BR79T3 - เราสามารถรู้จักตัวเราอย่างสมบูรณ์ได้ไหม
การพูดต่อสาธารณชนครั้งที่ 3
ที่บร็อกวู้ดพาร์ค สหราชอาณาจักร วันที่
1 กั
0:51  | เราจะพูดคุยกันต่อ |
0:53  | จากที่เราได้พูดคุยกัน |
เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว | |
0:59  | และสืบค้นต่อไปในเรื่องนั้นได้ไหม |
1:17  | เราพูดคุยกันมาไม่ใช่หรือ |
1:22  | ว่าจิตของมนุษย์ |
1:26  | และวิถีทางที่เรามีชีวิตอยู่นั้น |
แตกแยก | |
1:34  | ออกเป็นเสี่ยง ๆ |
และเพราะมนุษย์เป็นเช่นนั้น | |
1:41  | เราจึงทำให้โลก |
เป็นอย่างที่มันเป็นอยู่ | |
1:48  | เป็นโลกที่ยุ่งเหยิงวุ่นวาย |
โหดร้าย สับสน โลกที่น่ากลัว | |
1:51  | และเราก็พูดแล้วว่า |
1:52  | การรู้สึกตัวนั้น |
1:55  | คือการรู้เกี่ยวกับตนเองทั้งหมด |
2:02  | รู้ทั้งในระดับที่สำนึกรู้ได้ |
และในระดับที่ไม่สำนึกรู้ | |
2:06  | รู้ถึงจิตส่วนที่อยู่ลึกลงไป |
และที่เผยให้เห็น | |
2:11  | ในการรู้ถึงตนเองอย่างสมบูรณ์ |
2:19  | ซึ่งเป็นไปได้ที่จะรู้จักตนเอง |
อย่างสมบูรณ์ถ้วนทั่ว | |
2:22  | จากนั้นเราก็สามารถเข้าหาโลก |
และตัวเราเองอย่างเป็นทั้งหมด | |
2:25  | ชีวิตเรา |
อย่างที่เรามีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ | |
2:31  | เป็นชีวิตที่เรารู้จักตัวเราเอง |
น้อยมากจริง ๆ | |
2:34  | และบางทีพวกนักจิตวิทยา |
2:41  | นักบำบัดเยียวยา |
และพวกผู้เชี่ยวชาญจิตวิเคราะห์ | |
2:47  | ก็บอกเราว่า เราเป็นอย่างไร |
2:50  | แต่การที่จะค้นหาว่า เราเป็นเช่นไร |
เราไม่อาจที่จะฟังคนเหล่านั้นได้ | |
2:57  | เพราะพวกเขาก็เหมือนกับเรา |
ต่างสับสนพอ ๆ กับเรา | |
3:01  | รู้สึกไม่แน่นอนใจเหมือน ๆ กัน |
3:07  | หวาดกลัวพอ ๆ กัน |
ในเรื่องหลากหลายต่าง ๆ กัน | |
3:10  | ฉะนั้น |
เราต้องพึ่งตัวเราเองอย่างเต็มที่ | |
3:16  | ไม่พึ่งพิงคนอื่น |
ให้บอกเราว่าจะต้องทำอะไร | |
3:23  | รวมทั้งไม่พึ่งพิงผู้พูดด้วย |
3:26  | เราสามารถรู้ตัวเราเอง |
อย่างสมบูรณ์ถ้วนทั่วได้ไหม | |
3:31  | รู้ถึงบาดแผลทางใจ ความกลัว |
ความกระวนกระวายใจ | |
3:33  | ความไม่แน่นอนใจ รู้ถึงเครือข่าย |
อันซับซ้อนของความสุขเพลิดเพลิน | |
3:37  | ความตาย ความรัก และมีการ |
สืบต่อหลังจากที่เราตายไปหรือไม่ | |
3:42  | และเราก็ควรที่จะตระหนักและรู้ |
และเข้าใจ | |
3:46  | ด้วยว่าสมาธิคืออะไร |
3:49  | ทั้งหมดนั้นคือชีวิตของเรา |
3:58  | การศึกษาของเรา งานของเรา |
วิธีคิดของเรา | |
4:03  | ความเชื่อของเรา |
ประสบการณ์ของเรา | |
4:08  | ความคิดเห็นที่หยั่งรากลึก |
ฝังติดแน่น และอื่นๆ | |
4:13  | ทั้งหมดนั้นคือชีวิตของเรา |
รวมทั้งการต่อสู้ดิ้นรน | |
4:20  | รวมทั้งการหลบหนี |
และความเจ็บปวดเวทนาของชีวิต | |
4:23  | เราจะรู้จักตัวเราอย่างสมบูรณ์ได้ไหม |
รู้ถึงทั้งหมดนั้น | |
4:25  | แล้วบางทีจากนั้น จึงจะเป็นไปได้ |
4:28  | ที่จะเข้าหาชีวิตทั้งหมดของเรา |
อย่างเป็นทั้งหมด | |
4:38  | ไม่ใช่อย่างมนุษย์ |
ที่แตกแยกเป็นส่วนเสี้ยว | |
4:43  | ดังนั้น ในเช้าวันนี้ |
เราจะพูดคุยร่วมกัน | |
4:50  | ว่ามันเป็นไปได้ไหม |
4:56  | โดยที่ไม่มีผู้ชี้นำใดๆ จากภายนอก |
4:59  | เพราะพวกเขา |
ต่างก็นำไปเข้ารกเข้าพง | |
5:04  | คนพวกนั้นทั้งหมดนำพาเรามาสู่ |
สภาพที่โลกเป็นอยู่ทุกวันนี้ | |
5:08  | ทั้งนักการเมือง นักเศรษฐศาสตร์ |
บุคคลทางศาสนาทั้งหลาย | |
5:10  | อีกทั้งพวกเหล่าคุรุ |
และก๊กแก๊งส์เหล่านั้น | |
5:13  | และมันกลายเป็นเรื่องสำคัญ |
เร่งด่วนและจำเป็น | |
5:17  | ที่เราต้องค้นหาด้วยตัวเราเองว่า |
5:23  | บทบาทหรือ |
การกระทำที่ถูกต้องคืออะไร | |
5:25  | ถูกต้องในทุกสถานการณ์ |
5:28  | การกระทำเช่นนั้น |
จะไม่นำไปสู่ความสับสนยิ่งขึ้น | |
5:33  | ไม่ทำให้ต้องเสียใจ เศร้าโศก |
ทุกข์ทรมานยิ่งขึ้น | |
5:37  | ฉะนั้น เราแต่ละคน |
5:41  | จะรู้จักตัวเราเอง |
อย่างสมบูรณ์เต็มที่ได้ไหม | |
5:49  | หรือเราต้องถูกชี้นำ ต้องได้รับ |
การเตรียมพร้อมเพื่อที่จะสืบค้น | |
5:53  | ที่จะค้นหา |
โดยการช่วยเหลือจากคนอื่น | |
5:58  | บุคคลอื่น ๆ ไม่ว่าจะมีภูมิรู้สูง |
จะเฉลียวฉลาดเพียงไร | |
6:06  | มีประสบการณ์มากเพียงไรก็ตาม |
ในทางจิตใจแล้วเขาก็เหมือนกับเรา | |
6:13  | เขามีทักษะมากกว่า |
ความสามารถยิ่งใหญ่กว่า | |
6:17  | ในการพูดแสดง |
ความรู้สึกนึกคิดและอื่น ๆ | |
6:22  | แต่เราได้ชี้ให้เห็นเมื่อวันก่อน |
ว่าเราแต่ละคนนั้น | |
6:30  | เหมือนกันกับคนอื่นๆ ทุกคนในโลก |
6:34  | ต่างก็ทุกข์โศก ทุกข์ทรมาน |
หดหู่ สับสน ไม่มั่นคงปลอดภัย | |
6:37  | มีความกลัวที่ยากจะทนได้และอื่นๆ |
6:46  | เราจะสามารถรู้ถึงตัวเราเอง |
โดยสมบูรณ์ | |
6:54  | โดยที่ไม่มีซอกมุมใดเลย |
ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ | |
6:59  | ไม่มีจุดใดที่ไม่เข้าใจ ไม่ไปพ้น |
7:02  | ในเช้าวันนี้ |
นั่นคือเรื่องที่เราจะพูดคุยร่วมกัน | |
7:07  | ซึ่งก็คือ |
7:11  | การรู้จักตนเอง |
7:15  | รู้ถึงการเคลื่อนไหวทั้งหมด |
ของความคิด | |
7:21  | รู้ถึงความกลัว |
ทั้งที่ซ่อนเร้นและเปิดเผย | |
7:26  | รู้ถึงการไขว่คว้าแสวงหาความสุข |
เพลิดเพลินทางกามารมณ์และอื่น ๆ | |
7:36  | ทั้งค้นหาด้วยตัวเราเองว่า |
ความรักคืออะไร | |
7:40  | เข้าใจนัยสำคัญทั้งหมด |
ของความทุกข์โศก | |
7:43  | ไม่เพียงความทุกข์โศกส่วนตัว |
แต่ของมนุษย์ชาติด้วย | |
7:46  | และเป็นไปได้ไหมที่เราจะเข้าใจ |
7:51  | เหตุการณ์สุดท้ายแห่งชีวิตเรา |
ซึ่งคือ ความตาย | |
7:56  | ที่กล่าวมาทั้งหมด |
คือการมีชีวิตอยู่ของเรา | |
7:59  | ถ้าหากเราไม่กระจ่างชัดในตัวเราเอง |
8:03  | ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม |
จะนำมาซึ่งความสับสนยิ่ง ๆ ขึ้น | |
8:07  | ดังนั้น มันสมควรที่เราจะค้นหา |
ดูเหมือนมันจำเป็นอย่างที่สุด | |
8:18  | ที่จะค้นดูว่าเราสามารถ |
จะรู้จักตัวของเราเองได้ไหม | |
8:20  | เรามาเริ่มต้นกัน |
8:24  | ซึ่งไม่ใช่เป็นการที่ผู้พูดสืบค้น |
8:28  | ส่วนคุณเพียงแค่ฟัง |
8:33  | แล้วยอมรับหรือปฏิเสธ |
แต่เราค้นหาด้วยกัน | |
8:39  | คิดร่วมกัน |
8:43  | ถ้าหากมันเป็นไปได้ที่จะร่วมกัน |
8:47  | เพราะปรากฏชัดว่าไม่มีคนแม้สักสองคน |
ที่ดูเหมือนจะคิดร่วมกันได้ | |
8:50  | เราจะเข้าไปทำความเข้าใจ |
เรื่องนี้ด้วยกัน | |
8:53  | โดยปราศจากแรงกดดัน |
9:00  | ปราศจากการบีบบังคับ |
ในลักษณะใดๆ | |
9:05  | ข้อเรียกร้องแรกเพื่อการนี้คือ |
ความใส่ใจในลักษณะที่ | |
9:08  | ไม่ใช่การพยายามรวบรวมจิต |
เพื่อจดจ่อ | |
9:13  | แต่เป็นคุณสมบัติบางอย่างของจิต |
ที่สนใจอย่างลึกซึ้ง | |
9:19  | จิตที่อุทิศเพื่อการค้นหา |
9:22  | เพราะฉะนั้นจึงรู้สึกเอาใจใส่ |
เป็นอิสระที่จะสังเกต | |
9:27  | ใช่ไหมครับ |
9:32  | เห็นได้ชัดว่าคุณสมบัตินั้น |
จำเป็นที่สุด จะขาดเสียมิได้ | |
9:40  | ถ้าเรามีอคติ |
หรือความลำเอียงบางอย่าง | |
9:43  | มีประสบการณ์บางอย่าง |
ที่เรายึดติดอยู่ | |
9:52  | เราจะไม่สามารถคิดร่วมกันได้ |
9:59  | ไม่อาจสอบสวน ค้นหาร่วมกันได้ |
10:06  | ฉะนั้นเราต้องเป็นอิสระ |
อย่างน้อยที่สุดก็ในเช้านี้ | |
10:13  | เพื่อที่คุณจะได้เริ่มต้น |
เราจะได้เริ่มสำรวจกัน | |
10:19  | เราจะเริ่มการสำรวจ |
อย่างที่เราทำกันเมื่อวันก่อน | |
10:23  | สำรวจบาดแผลทางจิตใจ |
ที่เราได้รับมาตั้งแต่เด็ก | |
10:28  | เราได้พิจารณาเรื่องนี้ไปแล้ว |
10:29  | และในเช้าวันนี้เราจะเริ่ม |
ด้วยเรื่องความกลัวกันก่อน | |
10:35  | มีความกลัวที่ซ่อนอยู่ลึกในจิตใจ |
10:41  | ที่เราไม่สำนึกรู้ ไม่รู้จัก |
ไม่รู้ตัวถึงมัน | |
10:43  | รวมทั้งความกลัวทางจิตใจ |
และทางกายภาพ ที่ปรากฏให้เห็น | |
10:46  | เราตามกันทันหรือเปล่า |
10:49  | เราเดินทางร่วมกัน |
ค้นหาร่วมกันนะครับ | |
10:55  | ผู้พูดไม่ได้เดินไปตามลำพัง |
10:59  | ไม่ได้กำลังพูดอยู่กับตัวเอง |
11:02  | แต่เรากำลังเดินไปด้วยกัน |
ไปตามหนทางที่อาจจะช่วยเรา | |
11:09  | ถ้าหากคุณสนใจ ถ้าหากคุณจริงจัง |
11:14  | ถ้าหากคุณต้องการไปให้ถึงที่สุด |
11:16  | สืบค้นเข้าสู่ปัญหาอันใหญ่หลวง |
ของความกลัว | |
11:24  | มีทั้งความกลัวไม่มั่นคงปลอดภัย |
ทางกายภาพ | |
11:29  | กลัวไม่มีงานทำ |
หรือมีงานทำแต่กลัวว่า | |
11:33  | ต้องสูญเสียมันไปจากการ |
นัดหยุดงานเพื่อข้อเรียกร้อง | |
11:39  | ดังที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศนี้ |
และมีความกลัวอื่นๆด้วย | |
11:44  | พวกเราส่วนใหญ่ |
ค่อนข้างจะเครียด วิตกกังวล | |
11:46  | เราหวาดกลัวที่จะไม่มั่นคง |
ปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ในทางภายภาพ | |
11:51  | นั่นเห็นได้ชัด |
11:58  | เพราะเหตุใดหรือ |
12:02  | เพราะว่าเราแยกตัวเราเองออกจากกัน |
อยู่เสมอ ใช่ไหม | |
12:06  | แยกออกเป็นชาติ เป็นครอบครัว |
เป็นก๊ก เป็นเหล่า | |
12:08  | กระบวนการที่เราค่อย ๆ แยกออกจากกัน |
อย่างช้า ๆ นี้ | |
12:13  | พวกฝรั่งเศสแยกพวกตนออกไป |
12:16  | คนเยอรมัน และคนชาติอื่น ๆ |
ก็เช่นกัน | |
12:20  | กระบวนการนี้นำมาซึ่ง |
12:25  | ความไม่มั่นคงปลอดภัยสำหรับ |
พวกเราทุกคน อย่างค่อยเป็นค่อยไป | |
12:29  | ซึ่งเห็นได้ชัดเจนอยู่ |
12:35  | เราสามารถสังเกตดู |
กระบวนการนี้ได้ไหม | |
12:39  | ไม่เพียงดูสิ่งที่เกิดขึ้น |
ด้านนอกเท่านั้น | |
12:44  | โดยการสังเกต |
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นด้านนอก | |
12:45  | รู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นอยู่จริงๆ |
12:50  | แล้วจากนั้น เราก็สามารถ |
เริ่มตรวจสอบภายในตัวเรา | |
12:55  | มิเช่นนั้น เราจะไม่มีบรรทัดฐาน |
13:00  | มิเช่นนั้น ก็เป็นไปได้ |
ที่เราจะหลอกลวงตนเอง | |
13:07  | ดังนั้น เราต้องเริ่มต้นจากข้างนอก |
แล้วทำงานเข้าสู่ข้างใน | |
13:12  | ใช่ไหมครับ |
13:17  | มันเหมือนกับกระแสน้ำที่ไหลออกไป |
แล้วไหลกลับเข้ามา | |
13:21  | มันไม่ใช่กระแสที่อยู่นิ่งคงที่ |
มันไหลไปมาอยู่ตลอดเวลา | |
13:23  | ผมคิดว่าพวกคุณทุกคนคงจะเข้าใจ |
13:29  | การแยกตัวออกจากกันนี้ |
13:33  | ซึ่งเป็นการแสดงออกถึง |
การสังกัดเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ทุกคน | |
13:41  | ก่อให้เกิดการขาด |
ความมั่นคงปลอดภัยทางกายภาพ | |
13:45  | ใช่ไหม |
13:48  | ถ้าหากเราเข้าใจถึงความจริงนี้ |
13:52  | ไม่ใช่เข้าใจเพียงคำอธิบาย |
13:55  | หรือยอมรับอย่างเป็นแนวคิด |
ด้วยปัญญาทางความคิด | |
13:57  | แต่ถ้าเราเห็นจริงๆว่า |
นี่คือสภาพความเป็นจริง | |
14:01  | เราก็จะไม่สังกัดกลุ่มใด |
ประเทศใด | |
14:09  | วัฒนธรรมใด |
ศาสนาจัดตั้งใด ๆ ทั้งสิ้น | |
14:15  | เพราะทั้งหมดนั้น |
14:18  | ทำให้แบ่งแยกอย่างยิ่ง |
แบ่งแยกเป็นคาทอลิก | |
14:22  | เป็นโปรเตสแตนท์ เป็นฮินดู |
และอื่นๆ | |
14:25  | ในขณะที่เราสนทนากัน |
เดินทางไปด้วยกันอยู่นี้ คุณจะทำไหม | |
14:27  | ที่จะละทิ้งสิ่งที่ผิด |
สิ่งที่ไม่เกี่ยวกับความจริง | |
14:30  | สิ่งที่ไม่มีค่าอะไรเลยทั้งสิ้น |
14:33  | แม้เราจะคิดเอาว่ามันมีค่า |
14:39  | แต่แท้ที่จริงเมื่อคุณสังเกต |
14:43  | จะเห็นว่าความเป็นประเทศชาตินั้น |
ก่อให้เกิดสงครามและอื่น ๆ | |
14:47  | ดังนั้น เราจะละทิ้งมันได้ไหม |
เพื่อที่เราจะสามารถ | |
14:52  | นำมาซึ่งความเป็นเอกภาพแห่งมนุษย์ |
14:55  | คุณเข้าใจไหมครับ |
15:00  | ความเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษย์ |
จะเกิดขึ้นได้โดยศาสนาเท่านั้น | |
15:06  | แต่ไม่ใช่ศาสนาปลอมๆ ที่เรามีอยู่ |
15:07  | ขอโทษ ผมหวังว่า |
ผมไม่ได้ล่วงละเมิดใครนะ | |
15:10  | ทั้งคาทอลิก โปรเตสแตนท์ ฮินดู |
15:16  | มุสลิม และอาหรับ |
15:22  | ศาสนาทั้งหมดนั้น |
อยู่บนพื้นฐานของความคิด | |
15:29  | รวบรวมขึ้นโดยความคิด |
15:36  | และสิ่งที่ความคิดสร้างขึ้น |
ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ | |
15:40  | มันเป็นเพียงแค่ความคิด |
มันเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น | |
15:44  | คุณสร้างแนวคิดขึ้นมา |
ให้สัญลักษณ์แก่มัน แล้วบูชามัน | |
15:48  | และในสัญลักษณ์นั้น |
ในภาพลักษณ์นั้น | |
15:51  | หรือในพิธีกรรมนั้น |
ไม่มีอะไรเลยที่ศักดิ์สิทธิ์ | |
15:55  | ถ้าหากเราสังเกตสภาพนี้จริงๆ |
15:56  | เราก็เป็นอิสระจากทั้งหมดนั้น |
16:00  | แล้วเราจึงจะค้นหาได้ว่า |
ศาสนาที่แท้จริงคืออะไร | |
16:04  | เพราะศาสนาอย่างนั้น |
จะนำพวกเรามารวมกัน | |
16:09  | ฉะนั้น เราจะค้นเข้าสู่ความกลัว |
ในระดับที่ลึกลงไปอีก | |
16:15  | ซึ่งคือความกลัวทางจิตใจ ใช่ไหม |
16:20  | ความกลัวทางจิตใจที่เกิดขึ้น |
ในความสัมพันธ์ระหว่างกัน | |
16:24  | ความกลัวทางจิตใจ |
ที่เกี่ยวกับอนาคต | |
16:27  | กลัวอดีตซึ่งก็คือ |
กลัวกาลเวลา ใช่ไหม | |
16:33  | โปรดทำความเข้าใจให้ทันนะครับ |
16:35  | เช้านี้ เรามีเรื่องมากมาย |
ที่จะต้องพูดให้ครอบคลุม | |
16:38  | กรุณาเถอะ ผมไม่ใช่ศาตราจารย์ |
ไม่ใช่นักวิชาการ | |
16:41  | ที่มาถ่ายทอดคำสอน |
แล้วกลับไปสู่ชีวิตจริงที่เสื่อมถอย | |
16:45  | แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จริงจัง |
ที่สำคัญจริง ๆ | |
16:49  | ซึ่งมีผลกระทบ |
ต่อชีวิตทั้งหมดของเรา | |
16:52  | ฉะนั้น โปรดให้ความใส่ใจ |
ความสนใจและระมัดระวัง | |
16:59  | มีความกลัวต่าง ๆ |
ที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ | |
17:02  | กลัวความไม่แน่นอน |
17:06  | กลัวอดีตและอนาคต |
17:09  | กลัวว่าไม่รู้ |
17:11  | กลัวความตาย |
กลัวความเหงาอันอ้างว้าง | |
17:17  | ใช่ไหมครับ |
17:21  | โปรดมองดูที่ตัวคุณเอง |
ไม่ใช่ที่ผู้พูดและคำพูดของเขา | |
17:25  | มองดูความรู้สึกทุกข์ทรมาน |
ของความโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่ | |
17:29  | คุณอาจจะสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ |
17:34  | คุณอาจมีเพื่อนมากมายหลายคน |
คุณอาจแต่งงานแล้ว | |
17:37  | มีลูก ๆ แต่ก็ยังมีความรู้สึก |
ปลีกแยก | |
17:39  | รู้สึกอ้างว้างและเดียวดาย |
17:42  | นั่นเป็นเหตุปัจจัยหนึ่งของความกลัว |
17:45  | ยังมีความกลัวว่า |
จะไม่อาจเติมเต็มความปรารถนา | |
17:51  | ผมไม่ทราบว่านั่นจะหมายถึงอะไร |
17:56  | และความอยากจะเติมเต็ม |
17:59  | นำเอาความรู้สึกคับข้องใจเข้ามาด้วย |
18:01  | และในนั้นมีความกลัวอยู่ |
18:05  | ยังมีความกลัวที่เกิดขึ้น |
18:09  | เพราะไม่อาจที่จะรู้สึกได้ชัดเจน |
อย่างถึงที่สุดในทุกสิ่งทุกอย่าง | |
18:14  | ดังนั้น มีความกลัว |
รูปแบบต่าง ๆ มากมาย | |
18:16  | คุณสามารถที่จะสังเกต |
ความกลัวใด ๆ โดยเฉพาะ | |
18:18  | ที่อยู่ในตัวคุณ ถ้าคุณสนใจ |
ถ้าคุณจริงจัง | |
18:24  | เพราะว่าจิตใจที่หวาดกลัว |
18:27  | จะโดยที่รู้หรือไม่รู้ก็ตาม |
18:32  | จิตนั้นสามารถพยายามที่จะทำสมาธิ |
ใช่ไหม | |
18:36  | แต่สมาธินั้นเพียงแค่นำไปสู่ |
ความทุกข์ระทมยิ่งขึ้น | |
18:38  | ความฉ้อฉลบิดเบือนยิ่งขึ้น |
เพราะจิตที่หวาดกลัว | |
18:42  | ไม่อาจจะเห็นได้เลยว่า |
อะไรคือความจริง | |
18:45  | ดังนั้น เราจึงพยายามที่จะ |
ค้นหาร่วมกัน | |
18:52  | ว่าเป็นไปได้ไหม |
18:56  | ที่จะเป็นอิสระโดยสมบูรณ์ |
อิสระจากความกลัว | |
19:00  | ในทุกระดับความลึกล้ำของมัน ใช่ไหม |
19:05  | คุณทราบไหม |
เรากำลังปฏิบัติภาระหน้าที่ | |
19:12  | ซึ่งเรียกร้องต้องการ |
การสังเกตด้วยความเอาใจใส่ | |
19:17  | สังเกตความกลัวของตนเอง |
ด้วยความรอบคอบ | |
19:23  | และสิ่งสำคัญคือ |
คุณสังเกตความกลัวนั้นอย่างไร | |
19:25  | เราถามค้นต่อไปได้ไหม |
19:30  | คุณสังเกตความกลัวอย่างไร |
19:34  | มันเป็นความกลัวที่คุณจำเอาไว้แล้ว |
19:43  | แล้วระลึกถึงมันอีก |
แล้วมองดูมันใช่ไหม | |
19:46  | หรือมันเป็นความกลัว |
ที่คุณไม่มีเวลาที่จะสังเกตมัน | |
19:50  | ดังนั้น มันจึงยังอยู่ที่นั่น |
19:53  | หรือจิตใจไม่เต็มใจ |
ไม่พร้อมที่จะมองดูความกลัว | |
20:02  | ผมสงสัยว่าคุณเข้าใจหรือเปล่า |
20:07  | สภาพใดกันแน่ที่กำลังเกิดขึ้น |
กับคุณจริง ๆ | |
20:09  | คุณลังเลใจไม่เต็มใจที่จะดูหรือ |
20:12  | ลังเลใจที่จะมองดูความกลัวในตนเอง |
20:19  | เพราะพวกเราส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า |
จะสลายมันได้อย่างไร | |
20:25  | เราจึงหลบหนี วิ่งหนี |
คุณก็รู้เรื่องทำนองนั้นทั้งหมด | |
20:28  | หรือไม่เราก็วิเคราะห์ความกลัว |
เพราะคิดว่าจะกำจัดมันได้ | |
20:34  | แต่ความกลัวก็ยังคงอยู่ที่นั่น |
20:38  | จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะค้นหาว่า |
20:44  | จะดูความกลัวอย่างไร ใช่ไหม |
20:49  | คุณสังเกตความกลัวได้อย่างไร |
20:54  | คุณเสร็จเรื่องกับเขาแล้ว |
ขอให้เรากลับมาเรื่องนี้ | |
20:58  | คุณสังเกตความกลัวอย่างไร |
21:04  | นี่ไม่ใช่เป็นคำถามโง่ ๆไร้สาระ |
21:05  | เพราะคุณจะสังเกตมันหลังจากที่ |
มันได้ผ่านไปแล้ว | |
21:11  | หรือไม่คุณก็สังเกตมัน |
ในขณะที่มันกำลังเกิดขึ้น | |
21:17  | ใช่ไหม |
21:20  | สำหรับพวกเราส่วนใหญ่ |
21:22  | การสังเกตเกิดขึ้นหลังจากที่ |
ความกลัวได้เกิดไปแล้ว ใช่ไหม | |
21:25  | ขณะนี้เราถามว่า เป็นไปได้ไหม |
21:30  | ที่จะสังเกตความกลัว |
ในขณะที่มันเกิดขึ้นได้ไหม | |
21:33  | อย่างเช่น คุณถูกคุกคาม |
โดยความเชื่ออย่างหนึ่ง | |
21:38  | ในขณะที่คุณมีความเชื่ออีกอย่าง |
ที่คุณยึดอยู่เหนียวแน่น | |
21:44  | คุณตื่นตระหนกเกี่ยวกับมัน |
ในนั้นมีความกลัวอยู่ใช่ไหม | |
21:50  | ขณะนี้นี่แหละ |
ที่ผมกำลังท้าทายคุณอยู่ | |
21:53  | คุณมีความเชื่อบางอย่าง |
มีประสบการณ์บางอย่าง | |
21:58  | มีความคิดเห็น มีข้อวินิจฉัย |
มีการคิดคำนวณอยู่ | |
22:03  | เมื่อคุณถูกท้าทาย |
22:10  | ย่อมต้องมีแรงต้าน |
22:17  | มีการสร้างกำแพงต้าน |
22:20  | หรือคุณเต็มไปด้วยความสงสัยว่า |
คุณจะถูกจู่โจมหรือเปล่า | |
22:26  | ความกลัวจึงเกิดขึ้น |
22:30  | คุณจะสังเกตความกลัวนี้ |
ในขณะที่มันเกิดขึ้นได้ไหม | |
22:34  | ว่าอย่างไรครับ |
22:40  | ได้ไหม คุณเข้าใจไหมครับ |
22:46  | คุณกำลังทำอยู่หรือเปล่า |
22:50  | คุณสังเกตความกลัวนั้นอย่างไร |
22:52  | มีถ้อยคำ มีการจำได้หมายรู้ |
ถึงการตอบสนอง | |
22:58  | ซึ่งคุณเรียกว่าความกลัว |
23:00  | เพราะคุณมีความกลัวนั้น |
มาก่อนหน้านี้แล้ว | |
23:02  | ความทรงจำนั้นถูกเก็บเอาไว้ |
23:06  | เมื่อความกลัวเกิดขึ้น |
คุณจึงจำมันได้ ใช่ไหม | |
23:09  | ดังนั้น คุณจึงไม่ได้สังเกตอยู่ |
แต่คุณแค่รู้จำรู้จักมัน | |
23:11  | ผมสงสัยว่าคุณเข้าใจตรงนี้ไหม |
23:15  | การรู้จำรู้จักไม่ได้ปลดปล่อยจิต |
ให้เป็นอิสระจากความกลัว | |
23:17  | มันเพียงแต่ทำให้ |
ความกลัวมีพลังแรงขึ้น | |
23:23  | แต่ทว่า ถ้าคุณสามารถที่จะสังเกต |
ในขณะที่ความกลัวเกิดขึ้น | |
23:30  | จะมีปัจจัย 2 อย่าง เกิดขึ้นในนั้น |
23:35  | ปัจจัยหนึ่งคือ คุณแตกต่างจาก |
ความกลัวนั้น ใช่ไหม | |
23:39  | ดังนั้น คุณจึงสามารถที่จะกระทำต่อ |
ความกลัวนั้น คุณควบคุมมัน | |
23:47  | ไล่มันออกไป |
ให้เหตุให้ผลกับมัน เป็นต้น | |
23:55  | นั่นคือ การที่คุณทำอะไรบางอย่าง |
เกี่ยวกับความกลัว | |
24:02  | โดยทั่วๆ ไปเราสังเกตแบบนั้น |
24:06  | ในการสังเกตเช่นนั้นมีการแบ่งแยก |
24:10  | แบ่งแยกฉันออกจากความกลัว |
ดังนั้น จึงเกิดความขัดแย้งขึ้น | |
24:16  | ใช่ไหม |
24:27  | แต่ถ้าคุณสังเกต |
โดยที่ความกลัวนั้นคือคุณ | |
24:31  | คุณไม่ได้แตกต่างจากความกลัว |
24:39  | ผมสงสัยว่าคุณเข้าใจตรงนี้ไหม |
24:49  | ถ้าคุณจับหลักตรงนี้ได้สักครั้ง |
24:54  | ว่าผู้สังเกตคือสิ่งที่ถูกสังเกต |
25:01  | ผู้ที่บอกว่า "ฉันกำลังสังเกต" นั้น |
25:05  | เขากำลังแยกตัวเขาเองออกไป |
จากสิ่งที่เขากำลังสังเกตอยู่ | |
25:10  | แต่ทว่าในความเป็นจริงนั้น |
ผู้สังเกตนั่นเองคือความกลัว | |
25:17  | ดังนั้นก็ไม่มีการแบ่งแยก |
25:23  | ระหว่างผู้สังเกตและ |
ความกลัวใช่ไหม | |
25:27  | นั่นคือความเป็นจริง |
25:34  | แล้วจากนี้อะไรเกิดขึ้น |
25:39  | ขอให้เราประคองความจริงนี้ |
เอาไว้ก่อนสักนาที | |
25:42  | พวกคุณตามทั้งหมดนี้ทันไหม |
25:47  | อย่างที่เราได้พูดว่า |
25:50  | เรากำลังสังเกตความกลัว |
โดยผ่านกระบวนการของความจำ | |
26:01  | ซึ่งก็คือการที่รู้จักจำได้ |
การให้ชื่อ ใช่ไหม | |
26:10  | จากนั้นจารีตก็สอนว่า |
"ให้ควบคุมมัน" | |
26:17  | จารีตที่สอนสั่งกันต่อ ๆ มาว่า |
"ให้หนีจากมัน" | |
26:20  | จารีตอีกนั่นแหละที่บอกว่า |
26:27  | ทำอะไรบางอย่างกับมัน |
เพื่อที่คุณจะได้ไม่หวาดกลัว" | |
26:32  | ดังนั้น จารีตนั่นแหละที่ได้สอนสั่ง |
ให้เราบอกว่า | |
26:33  | เรา หรือ ความเป็น "ฉัน" |
แตกต่างจากความกลัว | |
26:35  | ใช่ไหม |
26:39  | เราจะเป็นอิสระจากจารีต |
แล้วสังเกตความกลัวได้ไหม | |
26:41  | นั่นคือ สังเกตโดยปราศจากความคิด |
ที่ได้จดจำปฏิกริยานั้นเอาไว้ | |
26:46  | ปฏิกริยาซึ่งที่ผ่านมา |
ได้ถูกเรียกว่าความกลัว | |
26:51  | เรื่องนี้ต้องการความใส่ใจอันยิ่ง |
คุณเข้าใจไหม | |
26:56  | ต้องการทักษะในการสังเกต |
26:58  | นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของโยคะด้วย |
27:08  | คุณเข้าใจไหม |
27:11  | โยคะไม่ใช่แค่กายบริหาร |
27:15  | นั่นไม่ใช่โยคะเลย |
27:19  | แต่โยคะ คือทักษะในการสังเกต |
27:21  | นั่นคือ ในการสังเกตมีเพียง |
การหยั่งเห็นอันบริสุทธิ์เท่านั้น | |
27:25  | ไม่มีการตีความการหยั่งเห็นนั้น |
โดยความคิด | |
27:27  | คุณเข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้ไหม |
27:32  | โปรดลงมือทำในขณะที่ |
เรากำลังพูดถึงเรื่องนี้ | |
27:38  | แล้วความกลัวคืออะไร คุณเข้าใจไหม |
27:40  | เมื่อผมสังเกต เมื่อมีใครสักคน |
27:47  | คุกคามความเชื่อที่ผมยึดถือ |
27:49  | ประสบการณ์ที่ผมผูกพันอยู่ |
27:54  | ที่ผมรู้สึกว่า "ผมประสบความสำเร็จ" |
แล้วใครบางคนก็มาคุกคามมัน | |
27:58  | ฉะนั้น ความกลัวจึงเกิดขึ้น |
28:01  | ในการสังเกตความกลัวนั้น |
เราได้อธิบายแล้วว่า | |
28:05  | เราได้มาถึงจุดที่ |
28:16  | คุณสังเกตโดย |
ไม่มีการแบ่งแยก ใช่ไหม | |
28:19  | ทีนี้คำถามต่อไปคือ |
ความกลัวคืออะไร | |
28:23  | คุณตามคำถามทันไหม |
ความกลัวคืออะไร | |
28:26  | ความกลัวความมืด |
กลัวสามีหรือภรรยา | |
28:31  | หรือกลัวอะไรก็ตามที่เราสร้างขึ้น |
หรือเป็นความกลัวจริง ๆ ก็ตาม | |
28:34  | นอกจากคำว่า "กลัว" แล้ว |
ความกลัวคืออะไร | |
28:39  | คำคำนั้นไม่ใช่สิ่งสิ่งนั้น |
28:41  | ได้โปรดเถิดครับ เราต้องรู้เรื่อง |
ตรงนี้อย่างลึกซึ้งจริง ๆ | |
28:46  | ว่าถ้อยคำนั้นไม่ใช่สิ่งสิ่งนั้น |
28:55  | เราเคลื่อนไปต่อนะ |
29:05  | อะไรคือสิ่งที่เราเรียกว่าความกลัว |
เมื่อไม่มีถ้อยคำ | |
29:10  | หรือว่าถ้อยคำสร้างความกลัวขึ้น |
29:19  | คุณสนใจเรื่องทั้งหมดนี้ไหม |
29:23  | เพราะว่าถ้าหากถ้อยคำ |
ก่อให้เกิดความกลัว | |
29:29  | ถ้อยคำหมายถึง การรู้จำรู้จัก |
29:32  | จำได้ถึงอะไรบางอย่าง |
ที่เคยเกิดขึ้นแล้ว | |
29:35  | ซึ่งหมายถึงถ้อยคำ |
ได้ถูกนำมาใช้กับอะไรบางอย่าง | |
29:37  | ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน |
ที่เราเรียกว่าความกลัว | |
29:38  | ดังนั้น ถ้อยคำจึงกลายเป็น |
สิ่งสำคัญ ใช่ไหม | |
29:42  | เช่น คนอังกฤษ |
คนฝรั่งเศส คนรัสเซีย | |
29:46  | ถ้อยคำมีความสำคัญอย่างใหญ่หลวง |
สำหรับพวกเราส่วนใหญ่ | |
29:49  | แต่ถ้อยคำไม่ใช่สิ่งสิ่งนั้น |
ถูกไหม | |
29:51  | ฉะนั้น ความกลัวคืออะไรกันแน่ |
29:55  | นอกจากรูปแบบลักษณะต่าง ๆ |
ของความกลัว รากเหง้าของมันคืออะไร | |
29:58  | ถ้าหากเราสามารถค้นหา |
ถึงรากเหง้าของมันได้ | |
30:01  | เราก็จะเข้าใจความกลัว ทั้งใน |
ระดับที่ไม่สำนึกรู้และสำนึกรู้ได้ | |
30:04  | ในทันทีที่คุณหยั่งเห็น |
ถึงรากเหง้าของมัน | |
30:06  | ไม่ว่าจะเป็นจิตระดับที่สำนึกรู้ได้ |
หรือที่ไม่อาจสำนึกรู้ | |
30:12  | ก็ไม่มีความสำคัญ |
เพราะมีการหยั่งเห็น | |
30:16  | อะไรคือรากเหง้าของความกลัว |
30:18  | กลัววันวาน |
30:23  | กลัวหนึ่งพันวันวานที่ผ่านไปแล้ว |
กลัววันพรุ่งนี้ | |
30:35  | กลัวความตายในวันพรุ่งนี้ |
ยังไม่ถึงเวลาของคุณนะ | |
30:39  | หรือกลัวอะไรบางอย่าง |
ที่เคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต | |
30:44  | ความกลัวจริง ๆ ไม่มีอยู่ในขณะนี้ |
30:46  | โปรดทำความเข้าใจตรงนี้ |
ให้ถี่ถ้วนรอบคอบ | |
30:50  | ถ้าความตายจู่โจมเราอย่างกะทันหัน |
มันก็จบสิ้น | |
30:52  | ก็สิ้นสุดกันเท่านั้น |
30:55  | คุณเกิดหัวใจวายขึ้นมา |
มันก็จบกัน | |
30:57  | แต่ความคิดที่คิดขึ้นว่า |
อาจจะเกิดหัวใจวายขึ้นในอนาคต | |
31:00  | ทำให้กลัว โปรดติดตามฟังดี ๆ |
31:04  | รากเหง้าของความกลัวคือ กาลเวลา |
ใช่ไหม | |
31:08  | คุณเข้าใจไหม - กาลเวลา |
31:19  | กาลเวลาเป็นการเคลื่อนไหวของอดีต |
31:22  | ดัดแปลงตัวมันเองในปัจจุบัน |
แล้วดำเนินต่อไปสู่อนาคต | |
31:26  | กระแสการเคลื่อนไหวทั้งหมดนั้น |
31:29  | คือสาเหตุของความกลัว |
คือรากเหง้าของมันใช่ไหม | |
31:33  | เรากำลังถามว่า |
31:37  | ความคิดซึ่งคือกาลเวลา |
คือรากที่มาของความกลัวใช่ไหม | |
31:42  | ความคิดเป็นการเคลื่อนไหว ใช้ไหม |
31:45  | การเคลื่อนไหวใดๆ คือกาลเวลา |
31:47  | ผมจึงถามว่า รากเหง้าของความกลัว |
คือกาลเวลาใช่ไหม | |
31:51  | คือความคิดใช่ไหม |
31:57  | ถ้าหากเราสามารถเข้าใจ |
การเคลื่อนไหวทั้งหมดของกาลเวลา | |
32:00  | เข้าใจทั้งเวลาทางจิตใจ |
เช่นเดียวกับเวลาทางกายภาพ | |
32:03  | เวลาทางกายภาพที่คุณต้องใช้ |
เดินทางจากที่นี่กลับไปบ้าน | |
32:06  | เวลาทางกายภาพคือ |
เวลาที่ใช้ครอบคลุมระยะทางนั้น | |
32:08  | และเวลาทางจิตใจซึ่งก็คือ |
วันพรุ่งนี้ คืออนาคต | |
32:13  | ใช่ไหม |
32:17  | ฉะนั้น วันพรุ่งนี้ |
คือรากเหง้าของความกลัว | |
32:23  | ถูกไหม |
32:24  | ซึ่งนั่นหมายถึง |
เราสามารถที่จะมีชีวิต | |
32:30  | เราหมายถึงชีวิตที่เป็นอยู่จริงๆ |
ในแต่ละวัน ไม่ใช่ทฤษฏี | |
32:34  | เราจะมีชีวิตอยู่ |
อย่างไม่มีวันพรุ่งนี้ได้ไหม | |
32:39  | คุณตามทันไหม |
จงลองทำดู | |
32:42  | นั่นคือ ถ้าหากคุณมีความเจ็บปวด |
เมื่อวันวาน เจ็บปวดทางร่างกาย | |
32:44  | จบความเจ็บปวดของวันวานเสีย |
32:46  | ไม่แบกเอาความเจ็บปวดมาถึงวันนี้ |
และไปยังอนาคต | |
32:50  | คุณเข้าใจคำถามไหมครับ |
32:56  | การแบกเอามานั่นแหละคือกาลเวลา |
ที่นำความกลัวเข้ามา | |
33:02  | ผมสงสัยว่าคุณจะทำทั้งหมดนี้ได้ไหม |
33:06  | มันจึงจะเป็นไปได้โดยสิ้นเชิง |
33:09  | เป็นไปได้แน่นอนที่สุดที่ความกลัว |
ความกลัวทางจิตใจนั้นจะจบสิ้นลง | |
33:16  | ถ้าคุณนำสิ่งที่พูดมาใช้ |
33:18  | พ่อครัวสามารถปรุงอาหาร |
ได้อย่างเลอเลิศน่าพิศวง | |
33:25  | แต่ถ้าคุณไม่รู้สึกหิวกระหาย |
33:29  | ถ้าคุณไม่กินอาหารนั้น |
มันก็ยังคงอยู่ใน | |
33:34  | แผ่นเมนูเท่านั้น |
จึงไม่มีคุณค่าเลย | |
33:39  | แต่ทว่าคุณกิน คุณใช้มัน |
33:41  | ค้นหาเข้าไปด้วยตัวคุณเอง |
คุณจะเห็นว่าความกลัว | |
33:45  | จบสิ้นลงในจิตใจอย่างเด็ดขาด |
33:47  | จิตใจจะเป็นอิสระจากภาระ |
อันน่ากลัว ที่มนุษย์ได้แบกเอาไว้ | |
33:51  | เข้าใจไหมครับ |
33:54  | คำถามต่อไปก็คือเรื่อง |
34:00  | ความสุขเพลิดเพลิน |
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา | |
34:06  | ใช่ไหม |
34:12  | คุณกลัวที่จะรับมือกับมันไหม |
34:18  | เพราะว่าสำหรับพวกเราส่วนใหญ่แล้ว |
ความสุขเพลิดเพลิน | |
34:23  | มีความสำคัญเป็นพิเศษจนเหลือล้น |
34:25  | ความสุขจากการครอบครองเป็นเจ้าของ |
ความสุขจากความสำเร็จ | |
34:30  | ความสุขจากการมีชื่อเสียง |
จากการเป็นผู้มีทักษะชำนาญการ | |
34:33  | และความสุขอื่น ๆ อีก |
34:37  | จากกามารมณ์ |
จากความรู้สึกทางประสาทสัมผัส | |
34:41  | จากการเป็นผู้มีปัญญาทางความคิด |
34:44  | บุคคลผู้มีความรู้มากมายมหาศาล |
34:49  | เขาพึงพอใจ ยินดีในความรู้นั้น |
34:54  | ทว่าอย่างที่เรา |
ได้แสดงให้เห็นว่า | |
35:00  | ความรู้เคียงคู่ไปกับ |
ความโง่เขลาเสมอ | |
35:05  | เพราะความรู้ไม่เคยสมบูรณ์ |
35:09  | แต่เขาลืมส่วนนั้นไป |
และจำได้แต่ความรู้ | |
35:13  | ที่เขากอบโกยมาได้เท่านั้น |
35:22  | และในนั้นมีความสุขเพลิดเพลิน |
อย่างยิ่ง | |
35:24  | ทั้งความสุขทางประสาทสัมผัส |
ทางเพศ ทางอารมณ์ การเพ้อฝัน | |
35:29  | การฉลาดคิด การมีประสบการณ์ |
ซึ่งเป็นความรู้สึกทางประสาทสัมผัส | |
35:33  | องค์ประกอบทั้งหมดเหล่านั้นรวมกัน |
35:35  | นำมาซึ่งความสุขเพลิดเพลิน |
อย่างพิเศษสุด ใช่ไหม | |
35:38  | ทำไมเราจะมีความสุขเพลิดเพลินไม่ได้ |
35:43  | คุณเข้าใจไหม |
35:47  | ศาสนาทั่วทั้งโลกได้สอนสั่งว่า |
"อย่าหาความสุข | |
35:54  | นอกจากความสุขที่ได้รับใช้ |
พระเจ้าเท่านั้น" | |
35:57  | คุณเข้าใจไหมครับ |
36:03  | ประสาทสัมผัสทั้งหมดของคุณ |
ความรู้สึกทางกามารมณ์ | |
36:10  | ทั้งหมดนั้นต้องทำให้หมดไป ทิ้งไป |
36:15  | นี่คือสิ่งที่ศาสนาจัดตั้งทั่วโลก |
พูดเอาไว้ | |
36:19  | แต่เราไม่ได้พูดอย่างนั้น |
36:21  | เรากำลังพูดว่า ตรวจสอบดูว่า |
36:25  | เหตุใดมนุษย์จึงเรียกร้องต้องการ |
ไล่ตามหาความสุขเพลิดเพลิน | |
36:29  | เพราะอะไรครับคุณ |
ค้นหาดู | |
36:32  | มีความสุขเพลิดเพลิน ความสุข |
เพลิดเพลินทางกาย ทางกามารมณ์ | |
36:39  | เมื่อเห็นอาทิตย์ยามตกดินที่งดงาม |
36:42  | เห็นความงามของภูเขา |
36:45  | ผืนน้ำเรียบสงบในทะเลสาบที่สวยงาม |
36:50  | ในการเฝ้าดูสิ่งเหล่านั้น |
36:55  | แต่เมื่อได้เฝ้าดู ได้เห็นมัน |
37:03  | และรู้สึกเบิกบานยินดี |
จิตก็จดจำความสุขเบิกบานนั้นไว้ | |
37:10  | แล้วใฝ่หาความสุขเบิกบานเช่นนั้น |
อีกใช่ไหม | |
37:14  | นั่นคือการสืบต่อ |
ของความสุขเพลิดเพลิน | |
37:19  | ได้เห็นพระอาทิตย์ตกดิน |
37:20  | รู้สึกปลื้มปีติกับมัน |
37:23  | แต่ไม่จบมันลงตรงนั้น |
กลับจดจำมันเอาไว้ | |
37:27  | ซึ่งทำให้เกิดการเรียกร้องต้องการ |
ให้ความสุขเพลิดเพลินนั้นคงอยู่อีก | |
37:31  | ดังนั้น ความคิดใช่ไหม |
37:36  | คุณตามทันไหม |
37:44  | ความคิดเข้ามาสอดแทรก |
ในชั่วขณะของการรับรู้ | |
37:46  | ความคิดจดจำมันไว้ |
แล้วต้องการจะได้มันอีก | |
37:51  | คุณได้เห็นเรื่องทั้งหมดนี้มาแล้ว |
เรื่องกามารมณ์คุณก็รู้ดี | |
37:54  | คุณจำเหตุการณ์ได้ จำภาพ |
จำความตื่นเต้นเร้าใจ | |
37:57  | กลไกทั้งหมดของความคิดทำงาน |
38:01  | และไล่ล่าไขว่คว้าหาความสุขนั้น |
ใช่ไหม | |
38:05  | เพราะอะไรความคิดจึงทำเช่นนั้น |
38:09  | คุณเข้าใจคำถามของผมหรือเปล่า |
38:11  | ทำไมความคิดจึงเข้าไปควบคุม |
เหตุการณ์ที่จบไปแล้ว | |
38:17  | จดจำมันไว้แล้วใฝ่หามันอีก |
38:26  | การใฝ่หามันอีกคือความสุขเพลิดเพลิน |
38:30  | คุณตามทันไหม |
38:37  | เพราะอะไร |
38:41  | ทำไมความคิดจึงทำเช่นนี้ |
38:46  | มันเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา |
การอบรมเลี้ยงดูของเรา | |
38:51  | เป็นส่วนหนึ่งของจารีต |
เป็นส่วนหนึ่งของความเคยชิน | |
38:55  | ผู้ชายทุกคนทำเช่นนั้น |
39:00  | รวมทั้งผู้หญิงด้วยดีกว่า |
มิฉะนั้น! | |
39:01  | มนุษย์ทุกคนทำเช่นนี้เพราะอะไร |
39:05  | ค้นเข้าไปครับคุณ อย่ามองมาที่ผม |
39:09  | ทำไมคุณจึงไล่ตามหา |
ความสุขเพลิดเพลิน | |
39:12  | การทำเช่นนั้นก่อให้เกิด |
การปลีกแยกตัว ใช่ไหม | |
39:16  | คุณตามทันไหม |
39:18  | การทำเช่นนั้น ทำให้เกิด |
สิ่งที่เรียกว่าปัจเจกบุคคลใช่ไหม | |
39:24  | เกิดเป็นความสุขของฉัน |
และมันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน | |
39:26  | ความสุขทั้งหมดเป็นเรื่องส่วนตัว |
39:33  | นอกจากเมื่อคุณไปดูฟุตบอล |
และอะไรต่าง ๆ ทำนองนั้น | |
39:35  | ความสุขเพลิดเพลิน |
เป็นของส่วนบุคคล | |
39:38  | นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งใช่ไหม |
39:42  | ว่าทำไมมนุษย์จึงแสวงหา |
ความสุขเพลิดเพลินนี้อย่างลับๆ | |
39:50  | เพราะมันทำให้พวกเขารู้สึกว่า |
ตัวเขาเองมีความสำคัญ | |
39:57  | ทั้งหมดนี้คุณเข้าใจไหม |
40:04  | ฉะนั้นความสุขเพลิดเพลิน |
อาจเป็นเหตุ | |
40:08  | ที่มาของการแยกตัวอันใหญ่หลวงนี้ |
40:11  | แยกออกเป็นกลุ่ม เป็นครอบครัว |
เป็นเผ่าพันธุ์ เป็นประเทศชาติ | |
40:13  | ผมสงสัยว่าคุณเห็นทั้งหมดนี้ |
หรือเปล่า | |
40:17  | เมื่อคุณเห็นความจริงในเรื่องนี้ |
40:20  | เห็นความจริงที่ไม่ใช่ถ้อยคำ |
40:23  | ไม่ใช่แนวคิดที่ความคิดคิดขึ้น |
40:29  | แล้วความคิดจะเข้ามาครอบครอง |
แล้วทำให้มันเป็นความทรงจำได้หรือ | |
40:39  | คุณเข้าใจไหม |
40:43  | หรือเพียงเห็นพระอาทิตย์ตก |
แล้วจบเลย | |
40:46  | ทดลองดู คุณจะเห็นด้วยตัวคุณเอง |
40:51  | ถ้าคุณลองทำดู |
เช่นในกรณีของความกลัวจะเห็นว่า | |
40:56  | ความคิดเป็นต้นกำเนิด |
เป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง | |
41:01  | ทั้งในเรื่องความกลัว |
และการแสวงหาความสุขเพลิดเพลิน | |
41:05  | จากนั้นก็มีคำถาม |
41:07  | เรากำลังเกี่ยวข้องอยู่กับ |
ชีวิตทั้งหมดของเรา | |
41:11  | จึงมีคำถามว่า |
41:14  | ทำไมมนุษย์ทั่วทั้งโลกจึงเป็นทุกข์ |
41:18  | เราไม่ได้พูดถึงทุกข์ทางกายภาพ |
41:22  | เพราะเรื่องนั้นสามารถจัดการได้ |
ถ้าหากจิตใจไม่ยึด | |
41:24  | ไม่ผูกพันอยู่อย่างต่อเนื่อง |
41:35  | ไม่ห่วงใยแต่ตัวเองอยู่ตลอด |
คุณเข้าใจนะ | |
41:38  | เช่น เมื่อคุณมีความเจ็บปวด |
มีโรคภัย | |
41:43  | เจ็บปวดอ่อนแอด้วยโรคใดโรคหนึ่ง |
41:46  | ความคิดก็จะรู้สึกเป็นกังวลยิ่ง |
ถูกไหม | |
41:50  | ความคิดจึงเข้าไปยึด |
เป็นหนึ่งเดียวกับสภาพนั้น | |
41:58  | จิตใจเองจึงกลับพิกลพิการ |
ใช่ไหม | |
42:00  | ดังนั้น จิตหรือความคิด |
จะเฝ้าดูอาการเจ็บป่วยได้ไหม | |
42:07  | เฝ้าดูโรคภัยไข้เจ็บ ความเจ็บปวด |
โดย"ไม่ดิ้นรน" คุณเข้าใจไหม | |
42:13  | ลองดู ทำดู แล้วคุณจะค้นพบ |
42:18  | ในขณะที่คุณนอนอยู่บนเตียงทำฟัน |
42:21  | ผู้พูดเคยทำมาแล้วถึง 4 ชั่วโมง |
42:23  | ในขณะที่คุณนอนอยู่บนเก้าอี้ |
ของทันตแพทย์ | |
42:29  | ขณะที่ทันตแพทย์กำลังกรอฟันคุณ |
ลองสังเกตดู | |
42:31  | คุณจะเห็น จะค้นพบ |
42:38  | หรือลองมองออกไปนอกหน้าต่าง |
แล้วมองดูความงามของหมู่ไม้ | |
42:42  | เพี่อที่ชีวิตจะสามารถสังเกต |
ตัวมันเองได้ | |
42:47  | โดยวางเฉย เป็นอิสระ |
เข้าใจไหมครับ | |
42:48  | โอ้ ! หรือคุณทำไม่ได้เลย |
42:52  | เราจึงถามว่า ทำไมมนุษย์ทั่วทั้งโลก |
จึงเป็นทุกข์ | |
42:53  | จึงยอมรับความทุกข์ |
และมีชีวิตอยู่กับมัน | |
42:57  | มีสงครามมาแล้วถึงสองครั้ง |
ช่างเลวร้าย | |
43:00  | ลองคิดถึงน้ำตามนุษย์ |
ที่หลั่งไหลออกมา | |
43:03  | แต่ทั้งลูกทั้งหลานของพวกเขา |
ก็ยังสนับสนุนสงคราม | |
43:04  | ปรากฏชัดว่า ความทุกข์โศก |
ไม่ได้สั่งสอนอะไรมนุษย์เลย ใช่ไหม | |
43:10  | พวกเขาบูชาความทุกข์โศก |
พวกคริสต์เตียนทำอย่างนั้น | |
43:15  | พวกฮินดูก็มีคำอธิบายความทุกข์โศก |
ที่ต่างออกไป | |
43:18  | ว่าเป็นเพราะสิ่งที่คุณได้ทำไว้ |
ในอดีต อดีตชาติเป็นต้น | |
43:25  | ผมจะไม่เข้าไปในเรื่องพวกนั้น |
43:33  | เราถามว่า |
ความทุกข์โศกคืออะไร | |
43:41  | ทำไมมนุษย์จึงอยู่กับความทุกข์โศก |
43:46  | คุณเข้าใจนะ |
43:47  | ค้นหาครับคุณ |
ทุ่มเทจิตใจคุณให้กับการนี้ | |
43:56  | เหมือนอย่างที่คุณมอบใจคุณ |
ให้กามารมณ์ ให้การงานหรือนั่นนี่ | |
44:01  | มอบจิตมอบใจคุณให้แก่การค้นหา |
44:03  | ว่ามนุษย์จะเป็นอิสระ |
จากความทุกข์โศกได้บ้างไหม | |
44:06  | ความทุกข์โศกเป็นส่วนหนึ่ง |
ของทัศนคติต่อชีวิต | |
44:12  | ที่มุ่งคิดถึงแต่ตนเอง |
ประโยชน์ส่วนตน ใช่ไหม | |
44:18  | อย่างเช่น ลูกของผมตายไป |
หรือภรรยาของผมหนีจากไป | |
44:21  | หรือเรื่องใดเรื่องหนึ่ง |
44:25  | ซึ่งผมผูกพันอยู่กับเขา |
อย่างแน่นแฟ้น | |
44:32  | เขาถูกพรากไปด้วยเหตุผลนานา |
แล้วผมก็เป็นทุกข์ | |
44:38  | มีความเศร้าแสนอาดูร |
ต้องร้องไห้ มีปฏิกริยาต่อต้าน | |
44:47  | มีความขมขื่น |
มีการเสียดสี เย้ยหยัน | |
44:52  | เพราะอะไร |
คุณเข้าใจไหม | |
44:56  | มันเป็นเพราะผมเข้าไปติด |
จมอยู่ในปัญหาของผมใช่ไหม | |
44:59  | ผมหมกมุ่นอยู่แต่เรื่องของตัวเอง |
ลูกชายของผมคือผม ใช่ไหม | |
45:06  | หรือลูกสาวของผมก็คือผม |
45:10  | ผมผูกพัน |
45:16  | ผมยึดเอาไว้ |
45:18  | และเมื่อผู้นั้นจากไป |
45:26  | ผมจึงรู้สึกว่างเปล่าอย่างยิ่ง |
45:31  | รู้สึกอ้างว้างเดียวดายอย่างยิ่ง |
รู้สึกขาดความสัมพันธ์อย่างยิ่ง | |
45:36  | นั่นคือเหตุผลที่เราเป็นทุกข์ |
ใช่ไหม | |
45:40  | นั่นคือ เมื่อลูกชายถูกพรากจากไป |
ด้วยความตายหรืออะไรก็ตาม | |
45:42  | มันเปิดเผยให้ผมเห็นว่าตัวผมคืออะไร |
คือความเหงาอ้างว้างของผม | |
45:48  | คือการแยกตัวของผม |
การขาดความสัมพันธ์ที่แท้จริงของผม | |
45:54  | ผมคิดว่าผมสัมพันธ์ แต่เพราะเป็น |
"ลูกชายของผม"เท่านั้น คุณตามทันนะ | |
45:59  | ดังนั้น การพรากเอาลูกของผมไป |
เผยให้เห็นสภาพของผม | |
46:01  | เมื่อค้นเข้าไปในเรื่องนี้ |
อย่างเอาใจใส่ | |
46:09  | ผมก็ตระหนักทันทีถึงความเหงาของผม |
ความรู้สึกสูญเสียของผม | |
46:11  | การขาดหายไป การสูญเสียอะไรบางอย่าง |
ซึ่งผมผูกพันอยู่อย่างหนักหน่วง | |
46:14  | ความตายของลูกชายได้เปิดเผย |
ให้ผมเห็นสภาพนั้น ใช่ไหม | |
46:19  | แต่การเปิดเผยนั้น |
46:23  | การตระหนักถึงความเป็นตัวตน |
ความเป็นตัว "ฉัน" | |
46:28  | เปิดเผยมาก่อนเกิดเหตุ |
46:35  | ผมสงสัยว่าคุณเข้าใจตรงนี้ไหม |
เข้าใจไหม | |
46:39  | คุณเห็นตรงนี้ไหม |
46:43  | เราได้พูดตั้งแต่ตอนต้น |
ของการพูดครั้งนี้ | |
46:47  | ถึงการตระหนักรู้ตนเอง |
46:52  | การตระหนักรู้ตนเองก็คือ |
การรู้ตัวของตนเอง รู้ถึงความผูกพัน | |
46:56  | ความเหงาของตนเอง |
ความรู้สึกปลีกแยกของตนและอื่นๆ | |
47:00  | รู้ถึงทั้งหมดของตนเอง |
47:04  | เหตุการณ์ที่เกี่ยวกับลูกชาย |
เปิดเผยสภาพจิตของตัวเรา ใช่ไหม | |
47:07  | นั่นคือการเปิดเผยหลังเกิดเหตุการณ์ |
47:09  | แต่ถ้ามีความรู้ตัวตั้งแต่ตอนต้น |
47:14  | การที่ลูกชายถูกพรากตายจากไป |
จะเป็นเช่นไร | |
47:18  | ความทุกข์โศกที่เกิดขึ้นจาก |
ความผูกพัน ก็ไม่มีอยู่ ใช้ไหม | |
47:23  | คุณเข้าใจไหม ตอนนี้จิตของผม |
ก็จะยอมรับการตายจากไปนั้นได้ | |
47:27  | มันจะไม่ติดอยู่ใน |
ความสงสารตนเองอีกแล้ว | |
47:32  | ไม่ติดอยู่ในการดิ้นรน |
เพื่อจะเป็นอิสระจากความโดดเดี่ยว | |
47:38  | แล้วไปหาความสบายใจอบอุ่นใจอยู่ใน |
ความเชื่อหรือในนั่นนี่ ใช่ไหม | |
47:43  | ดังนั้น เราเห็นได้ว่า |
ความทุกข์โศกจะยังคงอยู่ | |
47:50  | ตราบใดที่ความเป็นตัวตนยังมีอยู่ |
48:01  | ผมสงสัยว่าคุณเห็นไหม |
48:04  | การละทิ้งความเป็นตัวตนโดยสิ้นเชิง |
คือการจบสิ้นความทุกข์โศก | |
48:10  | คุณตามทันไหม |
คุณจะละทิ้งตัวคุณเองไหม | |
48:15  | ไม่ทิ้ง ใช่ไหมครับคุณ |
48:19  | ฉะนั้นเราจึงบูชาความทุกข์โศก |
หรือไม่ก็วิ่งหนีจากมัน | |
48:24  | เราควรที่จะสอบสวนร่วมกัน |
48:26  | ถึงคำถามทั้งหมดที่เกี่ยวกับความตาย |
48:29  | ไม่ใช่เฉพาะพวกคนแก่อย่างเรา |
48:32  | แต่ทุกคนในโลกควรจะเข้าใจด้วย |
48:37  | ทั้งคนหนุ่มสาว คนวัยกลางคน |
คนแก่ ความตายเป็นสิ่งหนึ่ง | |
48:41  | ที่สุดแสนพิเศษ |
ที่เกิดขึ้นในชีวิต ใช่ไหม | |
48:44  | คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับความตาย |
48:47  | การตอบสนองตามสัญชาตญานของคุณ |
48:52  | ที่มีต่อคำนี้ |
และต่อความจริงเป็นอย่างไร | |
48:55  | ความตายคืออะไร |
48:59  | ความตายคือการจบสิ้น |
49:05  | ใช่ไหม |
49:09  | โปรดติดตามเรื่องนี้อย่างใส่ใจ |
49:18  | คือการจบลง |
49:24  | จบลงโดยสมัครใจ |
คุณโต้เถียงกับความตายไม่ได้ | |
49:26  | คุณต่อรองไม่ได้ว่า |
"โปรดให้เวลาผมอีกสักสัปดาห์" | |
49:28  | คุณสนทนาถกกับมันไม่ได้ |
มันอยู่ตรงนั้น เสร็จสิ้นแล้ว | |
49:32  | ดังนั้น คุณสามารถจบความผูกพัน |
ของคุณลงโดยสมัครใจได้ไหม | |
49:35  | ซึ่งนั่นคือความตาย |
เข้าใจไหมครับ | |
49:39  | การจบสิ้นลงเป็นอะไรบางอย่าง |
ที่เหมือนกับความตาย | |
49:43  | จบความเคยชินบางอย่างไป |
49:49  | ไม่ดิ้นรน ไม่ต่อสู้ |
ไม่ทะเลาะวิวาท จบมันไป | |
50:01  | ถ้าคุณสูบ เสพยา ถ้าคุณดื่ม |
50:02  | การจบลงจะเกิดขึ้น เมื่อคุณตาย |
50:06  | แล้วคุณจะจบลงโดยสมัครใจได้ไหม |
50:09  | คุณเข้าใจไหม จบประสบการณ์ของคุณ |
50:18  | จบความคิดเห็น ทัศนคติ |
ความเชื่อในพระเจ้าของคุณ จบลงเสีย | |
50:25  | เรากลัวการจบสิ้น ใช่ไหม |
50:32  | การจบสิ้นอะไรก็ตามโดยสมัครใจ |
50:40  | ถ้าคุณพูดว่า "ถ้าจบแล้วจะมีอะไร" |
50:45  | ถ้าอย่างนั้น |
คุณก็กำลังมองหารางวัลตอบแทน | |
50:50  | คุณก็มองว่า การจบเป็นถูกลงโทษ |
50:56  | การจบสิ้นจึงถูกมองว่า |
เป็นความเจ็บปวด | |
51:01  | ถ้าอย่างนั้นก็เป็นธรรมดา |
ที่คุณจะเรียกร้องเอารางวัล | |
51:03  | ถ้าผมยอม แล้วผมจะได้อะไร |
51:07  | คุณไม่ถามอย่างนั้นกับความตาย |
51:12  | ดังนั้น คุณจบลงได้ไหม |
แล้วดูว่าในการจบลงนั้นเอง | |
51:14  | มีการเริ่มต้นอะไรบางอย่าง |
ที่ใหม่หมด ใช่ไหม | |
51:19  | เข้าใจไหมครับ |
51:24  | นั่นคือเมื่อเราจบสิ้นความผูกพัน |
การยึดติด | |
51:28  | ผูกพันกับเฟอร์นิเจอร์ ผู้คน |
แนวคิด ความเชื่อ และพระเจ้า | |
51:33  | ทั้งหมดทุกอย่างนั้น จบมันไป |
51:37  | และคุณจบมันไปโดยสมัครใจ เพราะ |
มันเป็นสติปัญญาที่เห็นว่าต้องจบ | |
51:39  | ใช่ไหม |
51:49  | ในการจบสิ้นลงนั้น |
มีสิ่งใหม่เกิดขึ้น | |
51:54  | คุณเข้าใจไหม นี่ไม่ใช่คำสัญญานะ |
52:02  | ลองดูเถิดครับคุณ |
52:11  | นั่นคือ ในขณะที่มีชีวิตอยู่ |
52:15  | ลองเชื้อเชิญความตายเข้ามา |
ซึ่งหมายถึงการจบสิ้น | |
52:19  | เข้าใจนะครับ |
52:22  | จบสิ้นวิถีชีวิตที่ยุ่งยาก |
ซับซ้อนอย่างเหลือเชื่อ | |
52:25  | เพราะว่าจิตใจ |
52:35  | ที่ได้จบทุกสิ่งทุกอย่างลงแล้ว |
คุณเข้าใจไหม | |
52:38  | ทำมันดู |
แล้วคุณจะค้นพบด้วยตัวคุณเอง | |
52:51  | จิตใจนั้นมันจะใหม่อยู่เสมอ |
52:54  | ใหม่ในความหมายที่สดใหม่ |
52:58  | คุณรู้ไหมเมื่อคุณไต่ขึ้นภูเขา |
53:05  | คุณต้องทิ้งสิ่งประดับประดา |
ทั้งหมดของคุณไว้เบื้องหลัง | |
53:07  | ทิ้งปัญหาทั้งหมดของคุณ |
53:13  | เพราะว่าคุณไม่อาจ |
ที่จะแบกพาเอาเครื่องประดับ | |
53:18  | ที่คุณสะสมเอาไว้ขึ้นไปยังยอดเขา |
53:22  | ดังนั้น คุณจะทิ้งไป |
53:26  | แล้วคุณจะค้นพบด้วยตัวคุณเอง |
53:30  | ว่ายังมีคุณสมบัติแห่งจิต |
53:35  | ที่เป็นอิสระอย่างสิ้นเชิง |
53:38  | ที่สามารถจะรับรู้สภาวะนิรันดร์ |
53:43  | คำว่า "นิรันดร์" ไม่ใช่แนวคิด |
คุณเข้าใจไหมครับ | |
53:47  | นิรันดร์ หมายถึง นอกเหนือกาลเวลา |
53:51  | ความตาย คือ กาลเวลา |
54:02  | ผมสงสัยว่าคุณมองเห็นตรงนี้ไหม |
54:13  | ดังนั้น จิตที่เข้าใจ |
ความลึกลับประหลาดล้ำนี้ | |
54:17  | มันเป็นความลึกลับ |
54:19  | เพราะเรากอดติดอยู่กับปัญหาของเรา |
54:24  | เครื่องประดับประดาของเรา |
แนวคิดของเรา | |
54:27  | เราเกาะกอดอยู่กับสิ่งเหล่านั้น |
54:32  | ซึ่งประกอบกันขึ้นด้วยกาลเวลา |
54:35  | และด้วยการจบสิ้นสิ่งพวกนั้น |
54:40  | มีอะไรบางอย่างที่เป็น |
มิติใหม่ทั้งหมดอุบัติขึ้น | |
54:47  | ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณ |
54:52  | ใช่ไหม |
54:58  | ใช่ไหมครับคุณ |
55:03  | υπάρχει πικρία, κυνισμός. |
55:07  | Γιατί; Καταλαβαίνετε; |
55:11  | Μήπως είμαι τόσο παγιδευμένος |
55:14  | στα δικά μου προβλήματα, |
55:17  | είμαι τόσο εγωκεντρικός, |
55:21  | ο γιος μου είναι εγώ. |
55:24  | Σωστά; |
55:28  | Ή η κόρη μου είναι εγώ. |
55:32  | Είμαι προσκολλημένος. |
55:35  | Προσκολλούμαι. |
55:39  | Κι όταν αυτό φύγει, |
55:41  | υπάρχει μία μεγάλη αίσθηση κενού, |
55:48  | μεγάλη αίσθηση μοναξιάς, |
55:52  | μεγάλη αίσθηση έλλειψης σχέσης. |
55:57  | Σωστά; |
56:01  | Είναι αυτός ο λόγος |
που υποφέρει κάποιος; | |
56:03  | Που σημαίνει, |
56:10  | ο γιος με το να έχει φύγει μακριά-θάνατος ή οτιδήποτε είναι αυτό- |
56:12  | έχει αποκαλύψει σε μένα αυτό που είμαι: |
56:18  | την μοναξιά μου, |
56:21  | την απομόνωσή μου, την |
έλλειψη μου για σωστή σχέση. | |
56:29  | Νόμιζα ότι σχετιζόμουν, |
56:32  | αλλά είναι ο γιος μου-παρακολουθείτε; |
56:35  | Επομένως, η απώλεια του γιου |
56:37  | αποκαλύπτει την κατάστασή μου. |
56:40  | Προχωρήστε προσεκτικά σε αυτό. |
56:43  | Και ξαφνικά συνειδητοποιώ |
56:50  | την μοναξιά μου, |
56:56  | την αίσθηση της απώλειας, |
57:06  | την στέρηση από κάτι |
57:12  | στο οποίο είμαι πολύ προσκολλημένος. |
57:15  | Ο θάνατος του γιου μου |
το αποκάλυψε, σωστά; | |
57:19  | Αλλά αυτή η αποκάλυψη, |
57:21  | η επίγνωση του εαυτού, του "εγώ", |
57:25  | έχει αποκαλυφθεί πριν από το συμβάν. |
57:28  | Αναρωτιέμαι εάν το βλέπετε αυτό; Σωστά; |
57:33  | Το βλέπετε αυτό; |
57:38  | Όπως είπαμε στη αρχή της ομιλίας, |
57:43  | αυτεπίγνωση. |
57:49  | Η αυτεπίγνωση είναι να γνωρίζει |
57:54  | κάποιος τον εαυτό του, |
τις προσκολλήσεις του, | |
58:01  | τη μοναξιά του, την αίσθηση της απομόνωσης- όλα αυτά, |
58:09  | να γνωρίζει την ολότητα του εαυτού. |
58:12  | Το περιστατικό του γιου |
το αποκαλύπτει, σωστά; | |
58:15  | Που σημαίνει, αποκαλύπτεται |
μετά το περιστατικό. | |
58:20  | Αλλά εάν υπάρχει |
αυτεπίγνωση από την αρχή, | |
58:23  | παίρνοντας μακριά τον |
γιο, με το γιο να πεθαίνει, | |
58:29  | τι είναι; |
58:36  | Δεν είναι πλέον η θλίψη |
58:40  | η οποία επέρχεται μέσω της προσκόλλησης. |
58:45  | Σωστά, καταλάβατε; |
58:52  | Ο νους μου τώρα το αποδέχεται. |
58:57  | Δεν είναι πλέον |
παγιδευμένος στην αυτολύπηση, | |
59:01  | στην προσπάθεια να |
απελευθερωθεί από την απομόνωση, | |
59:04  | με το να παρηγοριέται με μία πίστη, |
ή με αυτό, ή με εκείνο. Σωστά; | |
59:14  | Επομένως κάποιος |
βλέπει ότι υπάρχει θλίψη | |
59:16  | όσο ο εαυτός είναι εκεί. |
59:20  | Αναρωτιέμαι εάν το βλέπετε αυτό; |
59:24  | Συνεπώς, η απόλυτη |
εγκατάλειψη του εαυτού | |
59:32  | είναι το τέλος της θλίψης. |
59:37  | Τα παρακολουθείτε όλα αυτά; |
59:44  | Θα εγκαταλείψετε τους εαυτούς σας; |
59:48  | Όχι, κύριοι. |
59:51  | Άρα λατρεύουμε τη θλίψη, |
ή φεύγουμε μακριά απ'αυτή. | |
59:54  | Κι επίσης θα πρέπει |
να προχωρήσουμε μαζί, | |
59:57  | να εξετάσουμε όλο αυτό |
το θέμα του θανάτου. | |
1:00:08  | Όχι μόνον για τους μεγάλους |
ανθρώπους όπως εμείς, | |
1:00:15  | αλλά επίσης για τον καθένα στον κόσμο |
1:00:19  | νέο, ηλικιωμένο, ή μεσήλικα- |
1:00:33  | ο θάνατος είναι ένα από |
τα πιο εκπληκτικά πράγματα | |
1:00:41  | που συμβαίνουν στη ζωή. Σωστά; |
1:00:44  | Τι σκέφτεστε γι'αυτό; |
1:00:46  | Ποια είναι η ενστικτώδης απάντησή σας |
1:00:48  | στη λέξη και στο γεγονός; |
1:00:52  | Τι είναι θάνατος; |
1:00:55  | Ο θάνατος είναι ένα τέλος. |
1:00:59  | Σωστά; |
1:01:02  | Παρακαλώ παρακολουθείστε |
το αυτό προσεκτικά. | |
1:01:10  | Τέλος. |
1:01:16  | Να βάλετε τέλος εκουσίως, |
1:01:18  | δεν μπορείτε να |
διαφωνήσετε με τον θάνατο, | |
1:01:21  | δεν μπορείτε να πείτε, "Παρακαλώ, |
δώσε μου άλλη μία εβδομάδα", | |
1:01:23  | δεν μπορείτε να συζητήσετε: |
είναι εκεί, τελείωσε. | |
1:01:33  | Επομένως, μπορείτε |
εκουσίως να βάλετε τέλος | |
1:01:37  | στην προκόλλησή σας, |
1:01:44  | που είναι θάνατος; |
1:01:48  | Καταλαβαίνετε; |
1:01:58  | Το να βάλετε τέλος |
είναι κάτι σαν το θάνατο. | |
1:02:04  | Το τέλος μιας συγκεκριμένης συνήθειας, |
1:02:11  | όχι να προσπαθήσετε, να παλέψετε, να λογομαχήσετε -τελειώστε το! |
1:02:14  | Εάν καπνίζετε, εάν παίρνετε |
ναρκωτικά, εάν πίνετε, | |
1:02:27  | αυτό είναι που πρόκειται να |
συμβεί όταν τα κακαρώσετε! (γέλια) | |
1:02:32  | Επομένως μπορούμε |
εκουσίως να βάλουμε τέλος | |
1:02:33  | καταλαβαίνετε; |
-η εμπειρία σας, | |
1:02:38  | οι απόψεις σας, οι συμπεριφορές σας, |
1:02:44  | οι πίστεις σας, οι |
θεοί σας-να τελειώσουν. | |
1:02:49  | Φοβόμαστε να βάλουμε τέλος. |
1:02:56  | Σωστά; |
1:03:03  | Να βάλουμε τέλος σε οτιδήποτε εκουσίως. |
1:03:05  | Εάν πείτε, "Τι υπάρχει |
εκεί εάν βάλω τέλος;" | |
1:03:10  | Σημαίνει, τότε ότι |
ψάχνετε για μία ανταμοιβή. | |
1:03:16  | Θεωρείτε τότε το τέλος σαν μία τιμωρία. |
1:03:25  | Συνεπώς, το τέλος με το να θεωρείται |
1:03:30  | σαν πόνος, |
1:03:34  | τότε θα απαιτήσετε φυσικά μία ανταμοιβή. |
1:03:36  | Εάν παραδοθώ, τότε τι; |
1:03:44  | Δεν το ρωτάτε αυτό στο θάνατο. |
1:03:47  | Άρα, μπορείτε να βάλετε τέλος |
και να δείτε σε αυτό το τέλος | |
1:03:50  | ότι υπάρχει το ξεκίνημα |
σε κάτι καινούριο; | |
1:03:53  | Καταλαβαίνετε; |
1:03:58  | Που σημαίνει, κάποιος |
τελειώνει με την προσκόλληση, | |
1:04:00  | την προσκόλληση στα έπιπλα, |
1:04:04  | στους ανθρώπους, στις ιδέες, |
στις πίστεις, στους θεούς | |
1:04:09  | το όλο πράγμα, τελειώνει. |
1:04:13  | Κι εσείς το τελειώνετε εκουσίως, |
διότι είναι έξυπνο να τελειώσει. | |
1:04:20  | Σωστά; |
1:04:24  | Συνεπώς σε αυτό το |
τέλος ένα καινούριο... | |
1:04:29  | δεν πρόκειται για μία υπόσχεση, καταλαβαίνετε;- |
1:04:31  | ένα καινούριο πράγμα λαμβάνει χώρα. |
1:04:36  | Προσπαθήστε το, κύριοι. |
1:04:47  | Που σημαίνει, ενώ ζούμε, |
1:04:53  | να προσκαλέσουμε το |
θάνατο, που είναι το τέλος. | |
1:04:58  | Καταλαβαίνετε; |
1:05:00  | Να βάλει κάποιος τέλος στον απίστευτο |
1:05:04  | περίπλοκο τρόπο ζωής. |
1:05:11  | Έτσι ώστε ο νους, |
1:05:17  | επειδή έχει βάλει τέλος σε όλα |
1:05:20  | καταλαβαίνετε; |
1:05:25  | Κάντε το και θα το ανακαλύψετε |
για τους εαυτούς σας. | |
1:05:29  | Άρα είναι πάντα καινούριο. |
1:05:31  | Καινούριο με την έννοια-φρέσκο. |
1:05:35  | Ξέρετε, όταν σκαρφαλώνετε ένα βουνό, |
1:05:41  | πρέπει να αφήσετε όλα |
σας τα έπιπλα πίσω, | |
1:05:44  | όλα σας τα προβλήματα, |
1:05:49  | διότι δεν μπορείτε να |
κουβαλήσετε όλα τα έπιπλα | |
1:05:54  | που'χετε συλλέξει στο λόφο. |
1:05:59  | Επομένως θα προχωρήσετε, |
1:06:05  | και θα ανακαλύψετε για τον εαυτό σας |
1:06:11  | ότι υπάρχει μία ποιότητα του νου, |
1:06:14  | που με το να είναι εντελώς ελεύθερος, |
1:06:16  | είναι ικανός να αντιληφθεί |
αυτό που είναι αιώνιο. | |
1:06:20  | Η λέξη "αιώνιο" δεν είναι |
μία ιδέα, παρακολουθείτε; | |
1:06:23  | Αιώνιο σημαίνει έξω από το χρόνο. |
1:06:28  | Ο θάνατος είναι χρόνος. |
1:06:32  | Αναρωτιέμαι εάν το βλέπετε αυτό; |
1:06:35  | Έτσι ο νους που κατανοεί |
αυτό το εκπληκτικό μυστήριο | |
1:06:40  | είναι ένα μυστήριο- |
1:06:42  | διότι σε αυτά τα οποία προσκολλούμαστε |
1:06:47  | είναι τα προβλήματά μας, |
τα έπιπλά μας, οι ιδέες μας | |
1:06:53  | όλα αυτά, προσκολλούμαστε σε αυτά, |
1:06:59  | που έχουν κατασκευαστεί από το χρόνο, |