
1:12:54 | คุณครับ เราเกิดการหยั่งเห็น |
เช่นนี้หรือเปล่า... | |
1:12:59 | ...รอก่อน ผมขอพูดให้จบก่อนครับ... |
1:13:01 | ...เห็นเข้าไปในการที่ความคิด |
สร้างกาลเวลาทางจิตใจขึ้น... | |
1:13:07 | ...เพื่อให้ได้รับผลสำเร็จบางอย่าง |
1:13:11 | คุณเกิดการหยั่งเห็นไหม |
1:13:16 | คุณเห็นมัน หรือว่ามันเป็นแค่ |
ระดับคำพูด หรือแค่ในระดับความคิดเห็น | |
1:13:22 | R:หรือว่ามันเป็นความจริง |
1:13:24 | K:ไม่ใช่ |
1:13:25 | R:ว่ากาลเวลาทางจิตใจนั้น |
จำเป็นสำหรับการเห็น | |
1:13:30 | K:ไม่ใช่ครับ คำถามนี้ |
เราได้สืบค้นแล้ว | |
1:13:33 | มนุษย์เราสร้างกาลเวลา |
ทางจิตใจขึ้นมา... | |
1:13:36 | ...เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ |
เป้าหมายและรางวัลที่อยากได้ | |
1:13:49 | เราเห็นตรงนี้อย่างที่เป็นแนวความคิด |
หรือเห็นว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ | |
1:13:57 | เห็นได้ชัดเจนว่า |
มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ | |
1:14:00 | จากนั้นประเด็นอยู่ที่ว่า... |
1:14:05 | มนุษย์คนหนึ่งจะเคลื่อนออกจาก |
กาลเวลาทางจิตใจอย่างสิ้นเชิง... | |
1:14:12 | ...และเกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่หมด... |
1:14:16 | ...เกี่ยวกับแนวคิดเรื่องกาลเวลานี้ |
อย่างสิ้นเชิงได้อย่างไร | |
1:14:27 | ผมพูดว่ามันจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อ... |
1:14:29 | ...คุณเกิดการหยั่งเห็น |
เข้าไปในสิ่งทั้งหมดนี้... | |
1:14:35 | ...ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับความพยายาม... |
1:14:39 | ...ไม่เกี่ยวกับการตั้งจิตจดจ่อ |
อะไรพวกนั้นทั้งหมด | |
1:14:45 | นี่คือสมาธิที่แท้จริง |
1:14:47 | F:จริงๆ แล้วมันเกิดขึ้นเอง |
1:14:49 | K:มันคือสมาธิที่แท้จริง |
1:14:52 | R:จริงๆ |
1:14:53 | S:คุณครับ มีสภาพที่ |
กลืนไม่เข้าคายไม่ออก... | |
1:14:59 | ...ซึ่งผมคิดว่าหลายๆ คนประสบอยู่... |
1:15:02 | ...เมื่อพวกเขาได้ฟังที่คุณพูดว่า |
การที่จะมีการหยั่งเห็นนี้... | |
1:15:07 | K:คุณมีมันไม่ได้ |
1:15:09 | S:ในความหมายที่ว่า |
เพื่อที่การหยั่งเห็นนี้จะเกิดขึ้น... | |
1:15:12 | ...จะต้องหยั่งเห็นเข้าไปในความคิด... |
1:15:19 | ...และดูเหมือนว่ามัน... |
K:ไม่ใช่ | |
1:15:21 | S:...จะเป็นอะไรวนเวียนไม่มีทางออก |
1:15:26 | K:ไม่ใช่อย่างนี้ |
เรื่องนี้เราสืบค้นกันแล้วครับ | |
1:15:30 | อย่างที่เราพูดไปแล้วว่า |
ความคิดเป็นการตอบสนองของความทรงจำ... | |
1:15:35 | ...ความทรงจำคือความรู้ |
คือประสบการณ์... | |
1:15:39 | ...และดังนั้นความคิดเคลื่อนจากอดีต |
1:15:40 | S:ครับ |
1:15:45 | K:ความคิดมาจากอดีตเสมอ |
แต่มันไม่เคยเป็นอิสระจากอดีตเลย | |
1:15:48 | S:และเราพูดว่าจะต้องมีการเห็น |
มีการสังเกตการณ์... | |
1:15:49 | K:การเห็น |
S:...โดยปราศจาก... | |
1:15:52 | K:เห็นว่าความคิดมาจากอดีต |
S:ถูกต้อง | |
1:15:53 | เอาละ เราไม่อาจจะเห็นสิ่งนั้นได้ |
ด้วยความคิด เราต้องเห็น... | |
1:15:56 | K:ช้าก่อน อย่าพูดอย่างนั้น |
1:15:59 | ผมเพิ่งพูดไปเมื่อกี้นี้ว่า |
ขออภัยผมลืมไปแล้ว | |
1:16:04 | S:เรากำลังพูดว่าจะต้องมีการเห็น |
การสังเกต ซึ่งเป็นการหยั่งเห็น... | |
1:16:05 | K:...เข้าไปในความคิด |
1:16:09 | S:...ในความคิด |
1:16:11 | K:ช้าก่อน ประคองเอาไว้ก่อน |
1:16:15 | ทีนี้ ความคิดเป็นการตอบสนอง |
ของความทรงจำ | |
1:16:20 | ความทรงจำถูกสั่งสมเก็บไว้ในสมอง |
โดยผ่านประสบการณ์ | |
1:16:25 | ซึ่งได้กลายเป็นความรู้ |
1:16:29 | S:ครับ |
1:16:32 | K:ดังนั้นความรู้จึงเป็นอดีตเสมอ |
1:16:34 | และจากความรู้ ความคิดผุดขึ้นมา |
1:16:38 | นี่เป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ |
ผมหมายความว่า มันเป็นอย่างนั้น | |
1:16:41 | S:ครับ |
1:16:46 | K:ทีนี้ตัวคุณเองรับรู้ความจริงนี้ |
โดยที่เป็นแนวความคิดเห็น... | |
1:16:49 | ...หรือรับรู้ว่าจริงๆ ว่า |
มันเป็นจริงอย่างนั้น... | |
1:17:01 | ...นั่นคือตัวคุณเองเห็นว่า... |
1:17:05 | ...มันไม่จริงที่มนุษย์วิวัฒน์สูงขึ้น |
โดยอาศัยความรู้ | |
1:17:10 | |
1:17:15 | บางทีมนุษย์อาจจะวิวัฒน์สูงขึ้นได้ |
ในทางเทคโนโลยีเท่านั้น... | |
1:17:17 | ...แต่ในทางจิตใจ ถ้าเขายังสั่งสม |
ความรู้ต่อไปเรื่อยๆ... | |
1:17:23 | ...เขาก็จะถูกจับเอาไว้ในกับดัก |
1:17:26 | ที่พูดมาคุณเห็นหรือไม่ |
1:17:32 | หรือว่าคุณทำให้ |
มันกลายเป็นแนวความคิดเห็น | |
1:17:35 | แล้วพูดว่า "คุณหมายถึงอะไร" |
และอื่นๆ อีก | |
1:17:40 | S:แต่คุณครับ แม้จะเห็นสิ่งนั้นได้ |
ผมต้องเป็นอิสระ | |
1:17:44 | K:ไม่ใช่ คุณต้องสังเกต |
ก่อนอื่นคุณต้องฟัง | |
1:17:46 | S:ครับ |
1:17:48 | K:เป็นการฟังที่ปราศจากการวิเคราะห์ |
ปราศจากการตีความ... | |
1:17:55 | ...ปราศจากความชอบหรือไม่ชอบ |
เพียงแค่ฟังเท่านั้น | |
1:17:58 | และถ้าหากคุณฟังจริงๆ |
คุณได้ซึมซับมันเอาไว้แล้ว... | |
1:18:03 | ...ซึมซับความจริงที่ว่า |
ความคิดคือการตอบสนองของความทรงจำ... | |
1:18:05 | |
1:18:11 | ...แล้วจากนั้นคุณก็สามารถ |
ก้าวเคลื่อนต่อไปได้ | |
1:18:14 | แล้วความคิดสามารถเป็นอิสระ |
จากผู้ให้กำเนิดมัน... | |
1:18:24 | ...อิสระจากรากเหง้าของมัน |
จากแหล่งกำเนิดของมันได้ไหม... | |
1:18:29 | ...เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ |
1:18:32 | X:แต่ความคิดสามารถตระหนักรู้ |
ถึงกิจกรรมการเคลื่อนไหวของตัวมันเองได้ | |
1:18:35 | K:แน่นอน เราพูดถึงทั้งหมดนั้นแล้ว |
1:18:38 | M:คุณค่ะ คุณจะบอกว่า |
หากการหยั่งเห็นเกิดขึ้น ณ ขณะนั้น... | |
1:18:39 | |
1:18:44 | |
1:18:49 | ...การหยั่งเห็นนั้นจะไม่ |
ตกกลับเข้าไปสู่กลไกของความคิด | |
1:18:51 | K:โอ ไม่ ไม่ตกเข้าไปอย่างแน่นอน |
1:18:53 | อย่างเช่น คุณเกิดการหยั่งเห็น |
และคุณกระทำ | |
1:18:57 | เอาละ เรามาเข้าใจกันให้ชัดเจน |
1:18:59 | การหยั่งเห็นหมายถึง |
ปฏิบัติการที่เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด | |
1:19:03 | ไม่ใช่มีการหยั่งเห็นก่อน |
แล้วต่อมาจึงกระทำ | |
1:19:06 | การหยั่งเห็นนั่นเอง |
หมายถึงปฏิบัติการ | |
1:19:09 | และคุณกระทำ |
1:19:12 | และการกระทำนั้นถูกต้องเสมอ |
1:19:17 | ถูกต้องในความหมาย |
ที่แม่นยำเที่ยงตรง... | |
1:19:20 | ...ไม่มีการเสียใจ |
ไม่ได้ใช้ความพยายามใดๆ... | |
1:19:22 | ...ไม่มีรางวัลหรือการลงโทษ |
หรือการได้และเสียใดๆ | |
1:19:26 | มันเป็นเช่นนั้นเอง |
1:19:29 | X:ปฏิบัติการนั้น |
อาจไม่จำเป็นต้องไปทำอะไรเลย | |
1:19:31 | มันอาจจะเป็นการไม่กระทำ |
ถ้ามองในแง่ของการทำสิ่งภายนอกต่างๆ | |
1:19:35 | K:คุณอาจจะต้องกระทำ |
ทั้งภายนอกและภายในจิตใจ | |
1:19:40 | ถ้าผมเกิดการหยั่งเห็นเข้าไป |
ในเรื่องความยึดมั่นถือมั่น | |
1:19:45 | การยึดถือความคิดเห็น... |
1:19:47 | ...การยึดติดกับข้อสรุป |
การยึดติดกับบุคคล... | |
1:19:49 | ...การยึดติดในสิ่งที่เป็นของฉัน |
คุณเข้าใจไหม | |
1:19:52 | ...ยึดติด ความรู้ ประสบการณ์ |
1:19:53 | ถ้าผมมีการหยั่งเห็น |
เข้าไปในเรื่องนั้น | |
1:19:57 | สิ่งทั้งหมดจะถูกละเลิก |
1:19:59 | R:และผมขอพูดอีกแง่หนึ่ง |
ผมไม่ทราบว่าคุณเห็นด้วยหรือไม่... | |
1:20:03 | ...คือเพื่อมองเห็นความเป็นมายานี้ |
1:20:11 | K:ครับ |
1:20:13 | |
1:20:20 | แต่เราต้องแน่ใจจริงๆ ว่า |
มันเป็นมายา | |
1:20:24 | R:ไม่ว่าคุณจะเรียกมันว่ามายา |
หรือเรียกว่าอะไรก็ตาม มองให้เห็น... | |
1:20:26 | K:"สิ่งที่เป็นจริง" |
R:"สิ่งที่เป็นอยู่" | |
1:20:28 | K:เท่านั้นเอง |
R:ใช่ครับ มองให้เห็น "สิ่งที่เป็นอยู่จริง" | |
1:20:30 | อย่าให้ชื่อใดๆ |
K: ไม่ให้ชื่อ ให้เห็น "สิ่งที่เป็นอยู่จริง" | |
1:20:35 | R:การเห็น "สิ่งที่เป็นอยู่จริง" |
ก็คือการเห็นสัจจะ | |
1:20:39 | K:ไม่ ไม่ใช่ แค่คุณมองเห็น |
1:20:41 | คุณกำลังนำเอาเรื่องสัจจะเข้ามา |
ผมยังไม่พร้อมที่จะพูดถึงเรื่องนั้น | |
1:20:44 | |
1:20:50 | R:ผมต้องการพูดถึงเรื่องสัจจะ |
ก่อนบ่ายโมง | |
1:20:51 | ผมไม่ต้องการจะผัดผ่อนเลื่อนออกไป |
1:20:53 | แต่เรื่องใหญ่ของคุณก็คือ |
อย่าเอาเรื่องกาลเวลาเข้ามา | |
1:20:59 | K:ครับ ผมเพิ่งพูดไปเมื่อกี้นี้ |
ตอนบ่ายโมง | |
1:21:02 | R:ไม่ครับ ยังไม่ถึงบ่ายโมง |
1:21:07 | การเห็น "สิ่งที่เป็นอยู่จริง" |
อย่างที่มันเป็นอยู่ ก็คือการเห็นสัจจะ | |
1:21:17 | ผมอยากจะพูดให้ลัดสั้นอย่างนั้น |
1:21:23 | K:คุณครับ... |
1:21:29 | R:และสัจจะไม่ได้อยู่ห่างจาก... |
1:21:33 | K:ผมไม่ทราบว่ามันคืออะไร |
1:21:36 | R:นั่นคือสิ่งที่ผมบอกคุณว่า การเห็น |
1:21:39 | K:ผมไม่ทราบว่าการเห็นหมายถึงอะไร |
1:21:43 | คุณได้บอกผมว่าการเห็นหมายถึงอะไร |
แต่ผมอาจจะมองไม่เห็นก็ได้ | |
1:21:50 | ผมอาจจะคิดว่าผมเห็น |
1:21:53 | R:ครับถ้าอย่างนั้นคุณก็ไม่เห็น |
1:21:56 | K:ผมต้องชัดเจนว่า |
ผมไม่ได้คิดเอาเอง... | |
1:22:00 | ...ว่าผมกำลังเห็นอยู่ |
1:22:02 | R:ไม่ครับ |
1:22:04 | K:คุณครับ ตลอดชีวิตของผม |
เป็นอย่างนั้นแหละ | |
1:22:06 | คือผมคิดว่าผมเห็น |
1:22:09 | R:มันแตกต่างจากการเห็น |
1:22:12 | K:คุณพูดอย่างนั้น |
1:22:15 | แต่คนธรรมดาทั่วไปพูดว่า |
ครับ ผมเห็น | |
1:22:18 | ซึ่งที่จริงก็คือ ผมคิดเอาว่า |
ผมมองเห็น ผมเข้าใจสิ่งที่คุณกำลังพูดถึง | |
1:22:21 | แต่ผมอาจจะไม่เห็น |
"สิ่งที่เป็นอยู่" จริงๆ ก็ได้ | |
1:22:26 | ผมคิดเอาว่าผมเห็น "สิ่งที่เป็นอยู่" |
1:22:29 | S:กฤษณะจี ผมขอพูด |
อาจจะเป็นคำถามง่ายๆ แต่... | |
1:22:33 | ...คุณพูดว่า คนทั่วๆไป บอกว่า... |
1:22:36 | ..."ผมเห็น ผมเข้าใจ |
สิ่งที่คุณกำลังพูดถึงอยู่"... | |
1:22:40 | ...แต่จริงๆ แล้วเขาไม่ได้เข้าใจ |
K:ใช่แล้ว | |
1:22:40 | S:เขาแค่เห็นอะไรบางอย่าง |
โดยที่จิตเขาคิดว่าเขาเห็น... | |
1:22:44 | ...หรือเห็นโดยการขบคิดด้วยเหตุด้วยผล |
1:22:45 | เราจะถามได้ไหมว่า... |
1:22:46 | ...อะไรหรือที่จะทำให้คนทั่วๆไป |
เกิดการเห็นที่ถูกต้อง... | |
1:22:53 | ...การเห็นที่ไม่ใช่เห็นผ่านความคิด |
1:22:57 | K:ผมอธิบายไปแล้วครับ |
1:23:00 | ว่าก่อนอื่นผมต้องรู้จักฟัง |
1:23:03 | S:ครับ |
1:23:04 | |
1:23:09 | K:ทว่า เราฟังจริงๆ หรือ |
หรือใจเราเต็มแน่นไปด้วยข้อสรุปสารพัด... | |
1:23:11 | ...ท่วมท้นจนจิตใจเรา |
ไม่สามารถที่จะฟัง | |
1:23:17 | เมื่อคุณเห็นผม คุณก็พูดว่า... |
1:23:18 | ..."เขาเป็นคนอินเดีย อย่าไปสนใจเขา |
เขาไม่รู้อะไรหรอก" | |
1:23:24 | หรือคุณพูดว่า "อืม เขาเป็นคน |
มีน้ำใจนะ" อย่างนี้เป็นต้น | |
1:23:28 | ฉะนั้นคุณไม่ได้ฟังจริงๆ |
1:23:33 | S:ถ้าอย่างนั้นคำถาม |
ที่ผมเพียงเปลี่ยนถ้อยคำก็คือ... | |
1:23:37 | ...อะไรนำมาซึ่งการฟังที่ถูกต้อง |
1:23:43 | K:ได้มีการกล่าวกันว่า |
โดยความทุกข์ | |
1:23:46 | ซึ่งมันช่างเหลวไหล |
1:23:48 | ได้มีการกล่าวกันว่า |
ต้องมีความเพียร | |
1:23:52 | ซึ่งก็เหลวไหลอีก |
1:23:54 | คุณฟังเมื่อมีคนบอกว่า |
"ผมรักคุณ" ใช่ไหม | |
1:23:58 | |
1:24:07 | ดังนั้น คุณทำเช่นเดียวกันได้ไหม |
1:24:08 | ฟังสิ่งที่คุณคิดว่ามันระคายใจได้ไหม |
1:24:17 | ทีนี้กลับมายังประเด็นคำถาม |
เรื่องสัจจะ | |
1:24:20 | บ่ายนี้เรามีการสนทนาไหม |
1:24:27 | M:ดิฉันคิดว่าเราจะมาพบกัน |
ตอนบ่ายสามโมงครึ่งค่ะ | |
1:24:30 | K:บ่ายสามโมงครึ่ง |
1:24:32 | ถ้าอย่างนั้นเรามาพูดถึงสัจจะต่อดีไหม |
1:24:36 | R:ไม่ครับ ผมไม่อยากรอสัจจะแล้ว |
1:24:42 | (หัวเราะ) |
1:24:45 | K:คุณต้องการได้มันทั้งหมด |
ภายในห้านาทีหรือ | |
1:24:49 | R:แม้ห้านาทีก็ไม่ได้ครับ |
1:24:50 | K:หนึ่งนาทีล่ะ |
1:24:52 | R:หนึ่งนาที |
1:24:53 | ถ้าคุณทำไม่ได้ในหนึ่งนาที |
ต่อให้ห้าชั่วโมงคุณก็ทำไม่ได้ | |
1:24:57 | K:ผมเห็นด้วยครับ |
1:25:07 | ตกลงครับในหนึ่งวินาที |
1:25:12 | สัจจะไม่อาจรับรู้ได้โดยอาศัยกาลเวลา |
1:25:18 | ขณะใดที่มีตัวตนอยู่ |
สัจธรรมไม่ดำรงอยู่ | |
1:25:27 | สัจจะไม่ปรากฏถ้ามีการเคลื่อนไหว |
ของความคิดไม่ว่าในทิศทางใดๆ | |
1:25:32 | สัจจะ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหยั่งวัด |
หรือประเมินค่าได้ | |
1:25:39 | R:สัจจะ |
1:25:46 | K:ผมพูดว่าสัจจะ |
1:25:56 | และหากปราศจากความรักปราศจาก |
ความเมตตาที่ประกอบด้วยสติปัญญาของมันเอง | |
1:26:02 | สัจจะก็ไม่อาจดำรงอยู่ |
1:26:09 | R:ใช่ครับ คุณให้ความหมายมัน |
ในเชิงปฏิเสธอีกแล้ว... | |
1:26:16 | ...ตามธรรมเนียมปฏิบัติ |
ที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า | |
1:26:20 | K:คุณเห็นไหม คุณรู้ไหมว่า |
คุณได้ทำอะไรไว้ ดูซิครับ | |
1:26:25 | คุณได้แปลความในลักษณะของจารีต |
1:26:30 | |
1:26:34 | เพราะฉะนั้นขออภัยที่ผมชี้ให้เห็นตรงๆ |
ผมไม่ได้หยาบคาย... | |
1:26:36 | ...การทำเช่นนั้นคุณได้เคลื่อนออกไป |
จากการฟังจริงๆ | |
1:26:41 | R:ผมฟัง ผมฟังอย่างดีทีเดียว |
1:26:44 | K:ถ้าอย่างนั้นคุณก็คงได้สัมผัส |
กลิ่นหอมของมัน | |
1:26:49 | R:ครับ และผมก็ได้กลิ่นหอม |
ของสิ่งที่คุณพูด | |
1:26:57 | และนั่นคือสาเหตุว่าทำไม |
ผมจึงต้องการได้มันในหนึ่งนาที | |
1:27:01 | K:ครับ... |
1:27:02 | แล้วอะไรคือความสัมพันธ์ |
ของสัจจะกับความเป็นจริง | |
1:27:11 | ระวังครับ ขอให้รอบคอบ |
1:27:13 | ผมหมายถึงสองสิ่งนี้ |
ต้องแยกจากกันตลอดไปหรือ | |
1:27:18 | R:ไม่ครับ |
1:27:20 | K:ไม่หรือ |
1:27:22 | R:ไม่ครับ ผมไม่ลังเลเลย |
ผมไม่ลังเลอย่างนั้น | |
1:27:25 | มันไม่ได้แยกออกจากกัน |
1:27:28 | K:คุณรู้ได้อย่างไร |
1:27:30 | R:ผมรู้จักมัน |
1:27:31 | K:ไม่ใช่ครับ |
1:27:34 | ฮือ! มันไม่ได้แยกต่างจากกันหรือ |
1:27:40 | แล้วนั่นคุณหมายความว่าอะไรครับ |
1:27:45 | R:นั่นคือสิ่งที่ผมพูดไปแล้ว |
ว่าการเห็น | |
1:27:51 | K:สักครู่ครับ |
1:27:55 | สัจจะและความเป็นจริง |
มันไม่ได้แยกออกจากกัน | |
1:28:03 | นั่นหมายความว่า |
ความคิดและสัจจะอยู่ด้วยกันเสมอ | |
1:28:04 | ไม่ใช่หรือ |
1:28:06 | ถ้ามันไม่ได้แยกออกจากกัน |
ถ้าอะไรบางสิ่งไม่ถูกแยกออกไม่แบ่งแยก... | |
1:28:09 | ...มันก็ต้องอยู่ด้วยกัน |
เป็นการเคลื่อนไหว... | |
1:28:13 | ...เป็นกระแสที่เป็นหนึ่งเดียวกัน... |
1:28:16 | ความคิด... |
1:28:18 | R:ไม่ใช่ความคิด |
1:28:19 | K:ช้าก่อน นั่นคือสาเหตุว่าทำไม |
ผมถึงได้สืบค้นเกี่ยวกับความเป็นจริง | |
1:28:23 | |
1:28:27 | ความเป็นจริงคือทุกสิ่งทุกอย่าง |
ที่ความคิดสร้างขึ้นมา | |
1:28:31 | เราทุกคนเห็นด้วยว่ามันเป็นเช่นนั้น |
1:28:34 | คำว่า "ความเป็นจริง" |
เราอาจจะใช้คำพูด คำศัพท์อย่างอื่นก็ได้... | |
1:28:37 | ...ผมไม่ได้สนใจ |
แต่สำหรับตอนนี้เรากำลังพูดว่า... | |
1:28:40 | ...ความเป็นจริงคือทุกสิ่งทุกอย่าง |
ที่ความคิดสร้างขึ้นมา... | |
1:28:45 | ...รวมทั้งมายาด้วย... |
1:28:48 | ...ส่วนสัจจะก็ไม่มีอะไร |
เกี่ยวข้องกับความคิดเลย... | |
1:28:56 | ...มันเกี่ยวข้องกันไม่ได้ |
1:28:57 | และเพราะฉะนั้น |
สองสิ่งนี้อยู่ด้วยกันไม่ได้ | |
1:29:01 | R:การเห็นมายานั้น |
หรือมันจะเป็นอะไรก็ตาม... | |
1:29:07 | ...การเห็น "สิ่งที่เป็นอยู่" |
คือการเห็นสัจจะ | |
1:29:12 | "สิ่งที่เป็นอยู่จริง" คือสัจจะ |
1:29:17 | ไม่มีสัจจะใดอื่นนอกจากนั้น |
1:29:20 | "สิ่งที่เป็นอยู่" เป็นสัจจะ |
1:29:23 | K:เปล่าครับ |
1:29:26 | R:นั่นคือ "สิ่งที่เป็นอยู่" คือ สัจจะ |
1:29:29 | K:คุณครับ... |
1:29:31 | R:สิ่งที่ไม่เป็นอยู่ คือสิ่งไม่จริง |
1:29:34 | K:ไม่ใช่ เราพูดว่าความเป็นจริง |
คือกระแสของความคิด | |
1:29:40 | ถูกต้องไหมครับ |
1:29:43 | และสัจจะไร้กาลเวลา |
1:29:51 | สัจจะคือไร้กาลเวลา |
1:29:55 | มันไม่ใช่สัจจะของคุณ |
ของผมหรือของเขา... | |
1:29:59 | ...มันเป็นบางสิ่งบางอย่าง |
ที่อยู่เหนือพ้นกาลเวลา | |
1:30:01 | ส่วนความคิดเป็นของกาลเวลา |
สองสิ่งนี้ไปด้วยกันไม่ได้... | |
1:30:08 | R:สิ่งที่ผมพูดคือไม่มีสอง |
1:30:13 | K:คุณครับ... |
1:30:15 | R:นั่นคือความเป็นคู่อีก |
คุณกำลังแบ่งแยกอีก | |
1:30:20 | K:ไม่ ผมไม่ได้ทำเช่นนั้น |
1:30:22 | ผมกำลังชี้ให้เห็นครับ |
ผมอาจจะเข้าใจผิด | |
1:30:24 | แต่ผมเพียงชี้ให้เห็นเท่านั้น... |
1:30:29 | ...ว่าความคิดได้สร้าง |
สิ่งลวงอย่างนั้นขึ้นมา... | |
1:30:34 | |
1:30:39 | ...และยังมีสิ่งหลอกลวงอีกมากมาย |
ที่ความคิดทำให้เกิดขึ้น... | |
1:30:45 | ...และมันอาจจะหลอกตัวมันเองโดยพูดว่า |
"ใช่ฉันได้เห็นสัจจะแล้ว" | |
1:30:47 | เพราะฉะนั้น |
ผมจึงต้องให้ชัดเจนจริงๆ... | |
1:30:49 | ...มันต้องกระจ่างชัดจนไม่มี |
สิ่งหลอกลวงใดๆ อยู่อีก... | |
1:30:54 | ...ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม |
1:30:58 | และผมกำลังพูดว่าสิ่งลวงจะยังคงอยู่ |
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้... | |
1:31:00 | ...ถ้าหากผมไม่เข้าใจธรรมชาติ |
ของความเป็นจริง | |
1:31:09 | เรามาพูดเรื่องนี้ต่อหลังอาหารกลางวัน |
1:31:13 | R:ในช่วงบ่ายผมอยากจะพูดถึง |
ปัญหาอื่นมากกว่า | |
1:31:18 | |
1:31:20 | เพราะสำหรับปัญหาที่มันไม่มีที่จบสิ้น |
1:31:22 | K:ได้ครับ ปัญหาอะไรหรือครับ |
1:31:25 | R:ปัญหาอื่นที่เราอยากจะพูดถึงคือ... |
1:31:30 | ...ความต่อเนื่อง |
ภาวะก่อนกำเนิดมีอยู่หรือไม่... | |
1:31:33 | ...ซึ่งคนทั่วไปเรียกว่า |
การเกิดใหม่ | |
1:31:34 | K:การเกิดใหม่หรือ |
1:31:35 | R:ครับ |
1:31:36 | K:ครับ เรามาพูดกัน |
หลังอาหารกลางวันดีไหมครับ | |
1:31:38 | R:ผมเห็นด้วยครับ |
1:31:39 | K:ตกลง |
1:31:40 | R:ผมคิดว่าตรงนี้เราได้มาถึงสัจธรรม |
1:31:47 | ผมไม่ทราบว่าคุณจะ… |
1:31:49 | K:ผมไปไม่ถึงสัจธรรม |
ผมเข้าไปหาสัจธรรมไม่ได้ | |
1:31:54 | R:เปล่าครับ คุณเห็นสัจจะ |
1:32:00 | K:ผมไม่เห็นสัจจะ |
1:32:01 | มันต่างกันราวฟ้ากับดิน ผมเข้าหา |
สัจธรรมไม่ได้ ผมไม่เห็นสัจจะ | |
1:32:05 | สัจธรรมดำรงอยู่ |
มีอยู่หรือสามารถอยู่ได้... | |
1:32:11 | ...ก็ต่อเมื่อไม่มีตัวตนอยู่เท่านั้น |
1:32:15 | R:ถูกต้องแล้วครับ |
1:32:20 | K:เราไปกินข้าวกันเถอะ ดีไหม |