BR79Q2 - การพบปะเพื่อ ถาม-ตอบ ครั้งที่ 2
บร็อกวู้ดพาร์ค สหราชอาณาจักร วันที่
30 สิงหาคม 1979
0:31  | ขณะนี้เรามีทั้งหมด 150 คำถาม |
0:39  | ผมไม่คิดว่าเป็นไปได้ |
0:41  | ที่เราจะตอบคำถามทั้งหมด |
ในเช้าวันนี้ | |
0:45  | บางทีอาจจะต้องใช้เวลาถึง 1 เดือน |
จึงจะตอบได้ทั้งหมด | |
0:49  | แต่พวกคุณก็จะไม่อยู่กันที่นี่ |
ส่วนผมก็ไม่อยู่เช่นกัน | |
0:57  | ผมคิดว่า |
ก่อนที่เราจะตอบคำถามเหล่านี้ | |
1:06  | โปรดระลึกว่า |
เรามีส่วนร่วมกันในคำถาม | |
1:10  | เช่นเดียวกับในคำตอบ |
1:16  | อาจจะไม่ได้ตอบคำถามของคุณ |
โดยเฉพาะ | |
1:21  | เพราะคำถามมากมาย |
เกินกว่าที่จะสำรวจได้ทุกคำถาม | |
1:23  | |
1:29  | แต่ผมคิดว่าเราคัดสรรมาบ้างแล้ว |
1:35  | หรือรวบรวมมาเป็นคำถามตัวแทน |
ของคำถามอื่น ๆ | |
1:40  | ใน 140 คำถามนั้น |
1:45  | ผมจึงหวังว่าคุณคงไม่ว่ากระไร |
1:47  | ที่ไม่ได้ตอบคำถามของคุณโดยเฉพาะ |
1:56  | ผมเกรงว่าพวกเราส่วนใหญ่ |
1:59  | ถามคำถามแล้ว |
พยายามหาคำตอบจากคนอื่น ๆ | |
2:05  | |
2:13  | เมื่อเราถามคำถาม |
2:18  | เราต้องตรวจสอบดูว่า |
ทำไมเราจึงถามคำถามเหล่านั้น | |
2:23  | มันเป็นคำถามที่แท้จริง ที่จริงจัง |
และใช้กับชีวิตได้จริง ๆ หรือเปล่า | |
2:25  | |
2:29  | หรือเป็นเพียงคำถาม |
ที่คิดเพ้อฝันขึ้นมา | |
2:34  | ฉะนั้นจึงไม่มีคำตอบ |
2:39  | ที่ถูกต้องเหมาะสม |
และเป็นจริงได้ | |
2:43  | แต่อย่างที่เราพูดแล้วว่า |
เรากำลังมีส่วนร่วมกัน | |
2:45  | ในคำถามและในคำตอบ |
2:49  | และผมหวังว่า ในเช้าวันนี้ |
เราสามารถทำเช่นนั้นได้ | |
3:09  | ผมหวังว่า |
คุณคงไม่รู้สึกร้อนจนเกินไป | |
3:13  | ผู้พูดได้พูดมาแล้วว่า |
การไปทำงานในที่ทำงานทุก ๆ วัน | |
3:16  | |
3:19  | จาก 9 โมงเช้าจนถึง 5 โมงเย็นนั้น |
เหมือนการถูกขังคุกอันเหลือทน | |
3:21  | |
3:24  | แต่ในสังคมใด ๆ ก็ตาม |
งานทุก ๆ อย่างจะต้องทำให้ลุล่วง | |
3:29  | |
3:32  | ฉะนั้น คำสอนของ Kจึงมีไว้ |
เพื่อคนไม่กี่คนเท่านั้นหรือ | |
3:38  | คุณเข้าใจแล้วหรือยัง |
ผมอ่านอีกครั้งดีไหม | |
3:50  | ผู้พูดเคยพูดว่า สังคมมนุษย์ |
3:53  | |
3:56  | ที่ถูกสร้างขึ้นทั่วทั้งโลกนั้น |
4:00  | ผู้คนส่วนใหญ่ต้องยุ่งอยู่กับงาน |
4:03  | |
4:07  | ไม่ว่างานนั้นจะน่าพอใจหรือไม่ |
4:09  | ตั้งแต่ 9 โมงเช้าจรด 5 โมงเย็น |
ทุก ๆ วัน ในชีวิตของพวกเขา | |
4:16  | และเขาก็พูดด้วยว่า |
มันเหมือนสภาพการติดคุก อันสุดจะทน | |
4:17  | |
4:24  | ผมไม่ทราบว่า พวกคุณ |
รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ | |
4:27  | บางที |
คุณอาจจะชอบการอยู่ในห้องขัง | |
4:30  | คุณอาจจะชอบงาน |
จาก 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็นของคุณ | |
4:33  | |
4:35  | ต้องเร่งรีบไปมา |
และอื่น ๆ ทำนองนั้น | |
4:41  | แล้วเราจะทำอย่างไรดี |
4:47  | สำหรับผู้พูด |
เขาจะไม่ทนเลย | |
4:52  | แม้สักนาทีเดียว |
สำหรับผู้พูดนะครับ | |
4:56  | ผมจะทำอะไรบางอย่าง |
ซึ่งผมรู้สึกสบายใจ พอใจ | |
5:01  | เป็นงานที่มีประโยชน์และจำเป็น |
เพื่อให้มีรายได้เพียงพอเป็นต้น | |
5:04  | |
5:08  | แต่พวกเราส่วนใหญ่ |
ยอมรับคุกขังนี้ | |
5:12  | ยอมรับความซ้ำซากจำเจนี้ ใช่ไหม |
5:18  | |
5:20  | คุณเข้าใจไหม |
เรายอมรับสภาพนั้น | |
5:22  | แล้วเราจะทำยังไงกันดี |
5:29  | เท่าที่เราสามารถจะสังเกต |
อย่างมีประสิทธิภาพพอ | |
5:32  | |
5:37  | ไม่มีใครที่เคยตั้งข้อกังขา |
ต่อสภาพเช่นนี้ ไม่มีใครเลยจริง ๆ | |
5:40  | |
5:44  | เราต่างก็บอกว่า |
มันเป็นเรื่องปกติ | |
5:47  | มันเป็นวิถีของสังคม |
มันเป็นวิถีของชีวิตเรา | |
5:51  | มันเป็นวิถีที่เราต้องมีชีวิตอยู่ |
5:54  | แต่ถ้าเราทั้งหมดเห็นร่วมกันว่า |
การถูกจองจำเยี่ยงนั้น | |
5:58  | |
6:03  | ซึ่งมันเป็นความจริง |
6:07  | ที่เราทุกคนรู้สึก ว่ามันสุดจะทน |
เราก็จะทำอะไรบางอย่างกับสภาพนั้น | |
6:11  | ไม่เพียงปากพูด |
แต่ทำอะไรบางอย่างจริง ๆ | |
6:14  | เราจะสร้างสังคมใหม่ ใช่ไหม |
6:18  | ถ้าพวกเราทุกคนบอกว่า |
เราจะไม่ยอมทน | |
6:22  | |
6:24  | แม้เพียงวันเดียว |
ต่อสภาพซ้ำซากจำเจนี้ | |
6:28  | |
6:34  | ที่ทารุณโหดร้าย |
ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น | |
6:37  | ไม่ว่ามันจะจำเป็นแค่ไหน ไม่ว่า |
มันจะดีและน่าพอใจแค่ไหน ก็ตาม | |
6:41  | แล้วเราก็จะก่อให้เกิดการปฏิวัติ |
6:45  | ไม่เพียงทางด้านจิตใจเท่านั้น |
แต่ปฏิวัติทางด้านนอกด้วย | |
6:50  | ใช่ไหมครับ |
6:53  | เราอาจจะเห็นด้วย |
แต่เราทำกันหรือเปล่า | |
6:59  | คุณอาจจะบอกว่า |
ผมทำอย่างนั้นไม่ได้ | |
7:01  | เพราะว่า ผมมีความรับผิดชอบ |
7:04  | ผมมีลูก ๆ |
มีบ้านที่ติดจำนอง | |
7:07  | |
7:10  | มีค่าประกันที่ต้องจ่าย |
ขอบคุณพระเจ้า ที่ผมไม่มีอะไรสักอย่าง! | |
7:13  | |
7:19  | และคุณก็อาจจะพูดด้วยว่า |
7:21  | "มันง่ายสำหรับคุณ |
ที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้" | |
7:31  | แต่มันง่ายจริง ๆ สำหรับผู้พูด |
ที่จะพูดเรื่องนี้ | |
7:33  | เพราะเขาปฏิเสธ |
การเข้าไปในแบบแผนนั้น | |
7:38  | เขาปฏิเสธมา |
ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก | |
7:45  | ตอนนี้ ถ้าเราทุกคนรับพิจารณา |
7:48  | การปฏิวัติทางจิตใจเยี่ยงนั้น |
7:54  | เหมือนกับการปฏิวัติทางกายภาพ |
7:56  | โดยไม่มีการเสียเลือดเนื้อ |
และอื่น ๆ ทำนองนั้น | |
8:00  | เราก็จะสร้างสังคม |
ชนิดที่ต่างออกไปเลย ไม่ใช่หรือ | |
8:05  | |
8:09  | คุณต้องการจะให้คนอื่น |
สร้างสังคมขึ้นมา | |
8:13  | แล้วคุณสามารถ |
ที่จะเล็ดลอดเข้าไปในนั้นได้ | |
8:16  | นั่นคือสิ่งที่พวกเราทุกคน |
ต่างรอคอย | |
8:21  | มีไม่กี่คนเท่านั้น ที่ดิ้นรนต่อสู้ |
ลงมือทำเพื่อสรรค์สร้าง | |
8:28  | และปฏิเสธที่จะเข้าไป |
ในวังวนอันดุเดือด | |
8:34  | ส่วนบุคคลอื่น ๆ |
ก็บอกว่า | |
8:35  | "ได้เลย หลังจากที่คุณได้สร้างสังคม |
ที่คุณคิดว่าถูกต้องขึ้นมา | |
8:40  | "ผมจะเข้าร่วมกับคุณ" |
แต่เราไม่ร่วมลงมือทำ | |
8:43  | |
8:47  | นั่นแหละคือปัญหาทั้งหมด |
ของเรื่องนี้ | |
8:51  | ใช่ไหม |
8:55  | ถ้าทุกคนรู้สึกถึงความจริงนี้จริง ๆ |
ไม่ใช่เป็นเพียงแนวคิด | |
8:58  | |
9:01  | |
9:04  | รู้สึกถึงการใช้ชีวิตของเรา |
จาก 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น | |
9:07  | บางทีอาจจะเช้ากว่านั้นอีก |
9:09  | เป็นมาอย่างนั้นทุกวัน ในชีวิตเรา |
ถึง 60 ปี และนานกว่านั้นอีก | |
9:17  | เราก็จะทำอะไรบางอย่าง |
ต่อเรื่องนี้ | |
9:21  | เหมือนกับการที่คุณปฏิเสธสงคราม |
9:27  | คุณเข้าใจไหม |
สงคราม การเข่นฆ่าคนอื่น ๆ | |
9:32  | ในนามประเทศชาติของคุณ |
เพื่อพระเจ้าของคุณ | |
9:36  | ไม่ว่าจะเพื่ออุดมการณ์อะไรก็ตาม |
ถ้าหากคุณทุกคนปฏิเสธการฆ่าคนอื่น | |
9:38  | |
9:41  | สงครามก็จะไม่เกิดขึ้น |
ใช่ไหม | |
9:45  | |
9:47  | แต่เราได้วางโครงสร้างสังคม |
9:50  | สร้างสังคม |
อยู่บนพื้นฐานของความรุนแรง | |
9:57  | การสั่งสมอาวุธยุทโธปกรณ์ |
และแต่ละชาติ ต่างปกป้อง | |
9:59  | ปกป้องชาติของตน จากชาติอื่น ๆ |
10:03  | ดังนั้น เราจึงต่างทำให้สงคราม |
คงอยู่สืบไป | |
10:06  | |
10:09  | สงครามที่ฆ่าลูกชายหญิง |
พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากคุณ | |
10:14  | และเราสนับสนุนสงครามนั้น |
10:18  | เหมือนกับที่เราสนับสนุน |
และสืบทอดการถูกจองจำเอาไว้ | |
10:21  | |
10:28  | มันอาจจะเป็นความน่าพอใจ |
สำหรับคนที่ทำงานที่เห็นชอบด้วย | |
10:33  | แต่คนที่ปฏิเสธ |
ที่จะเข้าไปในเกมส์นี้ | |
10:38  | พวกเขาจะกระทำการ |
พวกเขาจะลงมือทำอะไรบางอย่าง | |
10:42  | ฉะนั้น ปัญหาก็คือ |
10:45  | เราเห็นความสำคัญ |
10:50  | หรือเห็นความจำเป็น |
ที่จะต้องเปลี่ยนแปลง หรือเปล่า | |
10:57  | ที่สุดแล้ว จิตของมนุษย์นั้น |
ไม่ใช่แค่เพื่อหมกมุ่นกับงาน | |
11:00  | |
11:05  | วุ่นวายอยู่กับการงานใดโดยเฉพาะ |
ไม่ว่าจะพึงใจ หรือไม่พึงใจก็ตาม | |
11:08  | |
11:11  | จิตมนุษย์ |
มีคุณสมบัติอื่น ๆ ด้วย | |
11:21  | ซึ่งเราเพิกเฉย ไม่ใส่ใจ |
11:26  | แต่เราเกี่ยวข้องอยู่กับ |
ชีวิตทั้งชีวิต | |
11:28  | ไม่ใช่แค่งานอาชีพ 9-5 โมงเย็น |
แต่เรามีชีวิตอยู่อย่างไร | |
11:32  | |
11:34  | มีความอาทร ความเอาใจใส่ |
11:36  | |
11:39  | มีความรัก ความเมตตา |
บ้างหรือเปล่า | |
11:43  | ทั้งหมดนั้น |
เป็นองค์ประกอบของชีวิต | |
11:48  | แต่เราถูกครอบงำ |
11:51  | ให้อยู่ในแนวคิดที่เราต้องทำงาน |
11:59  | และเราวางโครงสร้างของสังคม |
12:02  | ที่เรียกร้องให้เราต้องทำงาน |
12:07  | จากเช้าจรดค่ำ |
12:13  | ผู้พูดไม่ยอมเข้าไปในสังเวียน |
การแข่งขันที่ดุเดือดนั้น | |
12:20  | ไม่ใช่ว่าเขามีพรสวรรค์พิเศษ |
12:24  | ไม่ใช่ว่ามีใครบางคน |
จะคอยดูแลอุปถัมภ์เขา | |
12:28  | แต่เขาไม่ยอมเข้าไปในนั้น |
12:31  | ผมจะไม่เข้าไปแม้แต่เพียงวันเดียว |
12:35  | จาก 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น |
ไม่ว่าเพื่อใคร เพื่ออะไรทั้งสิ้น | |
12:43  | ผมจะยอมตาย |
แต่ผมจะไม่ยอมทำอย่างนั้น | |
12:48  | ในทำนองเดียวกัน |
ผมจะไม่ฆ่ามนุษย์คนอื่นเลย | |
12:52  | ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม |
12:54  | ผมทราบว่า |
คุณจะพูดอะไร | |
12:56  | "ถ้าน้องสาวของคุณถูกทำร้ายล่ะ |
คุณจะทำยังไง" | |
12:58  | คุณก็รู้เกมส์ที่เล่นกันอยู่ |
13:06  | เพราะความรุนแรง |
จะทำให้เกิดความรุนแรงยิ่ง ๆ ขึ้น | |
13:11  | คุณก็เห็นอยู่แล้วในประเทศไอร์แลนด์ |
13:18  | แต่เราทุกคนขี้ขลาดเหลือเกิน |
13:24  | เราขี้กังวล ขี้กลัว |
กระวนกระวาย เป็นทุกข์ | |
13:28  | เราต้องการความมั่นคงปลอดภัย |
ซึ่งเราคิดว่าเรามี แต่เราหามีไม่ | |
13:32  | |
13:37  | ดังนั้น คุณจะพิจารณาเรื่องนี้ไหม |
13:45  | เพื่อค้นหาว่า คุณจะปลดปล่อยตนเอง |
ออกจากสังเวียนนั้น ได้ไหม | |
13:48  | |
13:51  | |
13:56  | และการที่จะค้นหา |
เราต้องใช้ความสามารถ ใช้สติปัญญา | |
13:59  | |
14:03  | ไม่พูดว่า "เราไม่เข้าไปหรอก" |
14:07  | คุณไม่เข้าไปในสังเวียน |
ก็เพราะคุณมีสติปัญญา | |
14:12  | ไม่ใช่เพราะมีใครบอกคุณ |
14:14  | หรือคุณอ่านจากหนังสือ |
หรือนักปรัชญาพูดไว้ | |
14:19  | ผมคิดว่า ที่พูดมาชัดเจนมากแล้ว |
14:25  | และผู้ถาม ยังถามด้วยว่า |
14:30  | คำสอนของ K จึงมีไว้ |
สำหรับคนไม่กี่คนเท่านั้นหรือ | |
14:36  | นี่เป็นคำถามหนึ่ง |
ที่ถามกันแล้วถามกันอีก | |
14:38  | |
14:47  | คุณคิดอย่างไรล่ะ |
14:53  | ถ้าคำสอนนี้มีไว้เพื่อคนไม่กี่คน |
มันก็ไม่คุ้มค่า | |
14:57  | เดี๋ยวก่อนครับ |
ขอให้พิจารณาไปช้า ๆ | |
15:01  | ผู้พูดบอกว่า |
มันมีไว้สำหรับทุก ๆ คน | |
15:08  | แต่คนทุกคนไม่ได้รู้สึกจริงจัง |
15:19  | ไม่ได้มีพลังงาน เพราะว่า |
เขาใช้พลังงานไปในทางต่าง ๆ กัน | |
15:25  | ดังนั้น จึงค่อย ๆ หดหายไป |
เหลืออยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น | |
15:30  | |
15:33  | |
15:39  | เมื่อสังเกตเห็นอย่างนั้น คุณจึง |
บอกว่า คำสอนมีไว้สำหรับคนไม่กี่คน | |
15:44  | แต่หากว่า ถ้าคุณลงมือทำจริง ๆ |
15:47  | พิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง |
ด้วยจิตใจที่ถาม เพื่อสืบค้น | |
15:49  | |
15:52  | |
15:55  | จิตใจที่ต้องการจะมีชิวิต ชนิดที่ |
ต่างออกไป คำสอนจึงเพื่อทุก ๆ คน | |
15:59  | มันไม่มีอะไรเกี่ยวกับคำสอน |
ที่เป็นความลับ | |
16:05  | แต่มีความลึกลับอันยิ่งใหญ่ |
ที่ไม่อาจอธิบายได้ | |
16:07  | ถ้าคุณพ้นไปจากความจำกัดแคบ |
ของความคิด | |
16:13  | แต่เราไม่ทำสิ่งเหล่านี้กันเลย |
16:14  | เราไม่ทดลองดู |
เราไม่นำมาใช้ | |
16:17  | เราไม่กินอาหารที่วางไว้ให้ |
เบื้องหน้าเรา | |
16:24  | มีไม่กี่คนเท่านั้น ที่กินอาหารนั้น |
แล้วบอกว่า"เราคือคนชั้นยอดในสังคม" | |
16:27  | |
16:32  | แต่จริง ๆ แล้ว |
พวกเขาไม่ใช่คนชั้นยอด | |
16:34  | พวกเขาเป็นเพียงคนที่จริงจัง |
ที่ได้นำมาใช้กับชีวิต | |
16:38  | ได้ใคร่ครวญเกี่ยวกับมัน |
ได้พิจารณาสืบค้น | |
16:43  | ดูว่ามันมีผลกระทบต่อชีวิต |
ในแต่ละวันของพวกเขา หรือเปล่า | |
16:48  | จากนั้นเท่านั้น ที่เราสามารถ |
จะสร้างสังคมชนิดที่ต่างออกไปได้ | |
16:52  | |
17:01  | การเห็นแจ้งเป็นการหยั่งรู้ |
โดยสัญชาตญาณ ไม่ใช่หรือ | |
17:06  | คุณสนทนาถึงเรื่องความกระจ่างแจ้ง |
อันฉับพลัน | |
17:09  | ที่เกิดขึ้นกับพวกเราบางคนได้ไหม |
17:12  | การเห็นแจ้ง คุณหมายถึงอะไร |
17:14  | และมันเป็นสิ่งที่มีอยู่ชั่วครู่ |
หรือมันคงอยู่อย่างต่อเนื่อง | |
17:19  | |
17:23  | ผมอ่านคำถามอีกครั้งดีไหม |
ผู้ฟัง: ดีครับ | |
17:28  | การเห็นแจ้งเป็นการหยั่งรู้ |
โดยสัญชาตญาณ ไม่ใช่หรือ | |
17:34  | ผมมั่นใจว่า พวกคุณเคยได้ยิน |
คำ 2 คำนี้มาแล้ว | |
17:37  | คุณจะสนทนาเกี่ยวกับ |
ความกระจ่างแจ้งอันฉับพลัน | |
17:41  | ที่เกิดขึ้นกับพวกเราบางคน ได้ไหม |
17:43  | การเห็นแจ้ง คุณหมายถึงอะไร |
17:47  | มันเป็นสิ่งที่มีอยู่ชั่วครู่ |
ชั่วยาม หรือคงอยู่อย่างต่อเนื่อง | |
17:50  | |
17:54  | |
18:05  | ในการพูดหลาย ๆ ครั้ง ผู้พูดได้ |
18:10  | ผู้พูดได้ใช้คำว่า "การเห็นแจ้ง" |
18:16  | ซึ่งหมายถึง |
การเห็นเข้าไปในสรรพสิ่ง | |
18:22  | เห็นเข้าไปในการเคลื่อนไหว |
ทั้งหมดของความคิด | |
18:27  | เห็นเข้าไปในโครงสร้างทั้งหมด |
อย่างเช่น ความอิจฉา | |
18:33  | มองเห็น สัมผัสรู้ถึงธรรมชาติ |
ของความโลภ | |
18:38  | เห็นถึงเนื้อหาทั้งมวล |
ของความทุกข์โศก | |
18:45  | ซึ่งไม่ใช่การวิเคราะห์ |
18:50  | ไม่ใช่การใช้ความสามารถ |
ทางปัญญาความคิด | |
18:57  | ทั้งไม่ใช่ผลที่มาจากความรู้ |
19:05  | ความรู้คือสิ่งซึ่งได้สั่งสม |
รวบรวมเอาไว้แล้ว | |
19:08  | โดยผ่านประสบการณ์ในอดีต |
แล้วสั่งสมอยู่ในสมอง | |
19:12  | |
19:14  | ฉะนั้น ความรู้จึงเคียงคู่ |
ไปกับความโง่เขลาเสมอ | |
19:16  | |
19:20  | ความรู้ที่สมบูรณ์ไม่มีหรอก |
19:25  | ฉะนั้น จึงมีความรู้ |
และความโง่เขลา อยู่คู่กันเสมอ | |
19:29  | เสมือนม้าสองตัว ที่ผูกล่ามติดกัน |
19:33  | |
19:39  | เมื่อเป็นเช่นนั้น |
การเห็นแจ้งคืออะไรเล่า | |
19:42  | คุณเข้าใจคำถามของผมไหม |
คุณตามเรื่องที่พูดทันหรือเปล่า | |
19:44  | |
19:47  | เช้าว้นนี้อากาศร้อน |
19:49  | แต่ไม่เป็นไร |
หรือเป็นนิดหน่อย | |
19:59  | ถ้าการสังเกต |
ไม่ได้มาจากฐานของความรู้ | |
20:04  | ไม่ได้มาจากความสามารถ |
ทางปัญญาความคิดที่มีเหตุมีผล | |
20:10  | ที่สำรวจตรวจสอบ ที่วิเคราะห์ |
ถ้าเช่นนั้น การเห็นแจ้งคืออะไร | |
20:17  | |
20:19  | |
20:22  | นั่นคือปัญหาทั้งหมด |
20:24  | แล้วผู้ถาม ยังถามด้วยว่า |
มันเป็นการรู้โดยสัญชาตญาณหรือ | |
20:27  | |
20:31  | คำว่า "รู้โดยสัญชาตญาณ" |
ดูเหมือนมีกลเม็ดอยู่ | |
20:38  | เพราะว่าพวกเราหลายคน |
ใช้คำคำนั้น | |
20:46  | การรู้โดยสัญชาตญาณนั้น |
แท้ที่จริงอาจเป็นผลของความอยาก | |
20:53  | เราอาจจะอยากได้อะไรบางอย่าง |
20:56  | แล้วอีกไม่กี่วันต่อมา คุณเกิด |
รู้ขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่องนั้น | |
21:01  | และคุณคิดว่าการที่เกิดรู้สึกขึ้นมา |
เป็นสิ่งสำคัญพิเศษสุด | |
21:06  | แต่หากว่า คุณพิจารณาเรื่องนี้ |
อย่างค่อนข้างลุ่มลึก | |
21:09  | คุณอาจจะพบว่า มันมีพื้นฐาน |
อยู่บนความอยาก ความกลัว | |
21:11  | |
21:14  | ความสุขในรูปแบบต่าง ๆ |
21:17  | ดังนั้น ผมค่อนข้างกังขา |
เกี่ยวกับคำคำนั้น | |
21:22  | โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคน |
ที่ค่อนข้างเพ้อผันใช้คำนั้น | |
21:27  | หรือคนที่ช่างจินตนาการ ที่อารมณ์ |
อ่อนไหว และเขาต้องการอะไรบางอย่าง | |
21:29  | |
21:36  | คนพวกนี้ต้องเกิดความรู้สึก |
ขึ้นโดยสัญชาตญาณอย่างแน่นอน | |
21:39  | แต่มันอาจจะมาจาก |
ความอยากบางอย่าง | |
21:42  | ที่เห็นได้ง่าย ๆ |
ว่าเป็นการหลอกตัวเอง | |
21:48  | ฉะนั้นขณะนี้ เราทิ้งคำว่า |
การรู้โดยสัญชาตญาณเอาไว้ก่อน | |
21:54  | ผมหวังว่า |
ผมไม่ได้ทำให้ใครก็ตามเสียใจ | |
21:58  | ใครก็ตาม |
ที่ติดอยู่ในการรู้โดยสัญชาตญาณ | |
22:06  | ถ้าหากไม่ใช่อย่างนั้น |
แล้วการเห็นแจ้งคืออะไร | |
22:12  | การเห็นแจ้งคือ |
การรับรู้อะไรบางอย่าง ทันทีทันใด | |
22:17  | ซึ่งต้องเป็นจริง มีตรรกะวิสัย |
เป็นปรกติ เป็นเหตุเป็นผล | |
22:20  | |
22:26  | คุณเข้าใจหรือเปล่า |
22:29  | และการเห็นแจ้งนั้น |
ต้องปฏิบัติการทันควัน | |
22:36  | ไม่ใช่ว่าผมมีการเห็นแจ้ง |
แล้วไม่ทำอะไรเกี่ยวกับมันเลย | |
22:38  | |
22:43  | ถ้าหากผมมีการเห็นแจ้ง |
22:46  | ถ้าบุคคลมีการเห็นแจ้ง |
ในธรรมชาติทั้งปวงของความคิด | |
22:48  | |
22:52  | คุณเข้าใจไหม |
22:54  | ผมจะอธิบาย |
เกี่ยวกับความคิดสักเล็กน้อย | |
22:58  | การคิด |
เป็นการตอบสนองของความจำ | |
23:04  | ความทรงจำ |
เป็นผลที่มาจากประสบการณ์ | |
23:10  | มาจากความรู้ |
ที่เก็บสั่งสมอยู่ในสมอง | |
23:15  | ประสบการณ์นั้นตอบสนอง |
23:19  | ถ้าถามว่า คุณอยู่ที่ไหน |
คุณก็จะตอบ | |
23:23  | ถามว่า คุณชื่ออะไร |
23:25  | ก็จะมีการตอบออกมาทันที เป็นต้น |
23:29  | ความคิดเป็นผล |
หรือเป็นการตอบสนองของประสบการณ์ | |
23:33  | และความรู้ |
ที่สั่งสมขึ้นเป็นความทรงจำ | |
23:38  | เรื่องนั้นง่าย ๆ |
23:42  | ความคิดจึงขึ้นอยู่กับความรู้ |
หรือเป็นผลมาจากความรู้ | |
23:47  | |
23:49  | ความคิดจึงถูกจำกัด |
เพราะความรู้เป็นสิ่งจำกัด | |
23:52  | |
23:57  | ความคิด |
ไม่เคยรวมทั้งหมดทุกอย่างได้ | |
24:05  | มันต้องเป็นส่วนเสี้ยว |
ที่ถูกจำกัดอยู่เสมอ | |
24:09  | เพราะมันอยู่บนพื้นฐานของความรู้ |
และความโง่เขลา | |
24:13  | ฉะนั้น มันจึงมีขอบเขตขีดคั่น |
24:18  | มันจึงจำกัดแคบตลอดไป |
ใช่ไหม | |
24:22  | |
24:24  | แล้วการที่จะเห็นแจ้ง |
เข้าไปในการคิด | |
24:28  | |
24:31  | ซึ่งหมายถึงปฏิบัติการ ที่ไม่ใช่ |
เป็นเพียงการทำซ้ำ ๆ ของความคิด | |
24:35  | |
24:37  | จะเกิดขึ้นได้หรือ |
คุณตามทั้งหมดนี้ทันไหม | |
24:40  | |
24:42  | เช่นการเห็นแจ้ง |
ในความเป็นสถาบัน เป็นองค์กร | |
24:45  | เข้าใจไหม |
24:52  | การเห็นแจ้งเข้าไปในนั้น |
24:55  | ซึ่งหมายถึง คุณกำลังสังเกต |
โดยไม่มีความจำ | |
24:57  | |
25:01  | ไม่มีความทรงจำ |
ไม่มีการโต้เถียง ให้เหตุผล | |
25:03  | ไม่มีการเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย |
25:08  | เพียงแค่มองเห็น |
การเคลื่อนไหวทั้งหมด | |
25:13  | และมองเห็นการเรียกร้อง |
ต้องการสถาบัน | |
25:18  | จากนั้น คุณก็มีการเห็นแจ้ง |
ในเรื่องนั้น | |
25:20  | และจากการเห็นแจ้งนั้น |
คุณกระทำ | |
25:25  | การกระทำนั้นจะสมเหตุสมผล |
เป็นปรกติ สมบูรณ์ | |
25:31  | |
25:34  | ไม่ใช่คุณมีการเห็นแจ้ง |
25:37  | แล้วคุณทำตรงกันข้าม |
นั่นไม่ใช่การเห็นแจ้ง | |
25:40  | |
25:43  | ผมสงสัยว่า |
คุณเข้าใจนัยทั้งหมดนี้ หรือเปล่า | |
25:47  | ขออภัยที่ต้องหนักแน่น |
เด็ดขาด | |
25:51  | นั่นคือวิถีทางที่ผมแสดงออก |
26:00  | การที่จะมีการเห็นแจ้ง |
อย่างเช่น | |
26:03  | เห็นแจ้งในความเจ็บปวด ในบาดแผล |
ทางใจ ที่เราได้รับมาตั้งแต่เด็ก | |
26:06  | |
26:10  | คุณเข้าใจคำถามไหม |
26:14  | พวกเราต่างก็เป็นคนที่เจ็บปวด |
มาด้วยเหตุผลต่าง ๆ | |
26:19  | |
26:22  | ตั้งแต่เป็นเด็ก จนกระทั่งเราตาย |
มีบาดแผลนี้อยู่ในจิตใจเรา | |
26:25  | |
26:30  | การที่จะมีการเห็นแจ้ง |
26:32  | เข้าสู่ธรรมชาติ และโครงสร้าง |
ทั้งหมดของความเจ็บปวดนั้น | |
26:38  | คุณเข้าใจไหม |
ว่าผมกำลังพูดถึงอะไร | |
26:40  | ทั้งหมดนี้คุณตามทันไหม |
26:44  | พวกคุณมีความเจ็บปวด |
ไม่ใช่หรือครับ | |
26:46  | เป็นบาดแผลทางจิตใจ |
26:52  | คุณจะเล่นเกมส์กับผมด้วยได้ไหม |
26:56  | ขณะนี้ลูกบอลอยู่ในสนามฝั่งคุณ |
27:03  | มันเป็นเรื่องชัดเจน |
ที่พวกคุณมีบาดแผลทางใจ | |
27:10  | คุณอาจจะไปหานักจิตวิทยา |
นักจิตวิเคราะห์ นักจิตบำบัด | |
27:15  | แล้วพวกเขาก็สืบสาวย้อนหลังไป |
27:17  | ตั้งแต่คุณยังเป็นเด็ก |
ว่าทำไมคุณจึงเจ็บปวด | |
27:19  | เป็นเพราะแม่คุณเป็นอย่างนี้ |
พ่อคุณเป็นอย่างนั้น | |
27:21  | หรือคุณถูกจับให้นั่ง |
บนกระโถนผิดใบ | |
27:23  | หรือกระโถนถูกใบ |
และยังอื่น ๆ อีก | |
27:26  | โปรดพิจารณาในเรื่องนี้ |
27:34  | โดยเพียงการเฝ้าดู |
หรือการค้นหาสาเหตุ | |
27:39  | ความเจ็บปวดจะไม่สลายไป |
27:41  | ใช่ไหม |
27:42  | ความเจ็บปวดมีอยู่ |
27:47  | และผลที่ตามมา |
ของความเจ็บปวดนั้น ก็คือ | |
27:53  | การปลีกแยกตัวออกไป |
มีความกลัวและการต่อต้าน | |
27:57  | และเพื่อที่จะไม่ให้เจ็บปวดมาก |
ไปกว่านี้ คุณจึงปิดล้อมตนเองเอาไว้ | |
27:59  | |
28:02  | คุณก็รู้ทั้งหมดนี้ดี |
28:05  | นั่นคือกระบวนการทั้งหมด |
ในการเกิดความเจ็บปวด | |
28:09  | ความเจ็บปวด คือมโนภาพ |
28:11  | ที่คุณสร้างขึ้นด้วยตัวคุณเอง |
เกี่ยวกับตัวคุณ | |
28:14  | |
28:16  | คุณคงเข้าใจใช่ไหม |
28:21  | ตราบเท่าที่มโนภาพยังคงอยู่ |
คุณต้องได้รับความเจ็บปวดแน่นอน | |
28:24  | |
28:28  | การที่จะเห็นแจ้งในทั้งหมดนั้น |
โดยปราศจากการวิเคราะห์ | |
28:31  | |
28:36  | แต่เห็นมันทันควัน |
28:40  | และในการรับรู้ |
ของการเห็นแจ้งนั้น | |
28:44  | ซึ่งเรียกร้องความใส่ใจ |
28:47  | และพลังงานทั้งหมดของเรา |
ความเจ็บปวดก็สลายไปเอง | |
28:49  | |
28:52  | และเมื่อมันสลายหายไป |
ความเจ็บปวดจะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป | |
28:55  | ผมไม่แน่ใจว่า คุณเข้าใจไหม |
29:03  | ถ้าผมจะขอถาม |
ด้วยความสุภาพที่สุดว่า | |
29:10  | เมื่อคุณได้ฟังเรื่องนี้แล้ว |
คุณมีการเห็นแจ้งนั้นไหม | |
29:12  | |
29:15  | ที่จะสลายบาดแผลอันเจ็บปวดของคุณ |
ได้สิ้นเชิง โดยไม่เหลือร่องรอย | |
29:20  | |
29:22  | ฉะนั้นจึงไม่เจ็บปวดอีกต่อไป |
ไม่มีใครจะทำให้คุณเจ็บปวดได้อีกเลย | |
29:24  | |
29:26  | คุณเข้าใจไหม |
ทำให้คุณเจ็บไม่ได้ | |
29:28  | เพราะมโนภาพที่คุณสร้างขึ้น |
เกี่ยวกับตัวคุณเองหมดสิ้นไปแล้ว | |
29:30  | |
29:34  | คุณตามทั้งหมดนี้ทันหรือเปล่า |
29:37  | คุณกำลังทำอยู่หรือเปล่า |
29:38  | หรือว่าคุณแค่เพียงให้ความใส่ใจ |
ในคำพูด ในระดับถ้อยคำ | |
29:41  | |
30:00  | ผู้ถาม - ผมไม่เข้าใจจริง ๆ |
ว่าคุณหมายถึงอะไร | |
30:04  | เมื่อคุณพูดว่า |
เราสร้างความเจ็บปวดขึ้นมาเอง | |
30:08  | |
30:25  | K - ประการแรก |
ใครคือผู้เจ็บปวด | |
30:29  | การถูกทำให้เจ็บปวด |
คุณหมายถึงอะไร | |
30:37  | คุณครับ คุณหมายถึงอะไร |
ที่ว่าถูกทำให้เจ็บปวด | |
30:40  | คุณบอกว่า "ฉันเจ็บปวด" |
30:43  | แต่คุณรู้ตัวถึงความเจ็บปวดนั้น |
หรือเปล่า | |
30:47  | เรารู้สึกปวดร้าว |
30:52  | สิ่งที่เจ็บปวดอยู่นั้น |
คืออะไรกันแน่ | |
30:54  | คุณเข้าใจคำถามของผมไหม |
เข้าใจไหมครับคุณ | |
30:55  | อะไรคือสิ่งที่เจ็บปวด |
31:01  | คุณบอกว่า "มันก็คือผม" |
31:04  | "ผม" นั้นคืออะไร |
31:07  | มันก็คือมโนภาพที่คุณมี |
เกี่ยวกับตัวคุณ | |
31:12  | ถ้ามีมโนภาพเกี่ยวกับตนเอง |
31:15  | ว่าเป็นคนทางจิตวิญญาณ |
ที่ประเสริฐอย่างนั้นอย่างนี้ | |
31:20  | แล้วคุณก็มาพูดว่า |
31:21  | "ไม่ใช่หรอก คุณเป็นคนโง่ทึ่ม" |
ผมจึงรู้สึกเจ็บปวด | |
31:28  | นั่นคือความคิด |
-โปรดติดตามนะครับ | |
31:31  | ความคิดสร้างมโนภาพ |
เกี่ยวกับตนเองขึ้นมา | |
31:34  | |
31:38  | และมโนภาพนั้น |
คอยเปรียบเทียบอยู่เสมอ | |
31:47  | ว่ามโนภาพของผม |
เหนือกว่าของคุณ | |
31:50  | และอื่น ๆ อีกมากมาย |
31:53  | ดังนั้น ตราบใดที่เรามีมโนภาพ |
เกี่ยวกับตนเอง | |
31:57  | |
31:59  | มันก็จะถูกเหยียบย่ำไปมา |
โดยคนนั้นคนนี้ | |
32:04  | และนั่นเราเรียกว่าความเจ็บปวด |
เป็นบาดแผลทางจิตใจ | |
32:08  | |
32:12  | การเห็นแจ้งเข้าไปในเรื่องนั้น |
32:14  | หมายถึงการมองเห็น |
การเคลื่อนไหวทั้งหมด | |
32:20  | เห็นสาเหตุและเห็นมโนภาพด้วย |
32:25  | ฉะนั้น การหยั่งเห็นขบวนการนั้น |
ทำให้มโนภาพจบสิ้นไป | |
32:30  | คุณเข้าใจหรือเปล่า |
ไม่เข้าใจหรือครับ | |
32:32  | |
32:40  | อากาศร้อนจังเลย |
32:45  | ขอโทษครับเรื่องหวี |
ผมลืมไป | |
33:01  | คุณพูดว่าองค์กร |
จะไม่ช่วยให้มนุษย์ค้นพบ | |
33:05  | ในสิ่งที่พวกเราคริสเตียนเรียกว่า |
การช่วยให้พ้นบาป | |
33:12  | ถ้าเช่นนั้น |
ทำไมคุณจึงมีองค์กรของคุณเอง | |
33:18  | คุณบอกว่าองค์กร |
จะไม่ช่วยให้มนุษย์ | |
33:23  | ค้นพบสิ่งที่เราชาวคริสเตียน |
เรียกว่า การช่วยให้พ้นบาป | |
33:27  | แล้วทำไมคุณจึงมีองค์กรของคุณเอง |
33:42  | ในปี 1925 บางทีพวกคุณบางคน |
อาจจะยังไม่เกิด | |
33:45  | |
33:48  | ในปี 1925 ผู้พูดเป็นผู้นำองค์กร |
ซึ่งใหญ่โตมโหฬาร | |
33:52  | |
33:56  | เขาเป็นผู้นำองค์กรนั้น |
33:58  | ผู้คนในองค์กรแหงนมองเขา |
ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา | |
34:01  | |
34:04  | พวกเขาจุดเทียนบูชา |
และทำสิ่งทั้งหลายทำนองนั้น | |
34:08  | โปรดอย่าหัวเราะ |
เราเพียงกล่าวถึงความจริง | |
34:18  | องค์กรนั้น |
ถือเป็นองค์กรทางจิตวิญญาณ | |
34:21  | เป็นสถาบันหนึ่งทางศาสนา |
34:25  | ในปี 1925 หรือ 28 หรือ 29 |
ผมก็ลืมไปแล้ว | |
34:29  | แต่มันไม่สำคัญเลย |
34:34  | องค์กรนั้นชื่อว่า |
"The Order of The Star" | |
34:37  | ได้ถูกสลายไปโดยผู้พูด |
34:40  | เพราะเขาได้พูดว่า |
องค์กรทางจิตวิญญาณใด ๆ ก็ตาม | |
34:44  | ไม่ว่าประเภทใด |
ไม่เกี่ยวข้องกับทางจิตวิญญาณเลย | |
34:50  | แล้วเขาก็สลายองค์กรนั้นไป |
34:53  | คืนทรัพย์สิน |
และงานทั้งหมดขององค์กร | |
35:00  | |
35:04  | ตอนนี้เขามี - ไม่ใช่เขามี |
- แต่มีมูลนิธิอยู่ในหลายประเทศ | |
35:10  | ในอินเดีย ในประเทศนี้ |
ในอเมริกา และในแคนาดา | |
35:12  | |
35:15  | |
35:19  | ในอินเดียมี 5 โรงเรียน |
35:23  | อยู่ในส่วนต่าง ๆ ของประเทศ |
แต่ละโรงเรียนมีเนื้อที่มหาศาล | |
35:27  | |
35:31  | โรงเรียนเหล่านี้ |
35:34  | ดำเนินงานภายใต้ |
มูลนิธิกฤษณมูรติ | |
35:40  | ซึ่งรับผิดชอบในการดูแลผืนดิน |
35:42  | ดูแลให้โรงเรียนดำเนินไป |
ในทิศทางที่ถูกต้อง ไม่มากก็น้อย | |
35:45  | |
35:47  | แต่คงจะไม่ถูกทางมากกว่า! |
35:51  | ที่ประเทศนี้ก็มีมูลนิธิ |
และโรงเรียนด้วยเช่นกัน | |
35:54  | |
35:58  | เราหวังว่าโรงเรียน |
จะมุ่งไปในทิศทางที่ถูกต้อง | |
36:03  | นอกจากนั้น มูลนิธิยังรับผิดชอบ |
ในการเก็บรวบรวมงานพูดเหล่านี้ | |
36:08  | นำมาทำเป็นเทปเสียง |
และเป็นงานพิมพ์ เป็นต้น | |
36:11  | ที่อเมริกาและแคนาดา |
ก็ทำงานทำนองเดียวกัน | |
36:15  | งานเหล่านี้ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง |
กับจิตวิญญาณ ใช่ไหม | |
36:19  | มูลนิธิต่าง ๆ |
มีบทบาทเพียงแค่ทำงาน | |
36:22  | |
36:26  | จำเป็นต้องมีหน่วยงานเหล่านี้ |
เพราะกฎหมายเรียกร้อง ว่าต้องมี | |
36:29  | |
36:32  | และเพื่อพิมพ์หนังสือ |
ซึ่งคุณก็รู้เรื่องเหล่านั้นดี | |
36:35  | และเพื่อดูแลรักษาคำสอน |
ให้บริสุทธิ์ดุจเดิม | |
36:39  | มูลนิธิเหล่านี้ |
มีหน้าที่เพียงแค่นั้นเอง ใช่ไหม | |
36:43  | ไม่ได้มีหน้าที่อย่างอื่น ๆ เลย |
36:46  | มันไม่ใช่องค์กรทางจิตวิญญาณ |
ที่คุณจะเข้าร่วม | |
36:51  | เพื่อให้เข้าถึงนิพพาน |
หรือสวรรค์ หรืออะไรก็ตาม | |
36:54  | มันเรียบง่าย ตรงไปตรงมา ชัดเจนยิ่ง |
เข้าใจไหมครับ | |
37:00  | ฉะนั้นคราวต่อไป โปรดอย่าถามอีกเลย |
ว่าทำไมคุณจึงก่อตั้งองค์กร | |
37:03  | |
37:06  | มันเป็นเรื่องง่าย ๆ ตรงไปตรงมา |
เพราะมีโรงเรียน | |
37:12  | มีการจัดพิมพ์หนังสือจัดทำเทป |
จัดให้มีการพูด ในที่ที่ผมไปเยือน | |
37:14  | |
37:18  | บางแห่งก็ดูแล |
อำนวยความสะดวกให้ผู้พูด | |
37:20  | |
37:24  | เพราะผู้พูดไม่มีเงินทอง |
37:27  | เมื่อผู้พูดอยู่ในอินเดีย |
พวกเขาจึงดูแล | |
37:30  | ที่นี่ พวกเขาก็ดูแล |
37:32  | เมื่อผู้พูดอยู่ที่อเมริกา |
พวกเขาก็ทำเหมือนกัน | |
37:36  | จบแค่นั้น พอแล้วยังครับ |
37:38  | เรื่องนั้นจบแล้ว |
ไม่ใช่หรือครับ | |
37:40  | เรามาพูดกันถึงคำถามต่อไปดีไหม |
38:02  | กามรมณ์กับชีวิตทางศาสนา |
ไปด้วยกันได้หรือเปล่า | |
38:06  | |
38:09  | ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ |
มีบทบาทอะไรบ้าง | |
38:12  | ต่อการพยายามแสวงหาทางจิตวิญญาณ |
38:16  | กามรมณ์และชีวิตทางศาสนา |
ไปด้วยกันได้ไหม | |
38:20  | |
38:24  | สัมพันธภาพของมนุษย์มีบทบาทอะไร |
ในความบากบั่นทางจิตวิญญาณ | |
38:27  | |
38:52  | ประการแรกเลย |
38:55  | เพราะอะไรมนุษย์ทั่วทั้งโลก |
38:58  | |
39:02  | จึงทำให้กามรมณ์ เป็นสิ่งสำคัญ |
อย่างยิ่งในชีวิตของพวกเขา | |
39:08  | คุณเข้าใจคำถามของผมนะครับ |
39:10  | เพราะอะไรครับ |
39:18  | ทุกวันนี้ประเทศแถบตะวันตก |
มีทัศนะที่ค่อนข้างปล่อยอิสระ | |
39:23  | โดยยอมให้เด็กชายหรือหญิง |
อายุ 12-13 มีเพศสัมพันธ์กันได้ | |
39:28  | |
39:36  | เราจึงถามว่า |
เพราะเหตุใดที่มนุษย์ | |
39:41  | ในทุก ๆ กิจ ทุก ๅ บทบาท |
โดยตลอดชีวิตของเขา | |
39:44  | จึงทำให้เรื่องเพศ |
มีความสำคัญมหาศาลเช่นนั้น | |
39:53  | เอาล่ะครับ ตอบคำถามนี้ได้เลย |
39:55  | ถามคำถามนี้ |
39:56  | เรามีส่วนร่วมกันในคำถามนี้ |
ใช่ไหมครับ | |
39:59  | คุณไม่เพียงฟัง ดั่งฟังเทพพยากรณ์ |
ณ มหาวิหารเดลฟี | |
40:03  | แต่ทว่า เรากำลังสืบค้นด้วยกัน |
40:06  | มันเป็นชีวิตของคุณ |
ที่เรากำลังมองดูอยู่ | |
40:09  | |
40:14  | ยังมีคุรุพวกนั้นอีก |
40:22  | และมีระบบปรัชญา |
ที่เรียกว่าตันตระ | |
40:27  | ส่วนหนึ่งของตันตระ |
มีพื้นฐานอยู่ที่กามรมณ์ | |
40:31  | โดยคิดว่าอาศัยกามรมณ์ |
คุณสามารถจะเข้าถึงพระเจ้า | |
40:36  | พระเจ้านั้นจะเป็นอะไรก็ตาม |
40:39  | คำสอนนี้เป็นที่นิยมกันมาก |
40:48  | ยังมีอีกพวก |
อย่างเช่นพวกพระ | |
40:52  | พวกสันยาสีชาวอินเดีย |
และพระชาวพุทธ | |
40:57  | พวกเขาปฏิเสธกามรมณ์ |
41:02  | เพราะพวกเขาต่างยึดมั่นว่า |
41:07  | กามรมณ์ทำให้สูญเสียพลังงาน |
41:17  | แต่การจะเข้าถึง |
และได้รับใช้พระเจ้า | |
41:20  | คุณต้องเข้าหา |
ด้วยพลังงานที่เต็มเปี่ยม | |
41:23  | ฉะนั้นพวกเขาจึงปฎิเสธ กดข่ม |
และเร่าร้อนอยู่ในตนเอง | |
41:27  | |
41:31  | เพราะความต้องการทั้งปวง |
แต่กลับกดข่มมันเอาไว้ ควบคุมมันไว้ | |
41:33  | |
41:36  | ดังนั้น จึงมีทั้งการยินยอมเห็นควร |
และสภาพที่เรียกว่าการกดข่มทางศาสนา | |
41:39  | |
41:44  | ยังมีพวกที่อยู่ระหว่างทั้งสองอย่าง |
คือพวกที่สนุกกับทุกสิ่งทุกอย่าง | |
41:47  | พวกที่เท้าข้างหนี่งอยู่ฝั่งนี้ |
อีกข้างหนึ่งอยู่ฝั่งโน้น | |
41:54  | พวกเขาสามารถพูดคุยได้ |
เกี่ยวกับทั้งสองอย่าง | |
41:58  | พวกเขาพยายาม |
ที่จะประสานทั้งสองอย่างให้ได้ | |
42:02  | แล้วค้นหาพระเจ้า |
หรือค้นหาอะไรก็ตาม ที่คุณต้องการ | |
42:07  | ในที่สุดคุณอาจจะค้นพบ |
ว่าส่วนใหญ่เป็นสิ่งเหลวไหลไร้สาระ | |
42:11  | ดังนั้นเราจึงถามว่า |
ทำไมผู้คนชายและหญิง | |
42:13  | |
42:18  | จึงทำให้เรื่องทางเพศ |
สำคัญหนักหนา | |
42:26  | ใช่หรือเปล่า |
42:29  | ทำไมคุณจึง |
ไม่ให้ความสำคัญเท่าเทียมกัน | |
42:34  | ต่อความรัก |
คุณเข้าใจไหม | |
42:37  | |
42:41  | ต่อความเมตตาการุณย์ |
42:44  | ต่อการไม่ฆ่า |
42:47  | ทำไมคุณจึงให้คุณค่าอย่างใหญ่หลวง |
ต่อกามรมณ์เท่านั้น | |
42:52  | คุณเข้าใจหรือเปล่า |
ว่าผมกำลังพูดถึงอะไร | |
42:54  | สงครามของคุณ การคุกคามอันน่ากลัว |
การแบ่งแยกเป็นประเทศชาติของคุณ | |
42:58  | |
43:02  | สังคมที่เรามีชีวิตอยู่ |
ล้วนผิดทำนองคลองธรรมทั้งสิ้น | |
43:09  | ทำไมเราจึงไม่ให้ความสำคัญ |
เท่าเทียมกันกับทั้งหมดนั้น | |
43:14  | ไม่ใช่ให้ความสำคัญ |
ต่อกามรมณ์เท่านั้น | |
43:16  | คุณตามทันไหมที่ผมถาม |
เพราะอะไรครับ | |
43:25  | มันเป็นเพราะว่ากามรมณ์เป็นความสุข |
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในชีวิตคุณใช่ไหม | |
43:28  | |
43:38  | ส่วนอื่น ๆ ของชีวิตคุณนั้น |
น่าเบื่อหน่าย | |
43:44  | เพราะมีความทุกข์ทรมาน |
จากความยากลำบาก การดิ้นรนต่อสู้ | |
43:50  | และการดำรงอยู่ด้วยความขัดแย้ง |
ที่ไร้ความหมาย | |
43:54  | ส่วนเพศรสอย่างน้อยที่สุด |
ก็ให้ความรู้สึกสุขอย่างยิ่งยวด | |
43:59  | ให้ความรู้สึกว่า |
สุขสบายดีแก่คุณ | |
44:03  | ให้ความรู้สึกถึงสิ่ง |
ที่คุณเรียกว่าความสัมพันธ์ | |
44:08  | สิ่งที่คุณเรียกว่าความรักด้วย |
ใช่ไหม | |
44:11  | |
44:13  | นั่นใช่ไหมคือเหตุผล ว่าทำไมเราจึง |
ได้คลั่งไคล้ในกามรมณ์กันหนักหน่วง | |
44:18  | ค้นหาเถิดครับ |
ตอบตัวคุณเอง | |
44:23  | เพราะว่าในทิศทางอื่น ๆ |
คุณไม่มีอิสระเลย | |
44:25  | |
44:29  | เราต้องไปสำนักงาน |
ตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น | |
44:33  | เป็นที่ที่คุณถูกบีบบังคับ |
ที่ที่คุณมีนายเหนือคุณ | |
44:36  | |
44:38  | คุณก็รู้ ถึงสิ่งทั้งหลาย |
ที่เกิดขึ้นในสำนักงาน ในโรงงาน | |
44:42  | |
44:44  | หรือในงานอื่นๆ |
ที่มีคนนั้นคนนี้ คอยบงการคุณ | |
44:52  | จิตใจของเรา |
จึงกลายเป็นกลไกอัตโนมัติ | |
44:58  | คุณเข้าใจทั้งหมดนี้หรือเปล่า |
45:04  | เราทำซ้ำทำซาก ทำซ้ำ ๆ ซาก ๆ |
45:11  | เราหลงเข้าไปติดอยู่ในจารีต |
ในร่องรางสภาพชีวิตที่น่าเบื่อหน่าย | |
45:17  | การคิดของพวกเรา คือเราคิดว่า |
45:20  | ฉันเป็นคริสเตียน |
ฉันเป็นพุทธ ฉันเป็นฮินดู | |
45:22  | ฉันเป็นคาทอลิก |
ฉันบูชาพระสันตะปาปา | |
45:27  | สิ่งทั้งหมดถูกจัดไว้แล้ว |
อย่างชัดเจน และคุณก็ทำตามนั้น | |
45:33  | หรือไม่คุณก็ปฏิเสธ |
ไม่ยอมรับทั้งหมดนั้น | |
45:36  | แล้วสร้างกิจวัตรของคุณขึ้นมาเอง |
45:41  | จิตใจเราจึงกลายเป็นทาส |
45:45  | ติดพันอยู่ในสารพัดแบบแผน |
ของการดำรงอยู่ | |
45:50  | มันจึงกลายเป็นกลไกอัตโนมัติ |
45:56  | กามรมณ์อาจจะให้ความสุขเพลิดเพลิน |
46:01  | แต่มันก็จะค่อย ๆ |
กลายเป็นกลไกที่ไม่มีชีวิต | |
46:07  | เราจึงถามว่า |
46:10  | ถ้าคุณต้องการจะพิจารณาเรื่องนี้ |
ให้ลึกอย่างยิ่ง เราถามว่า: | |
46:13  | |
46:14  | ความรัก คือกามรมณ์หรือ |
46:21  | ถามค้นต่อไปนะครับ |
46:25  | ความรัก คือความสุขเพลิดเพลินหรือ |
46:34  | ความรัก คือความอยากหรือ |
46:38  | ความรักคือความทรงจำถึงเหตุการณ์ |
ที่คุณเรียกว่าการร่วมเพศ | |
46:42  | การร่วมรัก |
รวมทั้งจินตนาการทั้งหมด | |
46:45  | ภาพต่าง ๆ การครุ่นคิดถึงมัน |
นั่นคือความรักหรือ | |
46:51  | โปรดเห็นแก่พระเจ้าเถิด! |
46:59  | ความรักเป็นความทรงจำหรือ |
47:08  | ผู้ถามถามว่า |
47:18  | โอพระเจ้า ผมลืมไปแล้วว่า |
คำถามอยู่ไหน อ้ออยู่นี่เอง | |
47:28  | ผู้ถามถามว่า |
47:32  | ความสัมพันธ์ของมนุษย์มีบทบาทอะไร |
ต่อการมุ่งมั่นแสวงหาทางจิตวิญญาณ | |
47:35  | |
47:38  | คุณเห็นไหม |
ว่ามันถูกลดระดับลงเป็นอะไร | |
47:42  | ความสัมพันธ์ของมนุษย์ก็คือ |
47:45  | ความสุขเพลิดเพลิน |
คือกามรมณ์ และความขัดแย้ง | |
47:51  | คือการทะเลาะเบาะแว้ง |
การแบ่งแยก | |
47:53  | คุณไปตามทางของคุณ |
ส่วนผมจะไปตามทางของผม | |
47:56  | คุณเข้าใจไหม |
นั่นคือความสัมพันธ์ของเรา | |
47:59  | ความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่จริง ๆ |
ในชีวิตแต่ละวันของเรา | |
48:06  | ความสัมพันธ์ของมนุษย์มีบทบาท |
อะไรบ้าง ในความบากบั่นทางจิตวิญญาณ | |
48:09  | |
48:14  | เห็นได้ชัด ๆ ว่า ความสัมพันธ์ |
อย่างที่เป็นอยู่นี้ | |
48:16  | ไม่มีบทบาทอะไรเลย |
เห็นได้ง่าย ๆ | |
48:25  | เราต่างก็อิจฉาริษยากัน |
48:29  | เราต่างต้องการครอบครองกัน |
48:33  | เราต่างต้องการครอบงำ |
48:39  | ดังนั้น จึงมีการต่อต้านกัน |
48:44  | เมื่อรู้สึกไม่พึงพอใจในเพศรส |
คุณก็ไปหาคนอื่นอีก | |
48:51  | ในความสัมพันธ์ทางเพศนั้น |
มีความรู้สึกอ้างว้างและเดียวดาย | |
48:58  | ใช่หรือเปล่าครับคุณ |
ทั้งหมดนั้น | |
49:02  | คุณแสวงหาความสุขเพลิดเพลิน |
เพื่อตัวคุณเองอยู่เสมอ | |
49:08  | นั่นคือความรักหรือ |
49:15  | คุณมองข้าม คุณละทิ้ง |
สิ่งที่คุณเรียกว่าความรัก | |
49:18  | |
49:21  | บางทีความรักเป็นสิ่ง |
แสนมหัศจรรย์ที่สุด ถ้าคุณมีมัน | |
49:26  | แต่คุณติดตรึงอยู่ในวังวน |
ของความอยากของตนเอง | |
49:32  | |
49:35  | ความสุขเพลิดเพลินของตนเอง |
ใช่ไหม | |
49:38  | |
49:44  | เรามีความต้องการอยู่เสมอ ไม่เพียง |
ต้องการความพึงพอใจทางเพศเท่านั้น | |
49:46  | |
49:51  | แต่ต้องการความพึงพอใจทุกๆอย่าง |
ซึ่งอยู่บนพื้นฐานความสุขเพลิดเพลิน | |
49:55  | |
50:00  | และนั่น เราเรียกว่าความรัก |
50:04  | และเพื่อความรักนั้น |
เราจะฆ่ากันเองด้วย ใช่ไหม | |
50:10  | เพื่อความรักประเทศชาติ |
50:14  | โอ้ ได้โปรดเถิด |
50:19  | เมื่อคุณไปถึงที่สุด |
ของสิ่งเหล่านี้ | |
50:22  | คุณก็พูดว่าทำไมมนุษย์ชายหญิง |
50:25  | จึงให้ความสำคัญกับสิ่งเดียวนี้ |
อย่างประหลาดที่สุด | |
50:27  | |
50:38  | ในบรรดานิตยสารทั้งหลาย |
คุณก็รู้ดีว่ามีอะไรอยู่บ้าง | |
50:42  | เพราะอะไรหรือครับ |
50:45  | มันเป็นเพราะมนุษย์ทั้งชายหญิง |
ได้สูญเสียสมรรถนะในการสร้างสรรค์ | |
50:52  | ไม่ใช่สมรรถนะทางเพศนะครับ |
คุณเข้าใจไหม | |
50:55  | แต่สมรรถนะในการสร้างสรรค์ |
50:58  | คือความสามารถที่จะเห็น |
ที่จะเป็นแสงสว่าง แก่ตัวเราเอง | |
51:09  | ไม่ตามใครเลย |
51:14  | ไม่บูชาภาพลักษณ์ใด ๆ |
มายาหรือความเชื่อใด ๆ | |
51:21  | เมื่อคุณทิ้งสิ่งทั้งหมดนั้นไป |
51:25  | และคุณได้เข้าใจ ถึงความอยาก |
อันเล็กน้อยคับแคบของตนเอง | |
51:31  | ซึ่งคือการเรียกร้อง |
ต้องการความพึงพอใจทางเพศของคุณ | |
51:34  | เมื่อคุณเห็นทั้งหมดนั้น |
51:37  | มีการเห็นแจ้งเข้าไป |
ในเรื่องทั้งปวง | |
51:41  | จากนั้น |
ภาวะสร้างสรรค์บังเกิดขึ้น | |
51:45  | มันไม่ได้หมายถึงการวาดภาพ |
51:49  | หรือการเขียนบทกลอน |
51:55  | แต่เป็นความรู้สึกสดใหม่อยู่เสมอ |
คุณเข้าใจนะ | |
52:01  | มีจิตใจที่ใหม่สด |
เยาว์วัย | |
52:03  | บริสุทธิ์ไร้เดียงสาตลอดเวลา |
ไม่หมองมัว | |
52:08  | ไม่แบกหนักด้วยความทรงจำสารพัด |
ความไม่พึงพอใจ | |
52:12  | ความกลัวและความกระวนกระวาย |
คุณรู้ไหม | |
52:15  | เมื่อสภาพเช่นนี้หายไป |
จากคุณจนหมดสิ้น | |
52:17  | จะมีจิตใจชนิดที่แตกต่างออกไป |
อย่างสิ้นเชิงเกิดขึ้น | |
52:22  | จากนั้นกามรมณ์จะมีที่ทาง |
มีบทบาทของมันเอง | |
52:29  | แต่เมื่อกามรมณ์กลายเป็นหนทาง |
ในความพยายามทางศาสนา | |
52:35  | คุณเข้าใจไหมครับ |
ว่าผมกำลังพูดถึงอะไร | |
52:40  | ถ้าเป็นอย่างนั้น |
เราก็ติดจมอยู่ในปลักจนหมดสิ้น | |
52:48  | เห็นได้ชัดทีเดียวว่า |
เราไม่มีคุณสมบัติที่ช่างสงสัย | |
52:52  | |
52:55  | |
53:00  | คุณเข้าใจหรือเปล่า |
53:02  | สงสัยเกี่ยวกับการเรียกร้อง |
ต้องการของตัวเราเอง | |
53:10  | ที่จะตั้งคำถาม กังขาในเหล่าคุรุ |
ที่มากมายเหลือคณา | |
53:19  | และการสงสัยก็กลายเป็น |
สิ่งที่ค่อนข้างอันตรายได้ด้วย | |
53:23  | เพราะถ้าหากคุณ |
ไม่ประคองมันเอาไว้ | |
53:27  | คุณก็จะสงสัยไปทุกสิ่งทุกอย่าง |
แล้วมันก็ไม่จบสิ้น | |
53:31  | ความสงสัยเสมือนสุนัข |
ที่มีสายหนังผูกรั้งเอาไว้ | |
53:35  | คุณต้องปล่อยมันไปบ้าง |
เป็นครั้งคราวหรือบ่อย ๆ | |
53:39  | เพื่อที่สุนัขจะสนุกสนาน |
ได้วิ่งไปรอบ ๆ | |
53:45  | ในทำนองเดียวกัน การสงสัย |
ก็ต้องมีการยั้ง รั้งไว้บ้าง | |
53:48  | แล้วปล่อยอิสระ |
ปลดสายรั้งออกไปบ้าง | |
53:53  | ดังนั้นจิตใจก็ |
- คุณทราบนะ | |
53:56  | จิตใจก็คือ หัวใจของคุณ สมองของคุณ |
อารมณ์ ความรู้สึกของคุณ | |
54:00  | ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเคลื่อนไหว |
ทำงานอยู่เสมอ ไม่เพียงถูกบงการ | |
54:03  | |
54:05  | ไปในทิศทางเดียว |
ซึ่งคือทางเพศ เพศ เพศ | |
54:26  | ความคิดสามารถรู้ตัวของมันเอง |
ในขณะที่มันเกิดขึ้นได้ไหม | |
54:32  | หรือว่าความรู้ตัว |
มาตามหลังความคิด | |
54:38  | จิตสำนึกสามารถจะรู้ตัว |
ต่อเนื้อหาทั้งหมดของมัน ได้ไหม | |
54:45  | ผมจะอ่านคำถามอีกครั้ง |
54:47  | ความคิดสามารถจะรู้ตัวของมันเอง |
ในขณะที่มันกำลังเกิดขึ้นได้ไหม | |
54:54  | หรือว่าความรู้ตัว |
มาตามหลังความคิด | |
55:01  | จิตสำนึกสามารถจะสำนึกรู้ |
ถึงเนื้อหาของมันทั้งหมดได้ไหม | |
55:17  | พวกเราส่วนใหญ่รู้ตัว |
หลังจากที่มันเกิดขึ้นผ่านไปแล้ว | |
55:25  | ใช่ไหม |
55:28  | รู้ตัวหลังจากเหตุการณ์ |
หลังจากการกระทำ | |
55:35  | แล้วเราก็บอกว่า |
55:37  | "ฉันควรจะทำ" |
"ฉันไม่ควรทำ" | |
55:43  | ผู้ถามถามว่า ความคิดจะรู้ตัวของ |
มันเอง ในขณะที่มันอุบัติขึ้นได้ไหม | |
55:47  | |
55:52  | ไม่ใช่รู้ทีหลัง ซึ่งค่อนข้างง่าย |
ส่วนใหญ่เราก็ทำอย่างนั้นอยู่แล้ว | |
55:57  | |
56:00  | แต่คำถามคือจะมีการรู้ตัวต่อความคิด |
ในขณะที่มันผุดขึ้นได้ไหม | |
56:03  | |
56:10  | คุณเข้าใจคำถามหรือเปล่า |
56:13  | อย่างน้อยที่สุด |
ก็ให้คุณเข้าใจคำถามนะ | |
56:19  | คุณสามารถจะรู้ตัว |
- โปรดฟังนะครับ | |
56:24  | รู้ตัวต่อความคิดของคุณได้ไหม |
56:26  | นั่นคือ ความคิดจะรู้ตัวของมันเอง |
ในขณะที่มันเกิดขึ้นได้ไหม | |
56:31  | |
56:40  | คุณเข้าใจคำถามนะ |
56:43  | นั่นคือ ชีวิตทั้งหมดของเรา |
ขึ้นอยู่กับความคิด | |
56:48  | |
56:51  | |
56:56  | ความคิดรู้จัก จำได้ถึงอารมณ์ |
57:00  | ถึงความอ่อนไหวทางอารมณ์ |
ความรู้สึกเพ้อฝัน | |
57:05  | จินตนาการ |
ความนึกคิด และอื่น ๆ | |
57:07  | ความคิดจำได้หมายรู้ทั้งหมดนั้น |
ใช่ไหม | |
57:11  | "โอ ผมเป็นคนที่มีอารมณ์ความรู้สึก |
อย่างยิ่ง" และอื่น ๆ อีก | |
57:14  | |
57:17  | และความคิดก็เป็นเครื่องมือ |
สำหรับการกระทำทั้งปวงของเรา ใช่ไหม | |
57:23  | |
57:27  | |
57:29  | ฉะนั้นจึงไม่มีความเป็นไปเอง |
เป็นธรรมชาติ | |
57:34  | ถ้าคุณมองเข้าไป |
ในตัวคุณเองอย่างจริงจัง | |
57:37  | ความเป็นธรรมชาติจะมีอยู่ |
เมื่อมีอิสรภาพสิ้นเชิงสมบูรณ์ | |
57:46  | ในทางจิตใจเท่านั้น |
57:51  | จิตของคุณจะรู้ตัวของมันเอง |
ในขณะที่ความคิดเกิดขึ้นได้ไหม | |
57:54  | |
58:03  | นั่นคือ จะมีการรู้ตัวไหม |
58:07  | เมื่อคุณเริ่มที่จะโกรธ |
58:13  | คุณตามทั้งหมดนี้ทันไหม |
58:16  | มีความรู้ตัว |
ในขณะที่ความอิจฉาเกิดขึ้นได้ไหม | |
58:24  | จะรู้ตัวต่อความโลภ |
ในขณะที่มันอุบัตขึ้นได้ไหม | |
58:32  | รู้ตัวต่อสิ่งนั้น |
58:35  | จะรู้ตัวได้ไหม |
58:39  | หรือคุณรู้ตัวเมื่อ |
คุณได้อิจฉาไปแล้ว | |
58:43  | หรือคุณได้โลภ |
คุณได้โกรธไปแล้ว | |
58:47  | ถ้าอย่างนั้น มันก็ค่อนข้างง่าย |
พวกเราส่วนใหญ่ก็ทำเช่นนั้น | |
58:50  | แต่การรู้ตัว |
อย่างใส่ใจยิ่งยวดนั้น | |
58:57  | คุณจะได้เห็นด้วยตัวคุณเอง |
เมื่อความโกรธกำลังคืบคลานเข้ามา | |
59:01  | เห็นการหลั่งของอดรีนาลีน |
และกระบวนการทั้งหมด | |
59:04  | เห็นความเคลื่อนไหวทั้งหมด |
ของความโกรธ | |
59:08  | คุณสามารถที่จะเห็นความโลภ |
ในขณะที่กำลังเกิดขึ้น | |
59:11  | เมื่อคุณเห็นอะไรบางอย่าง |
ที่คุณอยากได้ คุณก็จะมีปฏิกิริยา | |
59:17  | ให้รู้ตัวถึงสภาพนั้น |
59:19  | แน่นอนเราสามารถที่จะรู้ตัว |
ในขณะที่มันกำลังเกิดขึ้น | |
59:23  | จากนี้ คำถามจะยากขึ้น |
จะลึกลงไปอีกหน่อย | |
59:28  | ความคิดจะสามารถ |
- โปรดฟังนะครับ | |
59:32  | คุณสามารถรู้ตัวต่อความโกรธ |
ในขณะที่เกิดขึ้นซึ่งค่อนข้างง่าย | |
59:37  | แต่ตัวความคิด จะรู้ตัวของมันเอง |
ได้ไหม | |
59:45  | |
59:47  | คุณเข้าใจหรือเปล่า |
ว่าผมหมายถึงอะไร | |
59:53  | ขณะนี้คุณกำลังคิดอยู่ |
ไม่ใช่หรือ | |
59:56  | หรือว่าพวกคุณใจลอยกันทุกคน |
1:00:02  | ตอนนี้คุณกำลังคิดอยู่ ไม่ใช่หรือ |
1:00:05  | เอาละ ในขณะที่คุณกำลังคิดอยู่ |
1:00:08  | ลองค้นหาดูว่า การคิดนั้น |
สามารถรู้ตัวของมันเองได้ไหม | |
1:00:12  | ไม่ใช่คุณรู้ตัวต่อการคิด |
คุณเข้าใจปัญหาไหม | |
1:00:17  | |
1:00:18  | ผมสงสัยว่าคุณเห็นตรงนี้หรือเปล่า |
1:00:23  | มันเป็นเรื่องสนุกจริง ๆ |
ถ้าคุณลองค้นหาดู | |
1:00:30  | ไม่เพียงสนุกเท่านั้น |
มันเป็นเรื่องสำคัญจริง ๆ | |
1:00:32  | เพราะคุณสามารถจะไปได้ลึก |
อย่างยิ่งจริง ๆ ในเรื่องทั้งหมดนี้ | |
1:00:37  | อย่างเช่น คุณกำลังคิด |
เกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง | |
1:00:41  | |
1:00:44  | เกี่ยวกับเสื้อผ้าของคุณ |
คุณจะดูดีไหม คนอื่นจะว่ายังไง | |
1:00:48  | คุณจะเผชิญกับอะไรบ้าง |
เรื่องนั้น เรื่องนี้ | |
1:00:50  | การคิดมีอยู่ |
1:00:55  | ทีนี้ลองยกมา 1 ความคิด |
1:01:02  | แล้วดูว่าความคิดนั้น |
จะรู้ตัวมันเองได้ไหม | |
1:01:08  | ใช่ครับ การทำเช่นนั้น |
ต้องมีความใส่ใจอย่างมหาศาล | |
1:01:13  | ซึ่งพวกคุณไม่คุ้นเคยเลย |
1:01:17  | คุณกำลังคิดถึงเสื้อผ้าชุดที่คุณ |
มีอยู่แล้ว หรือที่คุณกำลังจะซื้อ | |
1:01:19  | |
1:01:24  | ความคิดที่ผุดขึ้นมานั้น |
1:01:27  | ความคิดนั้นจะพูดได้ไหมว่า |
"ครับ ผมตื่นอยู่" คุณเข้าใจไหม | |
1:01:32  | ผมเห็นตัวผมเอง |
1:01:37  | ความคิดเห็นตัวมันเอง |
ไม่ใช่คุณสังเกตเห็นความคิด | |
1:01:42  | เพราะคุณเองเป็นความคิดเช่นกัน |
1:01:46  | คุณเข้าใจหรือเปล่า |
1:01:48  | ไม่ใช่คุณที่เป็นผู้รู้ตัว |
ในขณะที่ความคิดเกิดขึ้น | |
1:01:50  | |
1:01:54  | แต่ตัวความคิด รู้ตัวของมันเอง |
ในขณะที่มันกำลังเกิดขึ้น | |
1:01:57  | |
1:01:59  | ผมสงสัยว่าคุณเห็นตรงนี้ไหม |
ไม่เห็นหรือ | |
1:02:04  | เอาล่ะ นั่นเป็นคำถามหนึ่ง |
1:02:06  | อีกคำถามก็คือ |
1:02:09  | จิตสำนึกสามารถรู้ตัว |
ถึงเนื้อหาทั้งหมดของมัน ได้ไหม | |
1:02:12  | |
1:02:17  | คุณเข้าใจหรือเปล่า |
1:02:18  | จิตสำนึกนั้น |
1:02:21  | ถ้าจะถามให้ลัด ให้สั้นเข้า |
1:02:25  | มันคือเนื้อหาของตัวมันเอง |
ไม่ใช่หรือ | |
1:02:28  | เนื้อหาคือความเชื่อของคุณ |
ชื่อของคุณ ประเทศชาติของคุณ | |
1:02:31  | อคติของคุณ ความคิดเห็นของคุณ |
ข้อสรุปของคุณ | |
1:02:35  | ความหวัง ความสิ้นหวังของคุณ |
ความสลดหดหู่ของคุณ | |
1:02:39  | การคำนึงถึงแต่ตัวคุณเอง |
คุณทั้งเชื่อและไม่เชื่อ | |
1:02:42  | คุณเชื่อในการเป็นคนอังกฤษ |
และการไม่เป็นคนอังกฤษ | |
1:02:45  | เชื่อว่ามีพระเจ้า |
หรือเชื่อว่าไม่มีพระเจ้า | |
1:02:47  | ทั้งปวงนั้น ทั้งความวิตกกังวล |
ความกลัวของคุณ | |
1:02:50  | ทั้งหมดนั้น คือเนื้อหาของคุณ |
ใช่ไหม | |
1:02:54  | การเรียกร้องต้องการทางเพศของคุณ |
แรงผลัก แรงกระตุ้นของคุณ | |
1:02:57  | ความสุขเพลิดเพลินของคุณ |
ทั้งหมดนั้นคือจิตสำนึกของคุณ | |
1:03:02  | จิตสำนึกนั้นสามารถที่จะ |
- โปรดฟังนะครับ | |
1:03:07  | จะรู้ตัวต่อเนื้อหาของมันเอง |
1:03:11  | อย่างเป็นทั้งหมดได้ไหม |
ไม่ใช่เพียงส่วนหนึ่ง | |
1:03:14  | คุณจับสาระสำคัญได้ไหม |
1:03:16  | คุณจับไม่ได้หรือ |
1:03:21  | เพราะคุณไม่ลงมือทำ |
1:03:23  | นี่คือสมาธิที่แท้จริง |
คุณเข้าใจไหม | |
1:03:27  | ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลไร้สาระ |
ที่ดำเนินอยู่ | |
1:03:35  | เพราะการจะเห็นทั้งหมดของชีวิตคุณ |
1:03:41  | ไม่เพียงเห็น |
ความต้องการทางเพศของคุณ | |
1:03:45  | เพราะเรื่องเพศ |
ไม่ใช่เป็นเรื่องเดียวของชีวิตคุณ | |
1:03:48  | ยังมีความกลัว ความตาย |
ความหวั่นวิตก | |
1:03:52  | ความรู้สึกผิด ความสิ้นหวัง |
ความเศร้าสลด ความทุกข์โศก | |
1:03:56  | ทั้งหมดนั้นคือองค์ประกอบ |
ของชีวิตคุณ | |
1:04:01  | ทั้งหมดนั้นคือจิตสำนึกของคุณ |
1:04:06  | ทีนี้ ผู้ถามถามว่า |
1:04:08  | จิตสำนึกของคุณ สามารถรู้ตัว |
ถึงเนื้อหาทั้งหมดของมัน ได้ไหม | |
1:04:10  | |
1:04:19  | นั่นหมายถึง คุณสามารถที่จะสังเกต |
- ไม่ใช่คุณสังเกต | |
1:04:23  | แต่มีการสังเกต |
ถึงสิ่งทั้งหมดนั้นไหม | |
1:04:33  | เราต้องพิจารณาในเรื่องนี้ |
ให้ลึกยิ่งจริง ๆ | |
1:04:36  | เราไม่มีเวลา แต่เรา |
จะเข้าไปในเรื่องนี้อย่างสั้น ๆ | |
1:04:40  | จิตสำนึกนั้น |
ประกอบกันขึ้นโดยกาลเวลา | |
1:04:45  | ผ่านกาลเวลา |
ผ่านสิ่งที่เราเรียกว่าวิวัฒนาการ | |
1:04:47  | |
1:04:52  | คุณเกิดเหตุการณ์ เรื่องราว |
อุบัติเหตุ มีความทรงจำ | |
1:04:58  | เกี่ยวกับชาติพันธุ์ ประเทศชาติ |
ครอบครัว และอื่น ๆ | |
1:05:02  | ทั้งหมดนั้นเป็นขบวนการ |
ที่มีอยู่ในจิตสำนึก | |
1:05:06  | |
1:05:10  | ใช่ไหม |
1:05:16  | มันเป็นไปได้ไหม ที่จะเป็นอิสระ |
จากเนื้อหานั้น อย่างสมบูรณ์ | |
1:05:19  | คุณเข้าใจหรือเปล่า |
1:05:24  | ไม่ คุณไม่ได้สนใจ |
ในเรื่องทั้งหมดนี้ | |
1:05:32  | เรื่องนี้สำคัญยิ่งยวดจริง ๆ |
เพราะว่า | |
1:05:36  | มิฉะนั้น เราจะดำเนินบทบาท อยู่ใน |
ขอบเขตของสิ่งที่รู้แล้วตลอดไป | |
1:05:45  | สิ่งที่รู้แล้วคือสิ่งที่ไม่รู้ |
ด้วยเช่นกัน คือความโง่นั่นเอง | |
1:05:50  | มันไม่เคยมีอิสรภาพเลย |
1:05:54  | นั่นคือ เมื่อคนคนหนึ่งมีชีวิต |
อยู่ในอดีตเสมอ เช่นเดียวกับคุณ | |
1:06:02  | จากอดีตนั้น |
คุณอาจจะคิดล่วงออกไปในอนาคต | |
1:06:07  | ในรูปของอุดมการณ์ |
ความหวัง และอื่น ๆ | |
1:06:09  | แต่มันก็ยังคงเป็น |
ขบวนการของอดีต | |
1:06:12  | ที่ดัดแปลงตัวมันเองผ่านปัจจุบัน |
1:06:17  | ดังนั้น คนที่มีชีวิต |
อยู่ในอดีตอย่างสิ้นเชิง | |
1:06:22  | หรืออยู่มากบ้างน้อยบ้าง |
จิตใจเขาเป็นอย่างไร คุณเข้าใจไหม | |
1:06:26  | เขาอาจจะมีเทคนิค วิธีการใหม่ ๆ |
1:06:30  | มีโอกาสใหม่ ๆ |
ที่จะเรียนรู้ทักษะรูปแบบอื่น ๆ | |
1:06:34  | แต่ที่จริงแล้ว |
ในตัวเขา | |
1:06:38  | จิตสำนึกของเขา |
คือขบวนการของอดีต | |
1:06:44  | ใช่ไหม |
1:06:48  | ฉะนั้น ชายหรือหญิง |
ผู้ดำเนินชีวิตอยู่ในอดีต | |
1:06:54  | อะไรเกิดขึ้นกับสมองของเขา |
จิตใจเขา | |
1:07:00  | มันไม่อาจที่จะเป็นอิสระได้เลย |
1:07:06  | ผู้ที่ถามค้นเข้าไป |
ในเรื่องนี้เป็นสำคัญ | |
1:07:13  | เขาต้องค้นหาว่า |
จิตสำนึกทั้งหมดนี้ | |
1:07:17  | พร้อมทั้งเนื้อหาทั้งปวง |
เป็นไปได้ไหมที่จะเห็นมันทันที | |
1:07:24  | ซึ่งหมายถึง |
มีการเห็นแจ้งเข้าไปในนั้น | |
1:07:31  | ผมไม่ทราบว่า |
คุณเคยพิจารณาบ้างไหม | |
1:07:35  | ที่จะมองอะไรก็ตาม |
มองอย่างทั้งหมด | |
1:07:40  | มองดูภรรยา |
หรือแฟนสาวของคุณ | |
1:07:43  | หรือสามีคุณ |
หรืออะไรก็ได้ อย่างทั้งหมด | |
1:07:47  | ไม่มองเพียงใบหน้าของเธอ |
นี่หรือนั่นของเธอ | |
1:07:50  | แต่มองดูคุณสมบัติทั้งหมด |
ของมนุษย์คนอื่น | |
1:07:58  | คุณจะทำอย่างนั้นได้ ก็ต่อเมื่อ |
ไม่มี "คุณ" เท่านั้น | |
1:08:02  | คุณเข้าใจนะครับ |
1:08:05  | เมื่อคุณไม่รวมศูนย์อยู่ที่นี่ |
ที่ตัวฉัน | |
1:08:09  | ความเป็น "ฉัน" นั้น เล็กน้อยมาก |
คับแคบมาก | |
1:08:12  | เพราะความเป็น "ฉัน" |
ก่อตัวสั่งสมขึ้นจากทั้งปวงนั้น | |
1:08:20  | เมื่อคุณเริ่มจะถาม |
ค้นเข้าไปในนั้น | |
1:08:27  | ว่าเป็นไปได้หรือไม่ |
ที่จะเห็นเนื้อหาทั้งหมด | |
1:08:29  | |
1:08:32  | เห็นขบวนการเคลื่อนไหวทั้งหมด |
ของจิตสำนึก | |
1:08:35  | ซึ่งหมายถึงเห็นโครงสร้างทั้งหมด |
ของความเป็น "ฉัน" | |
1:08:46  | การเห็น ต้องมีการสังเกตบริสุทธิ์ |
คุณเข้าใจนะ | |
1:08:50  | ไม่มีการชี้นำ |
ไม่มีอคติของคุณ | |
1:08:53  | ไม่มีทั้งความชอบและไม่ชอบ |
และอื่น ๆ ทั้งหมด | |
1:08:55  | ทว่าเพียงแค่สังเกตล้วน ๆ |
ถึงโครงสร้างอันไพศาลซับซ้อนยิ่ง | |
1:08:58  | |
1:09:02  | ก็เพราะความยุ่งยากซับซ้อนของมัน |
คุณจึงต้องเข้าหามันอย่างง่าย ๆ มาก | |
1:09:05  | |
1:09:10  | ใช่ไหม |
1:09:20  | ผมต่อไปอีกคำถามหนึ่งเลยได้ไหม |
1:09:24  | ผมหวังว่าคุณคงไม่ |
1:09:37  | ผมได้ลองทำสมาธิมาแล้วทุกแบบ |
ทั้งการอดอาหาร | |
1:09:42  | การใช้ชีวิตสันโดษ |
โดยโดดเดี่ยวอย่างสมัครใจ | |
1:09:45  | |
1:09:51  | |
1:09:53  | แต่มันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย |
1:09:57  | จะมีอะไรสักอย่าง |
หรือมีคุณภาวะสักอย่างไหม | |
1:10:01  | ที่จะยุติการแสวงหา |
และความสับสนของผมได้ | |
1:10:05  | ถ้าผมมีสิ่งนั้น |
ผมจะทำอะไรได้บ้าง | |
1:10:12  | ผมขออ่านคำถามอีกครั้งนะครับ |
1:10:15  | ผมพยายามทำสมาธิมาแล้ว ทุกรูปแบบ |
1:10:20  | ทั้งการอดอาหาร |
การมีชีวิตปลีกวิเวกอยู่โดดเดี่ยว | |
1:10:22  | |
1:10:29  | แต่มันก็ไม่มีอะไรบังเกิดขึ้น |
1:10:32  | จะมีสักอย่างไหม |
หรือสักสภาวะไหม | |
1:10:37  | ที่จะจบสิ้นการแสวงหาของผม |
และความสับสนของผม | |
1:10:40  | |
1:10:46  | ถ้าสิ่งนั้นมีอยู่ |
ผมจะทำอะไรได้บ้าง | |
1:10:51  | คุณเข้าใจคำถามนี้หรือเปล่า |
1:10:53  | พวกคุณอยู่ในสภาพนั้นไหม |
1:11:00  | คุณเข้าใจคำถามไหม |
1:11:01  | นั่นคือ |
มีคนคนหนึ่งไปประเทศญี่ปุ่น | |
1:11:07  | ไปทำสมาธิแบบพุทธ |
สมาธิแบบเซ็น | |
1:11:09  | สมาธิรูปแบบต่าง ๆ ของธิเบต |
แบบฮินดู คริสเตียน | |
1:11:12  | |
1:11:16  | และทำสมาธิมากมายแบบนับไม่ถ้วน |
ที่มนุษย์ได้คิดประดิษฐ์ขึ้น | |
1:11:19  | |
1:11:25  | |
1:11:27  | "ผมผ่านทั้งหมดนั้นมาแล้ว" |
1:11:32  | "ผมได้ทำโยคะประเภทต่าง ๆ |
ได้อดอาหารมาแล้ว | |
1:11:38  | |
1:11:40  | "ใช้ชีวิตสันโดษ |
เพื่อพยายามค้นหาว่า สัจจะคืออะไร" | |
1:11:44  | |
1:11:48  | "เมื่อทำทั้งหมดนั้นแล้ว |
ท้ายที่สุด ผมไม่ได้ค้นพบอะไรเลย" | |
1:11:51  | |
1:11:54  | คุณเข้าใจไหม |
1:11:57  | พวกคุณไม่เข้าใจหรอก |
1:11:59  | มันไม่เป็นเรื่องเศร้าสลด |
สำหรับคุณหรือ มันเศร้าไหม | |
1:12:08  | มีอะไรสักอย่างไหม |
1:12:11  | คุณสมบัติสักอย่าง ที่จะจบสิ้น |
การแสวงหาและความสับสนของผมได้ | |
1:12:13  | |
1:12:19  | ถ้ามีสิ่งนั้น |
บอกผมด้วยว่าต้องทำอย่างไรบ้าง | |
1:12:34  | คุณเข้าใจนัยทั้งหมด |
ของคำถามนี้หรือเปล่า | |
1:12:43  | ครั้งหนึ่งผมได้พบชายคนหนึ่ง |
1:12:46  | เขาแก่มากแล้ว |
ส่วนผมยังค่อนข้างหนุ่ม | |
1:12:49  | |
1:12:51  | ผมของเขาสีเทา |
เขาใกล้ตาย | |
1:12:57  | เขาได้ฟังการพูดครั้งหนึ่ง |
แล้วมาหาผมหลังจากนั้น | |
1:13:03  | เขาบอกว่า |
"ผมใช้ชีวิต 25 ปี ของผม" | |
1:13:09  | "ด้วยการอยู่สันโดษโดดเดี่ยว |
อยู่ในสมาธิ | |
1:13:11  | "ผมเคยแต่งงานมาแล้วและอื่น ๆ |
แต่ผมได้ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง" | |
1:13:15  | "และเป็นเวลา 25 ปีมาแล้ว |
ที่ผมทำสมาธิ" | |
1:13:20  | "แต่เมื่อผมได้มาฟังคุณ |
ตอนนี้ผมเห็นว่า" | |
1:13:24  | "ผมมีชีวิตอยู่ในมายา ในสิ่งลวง" |
คุณเข้าใจไหม | |
1:13:27  | |
1:13:29  | ตั้ง 25 ปี |
แต่พวกคุณไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง | |
1:13:37  | และการที่บอกตนเองว่า |
1:13:39  | "ผมใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งลวง |
ผมหลอกตนเองมานาน" | |
1:13:43  | คุณเข้าใจนะ |
1:13:44  | การพูดอย่างนั้น |
เมื่อเวลาผ่านไป 25 ปี | |
1:13:51  | มันหมายถึงชีวิตที่สูญเปล่า |
1:13:55  | ซึ่งอย่างไรเสีย |
พวกคุณก็ใช้ชีวิตเช่นนั้นอยู่ | |
1:13:58  | แม้จะไม่ได้ทำสมาธิมา 25 ปี |
1:14:08  | และเขาถามว่า |
มีอะไรสักอย่างไหม | |
1:14:16  | การกระทำหนึ่งอย่าง |
1:14:20  | หนึ่งก้าว |
ที่จะสลายความขัดแย้งของผม | |
1:14:22  | |
1:14:26  | ที่จะจบการแสวงหาของผม |
1:14:30  | คุณเข้าใจคำถามหรือไม่ |
1:14:32  | คุณอยู่ในสภาพนั้นไหม |
มีใครบ้างในพวกคุณ | |
1:14:37  | นอกจากผู้ที่ถามคำถามนั้น |
1:14:42  | คุณเข้าใจไหม |
คุณได้มาถึงที่สุดของขอบเขตของคุณ | |
1:14:50  | คุณได้อ่านมา |
ได้เดินทาง ได้ยิน | |
1:14:52  | ได้ร้องไห้ |
ได้ทำสมาธิมา | |
1:14:56  | คุณใฝ่หาปราถนา |
คุณยอมสละ คุณเข้าใจไหม | |
1:15:03  | บางทีพวกคุณยังไม่เคย |
ทำสิ่งเล่านั้นเลย | |
1:15:10  | ถ้าคุณได้ทำมาแล้วล่ะก็ |
1:15:12  | สิ่งหนึ่งเดียวที่จะสลาย |
ทั้งหมดนี้คืออะไร | |
1:15:25  | ประการแรกสุด อย่างได้แสวงหา |
1:15:33  | คุณเข้าใจไหม ว่ามันหมายถึงอะไร |
1:15:41  | เพราะถ้าคุณแสวงหา |
คุณจะค้นพบ | |
1:15:45  | แต่สิ่งที่คุณค้นพบก็คือ |
สิ่งที่คุณแสวงหาอยู่แล้ว | |
1:15:48  | ผมสงสัยว่าคุณมองเห็น |
เรื่องทั้งหมดนี้ไหม | |
1:15:53  | สิ่งที่คุณจะพบ |
ในการค้นหาของคุณ | |
1:15:56  | คือสิ่งที่คุณคิดไว้แล้วล่วงหน้า |
ว่าจะได้พบเห็น | |
1:16:02  | คุณคือ นักบวชของคุณ |
พระเจ้าของคุณ ศาสตราจารย์ของคุณ | |
1:16:05  | |
1:16:08  | คุรุของคุณ ปรัชญาของคุณ |
ประสบการณ์ของคุณ | |
1:16:10  | |
1:16:14  | สิ่งที่คุณคิดสร้างออกไปในอนาคต |
คุณจะพบสิ่งนั้น | |
1:16:18  | ฉะนั้น คนที่ฉลาดมีปัญญา |
จะไม่แสวงหา | |
1:16:28  | และผู้ถามถามว่า |
สิ่งหนึ่งนั้นคืออะไร | |
1:16:31  | |
1:16:49  | เพื่อสิ่งหนึ่งเดียวนี้ |
1:16:53  | จะต้องเป็นอิสระอย่างสิ้นเชิง |
1:16:58  | จากความผูกพัน |
การยึดติดทั้งหมด | |
1:17:06  | การยึดติดกับร่างกายของคุณ |
การออกกำลังกายของคุณ โยคะของคุณ | |
1:17:11  | ความคิดเห็นของคุณเอง การตัดสิน |
วินิจฉัย บุคคลและความเชื่อต่าง ๆ | |
1:17:14  | |
1:17:17  | ต้องมีอิสรภาพสมบูรณ์ |
จากการยึดติดทั้งปวง | |
1:17:25  | ใช่ไหม |
1:17:28  | อย่าทำให้มันเป็นเรื่องเศร้าโศก |
มันไม่ใช่เรื่องเศร้า | |
1:17:38  | จะต้องไม่มีความกลัวอยู่เลย |
1:17:42  | เดี๋ยวก่อน |
นี่ไม่ใช่สิ่งหนึ่งเดียวนั้น | |
1:17:48  | แต่ต้องไม่มีความกลัว |
ทางจิตใจโดยสิ้นเชิง | |
1:17:52  | เพราะฉะนั้น |
เมื่อมีความกลัวทางกายภาพ | |
1:17:55  | คุณก็จัดการกับมันได้ |
คุณเข้าใจนะ ว่าผมกำลังพูดอะไร | |
1:18:00  | เมื่อใครบางคนจู่โจมทำร้ายคุณ |
คุณก็จัดการกับเรื่องนั้น | |
1:18:04  | แต่ภายในจิตใจ |
คุณไม่มีความกลัว | |
1:18:12  | นั่นหมายถึง |
ไม่มีเวลาที่เป็นวันพรุ่งนี้ | |
1:18:16  | โอ้ คุณไม่เข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้ |
1:18:26  | เมื่อจิตใจได้เข้าใจธรรมชาติ |
ของความทุกข์โศก | |
1:18:34  | เพราะฉะนั้นจึงเป็นอิสระ |
จากความทุกข์โศก | |
1:18:39  | ซึ่งไม่ได้หมายถึง |
คุณเฉยเมย ไม่แยแส | |
1:18:41  | และอะไรต่าง ๆ เหล่านั้น |
แต่มีอิสรภาพจากความทุกข์โศก | |
1:18:46  | ใช่ไหม |
1:18:48  | สภาพเหล่านี้เป็นเพียงสิ่งที่ชี้บอก |
แต่ไม่ใช่สิ่งสุดท้าย | |
1:18:53  | ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่มีอยู่ |
สิ่งสุดท้ายก็เกิดขึ้นไม่ได้ | |
1:18:55  | |
1:18:59  | คุณเข้าใจจุดสำคัญไหม |
1:19:02  | ผมไม่คิดว่าคุณจะเข้าใจ |
1:19:05  | ดูเถิดครับคุณ |
ชายหรือหญิง | |
1:19:10  | ผู้ที่ใช้เวลาปีแล้วปีเล่า |
1:19:14  | ค้นหา แสวงหา |
ถามหา เรียกร้องหา | |
1:19:16  | |
1:19:19  | หรือทำสิ่งที่คิดว่า |
เป็นการเสียสละ | |
1:19:24  | สาบานตนถือพรหมจรรย์ |
ไม่ยุ่งเกี่ยวกับกามรมณ์ | |
1:19:29  | อยู่อย่างยากจน |
และท้ายที่สุดเขาก็บอกว่า | |
1:19:31  | "พระเจ้า ผมไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย |
ในมือผมมีแต่เถ้าถ่าน" | |
1:19:33  | |
1:19:39  | ถึงแม้พวกเขาคิดว่า |
เขามีพระคริสต์ หรือพระเยซู | |
1:19:45  | หรือพระพุทธเจ้าอยู่ในมือเขา |
แต่มันก็ยังคงเป็นขี้เถ้า | |
1:19:48  | ผมสงสัยว่าคุณเข้าใจทั้งหมดนี้ไหม |
1:19:57  | และคนอย่างนั้น |
เขาถามว่า | |
1:20:01  | อะไรคือบทบาท |
คือการกระทำที่ถูกต้องในชีวิตผม | |
1:20:05  | การกระทำที่ถูกต้อง ซึ่งถูกต้อง |
ภายใต้ทุกสถานการณ์ ทุกกรณี | |
1:20:08  | |
1:20:14  | การกระทำที่ไม่แปรเปลี่ยน ไม่เป็น |
ครั้งคราวไม่เปลี่ยนไปตามวัฒนธรรม | |
1:20:17  | ไม่เปลี่ยนไปตามประเทศชาติ |
การศึกษา | |
1:20:20  | เป็นการกระทำที่ถูกต้อง |
แม่นยำ เป็นจริง | |
1:20:33  | เมื่อทั้งหมดนี้กระจ่างชัด |
1:20:37  | ว่าจิตใจไม่ยึดติดกับตัวมันเอง |
โดยสิ้นเชิง | |
1:20:44  | |
1:20:47  | คุณเข้าใจนะครับ |
จิตไม่ยึดติดกับร่างกายของมัน | |
1:20:52  | ไม่มีความกลัว |
และมีการจบสิ้นลงของความทุกข์โศก | |
1:20:55  | |
1:21:01  | ถ้าหากประการเหล่านั้นชัดเจน |
สิ่งเดียวนั้นคือความเมตตาการุณย์ | |
1:21:05  | คุณเข้าใจหรือเปล่า |
1:21:14  | คุณไม่เข้าใจ |
1:21:18  | จากทั้งหมดนี้ |
ความเมตตาการุณย์อุบัติขึ้น | |
1:21:28  | ความเมตตาการุณย์ |
ไม่ใช่เถ้าถ่านในกำมือคุณ | |
1:21:35  | มันไม่ใช่ความเมตตาการุณย์ ที่ทำการ |
ปฏิรูปสังคม ที่ทำงานช่วยสังคม | |
1:21:42  | ที่เป็นนักบุญ |
ไม่ใช่ความเมตตาการุณย์ของนักบุญ | |
1:21:48  | ไม่ใช่ความเมตตาของผู้คน |
ที่ออกไปช่วยในสงคราม | |
1:21:51  | |
1:21:54  | ช่วยเยียวยารักษาผู้คน |
ไม่ใช่นายแพทย์ และอื่น ๆ | |
1:21:57  | มันไม่ใช่ทั้งหมดนั้น |
1:22:02  | มันคือคำตอบเดียว |
1:22:05  | ที่เป็นจริง |
ภายใต้ทุก ๆ สถานการณ์ | |
1:22:07  | จากนั้นจึงเป็นการกระทำ |
ที่ถูกต้อง | |
1:22:13  | เพราะความเมตตาการุณย์ |
เคียงคู่ไปกับสติปัญญา | |
1:22:19  | ถ้าหากไม่สติปัญญา |
อันเกิดจากความเมตตาการุณย์ | |
1:22:21  | |
1:22:23  | คุณเข้าใจนะ คุณก็จะหลงทาง |
ติดอยู่ในเรื่องเล็กน้อยที่ไม่สำคัญ | |
1:22:25  | |
1:22:31  | แต่โลกยอมรับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ |
ไม่สำคัญเหล่านั้น | |
1:22:34  | ว่าเป็นการกระทำอันพิเศษสุด |
ของความเมตตาการุณย์ | |
1:22:39  | แล้วพวกเขาก็กลายเป็นนักบุญ |
เป็นวีรชน | |
1:22:42  | พวกเขา |
กลายเป็นที่รู้จัก ที่ยอมรับกัน | |
1:22:44  | แบบโง่เขลาเบาปัญญา |
สารพัดของคนโง่ ๆ | |
1:22:50  | ดังนั้นจึงมีอยู่การกระทำเดียว |
เท่านั้น | |
1:22:55  | คุณสมบัติเดียวเท่านั้น |
ที่เลิศล้ำประเสริฐสุด | |
1:22:59  | และนั่นคือความเมตตาการุณย์ |
พร้อมด้วยสติปัญญาของมัน | |
1:23:02  | จากสติปัญญานั้น |
1:23:04  | มีการกระทำที่ถูกต้อง |
ภายใต้ทุก ๆ สถานการณ์ | |
1:23:15  | พอแค่นั้นนะครับ |