เวลาจบสิ้นลงได้ไหม
Saanen - 28 July 1978
Public Discussion 3
0:08 | เวลาจบสิ้นลงได้ไหม |
0:20 | K: เช้านี้ เราจะคุยกันเรื่องอะไรดี |
0:30 | ไม่มีคำถามหรือ |
0:34 | Q: สมาธิในชีวิตแต่ละวันหมายถึงอะไร |
0:38 | กรุณาช่วยอธิบายด้วย |
0:40 | K: สมาธิในชีวิตแต่ละวันหมายถึงอะไร |
0:45 | คำถามนั้นใช่ไหม |
0:48 | Q: บุคลิกภาพคืออะไร |
0:58 | K: บุคลิกภาพคืออะไร ผมไม่ทราบจริงๆ |
1:06 | Q: (ถามเป็นภาษาฝรั่งเศส) |
2:56 | K: ผมเข้าใจ |
2:58 | เท่าที่ผมเข้าใจ ผมคิดว่าผู้ถามถามว่า |
3:09 | ในขณะที่ผมกำลังเดินอยู่ |
มีบางอย่างเกิดขึ้นในตัวผม | |
3:14 | ซึ่งมันมีผลกระทบต่อผมอย่างยิ่ง |
แล้วมันค่อยๆ เลือนหายไป | |
3:22 | แล้วก็กลับมาอีก |
3:35 | เขารู้สึกเจ็บปวดต่อสภาพที่เขาเห็นรอบตัว |
3:44 | ใช่แล้ว นั่นแหละ |
3:47 | เขาเห็นว่ามีความทุกข์ยาก |
และเขาก็ทุกข์ไปกับมัน | |
3:51 | Q: ไม่ใช่ เขาเห็นความขัดแย้ง |
3:53 | เขาบอกว่า เมื่อเขาเห็นใครบางคนพูด |
3:56 | ทันทีที่คุณออกจากปะรำนี้ไป |
3:59 | เขาก็รู้สึกถึงความขัดแย้ง |
4:01 | ในสิ่งที่พูดไปแล้ว |
กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นข้างนอกจริงๆ | |
4:10 | K: เขารู้สึกเจ็บปวด สะเทือนใจ เป็นทุกข์ |
4:16 | เมื่อเขาเห็นสภาพภายนอก |
ที่เกิดขึ้นจริงๆ รอบตัวเขา | |
4:22 | ความขัดแย้งในสิ่งที่พูดที่นี่ |
4:31 | กับสภาพจริงๆ ที่กำลังเกิดขึ้นข้างนอก |
4:35 | แล้วเราควรทำอย่างไร นั่นคือคำถาม |
4:42 | มีคำถามอื่นอีกไหม |
4:43 | Q: จิตสำนึกจะรู้ตัวมันเอง |
อย่างสมบูรณ์ได้อย่างไร | |
4:57 | K: จิตสำนึกจะรับรู้ถึงตัวมันเองได้อย่างไร |
5:11 | จิตสำนึกสามารถรับรู้ตัวมันเองได้อย่างไร |
5:14 | เช้านี้ ผมจะพูดเรื่องนั้นสักเล็กน้อย |
5:17 | หากคุณต้องการ |
5:19 | มีคำถามเพียงเท่านี้ใช่ไหม ยังมีอีกไหม |
5:22 | คำถามหนึ่งคือ |
บทบาทของสมาธิในชีวิตแต่ละวัน คืออะไร | |
5:30 | เราเห็นโลกอยู่ในความขัดแย้งมากมายอย่างนั้น |
5:37 | สภาพที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา |
เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน | |
5:44 | ซึ่งค่อนข้างแตกต่าง |
จากสิ่งที่กำลังพูดอยู่ที่นี่ | |
5:51 | แล้วเราจะทำอย่างไร |
5:53 | Q: เหตุใดมนุษย์จึงกลัวความจริง |
5:58 | K: เหตุใดมนุษย์จึงกลัวความจริง |
6:08 | Q: ขอให้คุณพูดเกี่ยวกับ |
พลังงานในการเยียวยาสักเล็กน้อย | |
6:12 | K: ขอให้พูดเกี่ยวกับพลังงานที่ช่วยเยียวยา |
6:25 | Q: (ไม่ได้ยิน) |
6:55 | K: คำถามส่วนแรก ผมเข้าใจแล้ว |
6:58 | แต่ส่วนที่สอง ผมไม่ค่อยเข้าใจ |
7:02 | เขาได้รับการศาสนภิเษก เพื่อเข้าเป็นสมาชิก |
– กรุณาอย่าหัวเราะ – | |
7:09 | เขาได้รับการทำพิธีเข้าสู่อะไรบางอย่าง |
โดยคุรุมหาราช | |
7:17 | นั่นคือเด็กชาย ผู้ทำพิธีให้เขา |
7:22 | ถึงแม้เขาจะมีชีวิตอยู่กับมัน |
เขาก็ยังไม่เป็นอิสระ | |
7:33 | เขาไม่สามารถยอมศิโรราบ |
7:35 | เดี๋ยวก่อน พอแค่นี้ก่อน |
7:42 | อะไรคือสมาธิในชีวิตแต่ละวัน |
7:45 | เหตุใดมนุษย์จึงกลัวความจริง |
7:51 | จิตสำนึกสามารถรับรู้ตัวมันเองได้ไหม |
7:58 | เมื่อเราอยู่ด้วยกันที่นี่ ภายในปะรำนี้ |
8:07 | แต่เมื่อออกไปข้างนอก |
ทำไมเราจึงเห็นความขัดแย้งอย่างนั้น | |
8:13 | และทำให้เรากระวนกระวายใจ เป็นทุกข์ |
8:18 | คำถามสุดท้าย |
เขาได้รับการทำพิธีจากใครบางคน | |
8:25 | แต่เขาไม่อาจยอมตนศิโรราบ |
8:30 | ต่อสิ่งที่เขาคิดว่า เขาควรจะศิโรราบ |
8:35 | นั่นคือสิ่งที่คุณสุภาพบุรุษพูดมา |
8:36 | แล้วคุณต้องการสืบค้นคำถามใด |
8:50 | Q: จิตสำนึกสามารถรับรู้ตัวมันเองได้ไหม |
8:55 | K: คุณต้องการสนทนาร่วมกันในคำถามนี้ไหม |
8:59 | ที่เขาคนนั้นถามว่า |
จิตสำนึกรับรู้ตัวมันเองได้ไหม | |
9:06 | คุณต้องการถามค้นในเรื่องนั้นไหม |
9:10 | เราจะเริ่มไปช้าๆ ค่อยๆ ถามค้นเข้าไป |
9:19 | ว่าความคิดสามารถรับรู้ตัวมันเองได้ไหม |
9:25 | การคิดรับรู้ถึงรากเหง้าของความคิดได้ไหม |
9:35 | รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของการคิด |
และกระบวนการทั้งหมดของความคิด | |
9:42 | ตัวการเคลื่อนไหวนั้น |
รับรู้ถึงตัวมันเองได้ไหม | |
9:50 | คำถามนี้ ไม่เพียงแต่เขาผู้นั้นที่ถาม |
9:54 | เมื่อเช้าวานนี้ ใครบางคนตรงโน้นก็ถามด้วย |
10:00 | ถามคำถามเดียวกันว่า |
จิตพร้อมทั้งเนื้อหาทั้งหมดของมัน | |
10:09 | จิตซึ่งไม่เคยอยู่นิ่ง |
ทำงานและเคลื่อนไหวอยู่เสมอ | |
10:15 | การเคลื่อนไหวนั้นรับรู้ตัวมันเองได้ไหม |
10:27 | เพราะอะไรคุณจึงต้องการรู้ |
10:33 | เหตุใดคุณจึงต้องการรู้ปัญหาเช่นนั้น |
10:36 | หรือมันเป็นเพียงแค่... ผมต้องการจะรู้ |
10:39 | เมื่อคุณถามคำถามนั้น |
เพราะอะไรคุณจึงถามคำถามนั้น | |
10:47 | เพราะหากคุณจริงจังกับเรื่องที่ถาม |
มันเป็นเรื่องที่... | |
10:57 | ต้องการความใส่ใจอย่างยิ่งในการค้นหา |
11:01 | ว่าความคิด |
รับรู้การเคลื่อนไหวของตัวมันเองได้ไหม | |
11:16 | คุณถามเพราะอยากรู้อยากเห็น |
11:22 | แค่ให้มีคำถามจะถาม |
11:25 | หรือคุณถามคำถามนั้นเพื่อจะขจัดการแบ่งแยก |
11:35 | ระหว่างผู้คิดและความคิดโดยสิ้นเชิง |
11:42 | คุณเข้าใจคำถามของผมไหม |
11:46 | เราอาจจะสืบค้นในเรื่องนี้ |
11:51 | เมื่อเราพิจารณาว่า |
บทบาทของสมาธิในชีวิตแต่ละวัน คืออะไร | |
12:01 | และคุณยอมตนศิโรราบต่อใครบางคนได้ไหม |
12:07 | นั่นคือคำถามที่เขาผู้นั้นถาม |
12:10 | เราทิ้งคำถามสุดท้ายไว้ได้ไหม |
12:14 | มันเป็นเรื่องของใครบางคน |
12:19 | กับเหล่าคุรุ เรื่องทำนองนั้น |
12:24 | พวกคุรุมาพูดว่า “เธอจงศิโรราบต่อฉัน |
12:30 | ฉันรู้ ส่วนเธอไม่รู้ |
อุทิศตัวต่อฉัน แล้วฉันจะช่วยเธอ | |
12:37 | จงมอบทรัพย์สินของเธอ |
เงินทองของเธอ ทุกอย่างของเธอ | |
12:42 | แล้วหลังจากนั้น |
เธอจะไม่มีปัญหาใดๆ เรื่องเงินทอง” | |
12:48 | นี่คือความเป็นจริงที่กำลังเกิดขึ้นในโลก |
12:55 | เราถูกหลอกง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ |
13:02 | เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า |
โดยศาสนจักรทั่วโลก | |
13:11 | เธอจงศิโรราบต่อพระเจ้า |
ต่อพระคริสต์ ต่อสิ่งนี้ | |
13:15 | มอบทุกอย่างที่เธอมี |
เราจะดูแลเธอเอง จงมาเถิด | |
13:19 | พวกเขาให้คำมั่นสัญญานี้ |
ท้ายที่สุด คุณอยู่ตรงไหน | |
13:28 | หมดเงิน หมดตัว |
13:34 | หลายคนมาพบผู้พูดด้วยปัญหาทำนองนี้ |
13:38 | เขาให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่มี |
13:43 | บ้าน ทรัพย์สิน เงินทอง ละทิ้งบ้านเรือน |
13:51 | แล้วคุรุก็หายตัวไป |
13:56 | คุรุหายไปอยู่บ้านหลังสวยงาม ส่วนคุณก็ติดจม |
14:03 | ดังนั้น ประการแรก |
อย่ายอมรับอำนาจเหนือใดๆ ทั้งสิ้น | |
14:12 | เข้าใจไหม |
14:15 | อำนาจเหนือของศัลยแพทย์มือหนึ่งนั้นมีอยู่ |
14:19 | แต่ในเรื่องจิตวิญญาณ |
ในเรื่องของจิตใจและจิตวิทยานั้น | |
14:26 | ไม่มีอำนาจเหนือ |
14:29 | ไม่มีใครเริ่มสภาวะอะไรให้คุณได้ |
14:33 | มันเป็นเพียงเล่ห์กลหนึ่ง |
ที่มนุษย์ใช้หลอกลวงคนอื่น | |
14:42 | คำถามต่อมาคือ |
14:47 | สมาธิมีบทบาทอะไรในชีวิตแต่ละวัน |
14:58 | หรือสมาธิเป็นสิ่งที่แยกออกจากชีวิตประจำวัน |
15:08 | หรือคุณนำเอาแนวคิดเรื่องสมาธิ |
เข้ามาสู่ชีวิตประจำวัน | |
15:18 | อย่างน้อยมีสามปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ |
15:22 | คุณนำเอาแนวคิดเรื่องสมาธิเข้ามา |
แค่แนวคิดนะ | |
15:37 | แล้วพยายามค้นหาว่า |
แนวคิดนั้นมีบทบาทอะไรในชีวิตแต่ละวัน | |
15:49 | ก่อนอื่น มันเป็นแนวคิดหรือ |
15:53 | ว่าคุณต้องทำสมาธิ |
ว่าคุณต้องทำนี่ ต้องทำนั่น | |
15:58 | คุณมีข้อสรุป และนำข้อสรุปรวบยอดนั้น |
มาใช้ในชีวิตแต่ละวัน | |
16:07 | ใช่ไหม คุณเข้าใจคำถามนั้นไหม |
16:17 | หรือคุณพยายามจะค้นหาว่า |
อะไรคือความสัมพันธ์ | |
16:27 | ระหว่างการกระทำ |
และการรับรู้จิตสำนึกอย่างสมบูรณ์ | |
16:34 | ผมไม่ทราบ นี่อาจจะค่อนข้าง... |
16:40 | ทำไมเราต้องทำสมาธิด้วยเล่า |
16:50 | เราใช้ชีวิตแต่ละวัน |
อย่างไม่มีความสุข ไม่มีค่า | |
17:01 | ขัดแย้ง ยากลำบาก |
ทุกข์ทรมาน ถูกคนอื่นหลอก | |
17:12 | นี่คือชีวิตแต่ละวันของเรา |
17:14 | แล้วเพราะอะไรเราจึงนำเอาสมาธิเข้ามา |
17:22 | หรือในการทำความเข้าใจ |
ความขัดแย้ง ความทุกข์โศก | |
17:30 | ความทรนง ความภาคภูมิใจ เป็นต้น |
17:35 | ในการทำความเข้าใจความหมาย |
17:38 | เข้าใจโครงสร้างของภาวะเหล่านี้ |
เข้าใจปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น | |
17:42 | ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของสมาธิ |
17:47 | ไม่ใช่คุณทำสมาธิ |
แล้วจึงนำไปใช้ในบทบาท ในชีวิตแต่ละวัน | |
17:53 | แต่ทว่าในช่วงการดำเนินชีวิต เมื่อคุณไปทำงาน |
17:59 | เมื่อคุณกำลังทำงานในโรงงาน หรือไถนา |
18:05 | หรือพูดกับภรรยา สามี ลูกหญิงชาย |
18:09 | คุณก็รับรู้ถึงปฏิกิริยาของคุณ |
18:13 | และเข้าใจปฏิกิริยาเหล่านั้น |
18:19 | เป็นการทำความเข้าใจ ไม่ใช่โดยใช้ปัญญาความคิด |
ว่าทำไมคุณจึงอิจฉา | |
18:23 | ทำไมในตัวคุณจึงมีความกระวนกระวายใจ |
18:28 | ทำไมคุณจึงยอมรับอำนาจเหนือ |
ทำไมคุณจึงพึ่งพิงผู้อื่น | |
18:35 | ในการสืบค้นในภาวะเหล่านี้ |
ตัวการสำรวจนั่นเองคือสมาธิ | |
18:50 | ไม่ใช่ในทางกลับกัน |
18:56 | หากคุณทำสมาธิ |
18:58 | และนำเอาสิ่งที่คุณคิดว่าคือสมาธิ |
เข้ามาในชีวิตแต่ละวัน | |
19:02 | จะมีความขัดแย้งเกิดขึ้น |
19:06 | คุณคิดว่านี่แหละใช่แล้ว |
19:07 | แล้วคุณก็นำไปใช้ในการกระทำ ในการดำเนินชีวิต |
19:11 | ความขัดแย้งต้องเกิดขึ้น |
19:16 | แต่ถ้าเราอิจฉาริษยา |
ซึ่งส่วนใหญ่เราเป็นอย่างนั้น | |
19:26 | แล้วเราสืบค้นว่า ธรรมชาติของความอิจฉาคืออะไร |
ทำไมเราจึงอิจฉา | |
19:33 | ไม่ใช่ถูกหรือผิด ไม่ใช่ควรหรือไม่ควรอิจฉา |
19:37 | แต่เหตุใดความอิจฉาริษยาจึงเกิดขึ้น |
19:43 | ในการถามค้นเข้าไปเช่นนั้น |
19:52 | ถามค้นในความโลภ |
ความอิจฉาและปลดปล่อยเป็นอิสระ | |
19:58 | นั่นคือกระแสแห่งสมาธิ |
20:03 | ในกระแสนั้นไม่มีความขัดแย้ง |
คุณสืบค้นอย่างต่อเนื่อง | |
20:10 | ใช่ไหม |
20:20 | การนี้เรียกร้องความใส่ใจของคุณ |
เรียกร้องให้คุณต้องจริงจัง | |
20:30 | ไม่เพียงเล่นกับถ้อยคำ |
20:34 | สมาธิจึงมีบทบาทในชีวิตแต่ละวัน |
20:38 | เมื่อมีการถามค้น |
20:41 | เข้าสู่ธรรมชาติและโครงสร้างทั้งหมด |
ของชีวิตคุณ | |
20:49 | ปฏิกิริยาของคุณ ภาวะจิตสำนึกของคุณ |
20:56 | เหตุใดคุณจึงเชื่อ หรือไม่เชื่อ |
20:58 | เหตุใดคุณจึงตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสถาบัน |
เป็นต้น | |
21:04 | ทั้งหมดนั้นคือกระแสแห่งสมาธิที่แท้จริง |
21:30 | หากเราทำเช่นนี้อยู่จริงๆ |
ไม่ใช่เป็นเพียงทฤษฎี | |
21:36 | คุณจะเริ่มเข้าใจธรรมชาติของจิตสำนึก |
21:43 | ใช่ไหม |
21:45 | คุณไม่ต้องยัดเยียดอะไรให้มันเลย |
21:50 | ยัดเยียดให้ทำตามฟรอยด์ หรือนักจิตวิทยาคนใด |
คุรุคนนั้นคนนี้ หรือใครก็ตาม | |
21:53 | |
21:55 | ทว่า คุณถามค้น |
เข้าสู่ชีวิตที่เป็นอยู่ของคุณทั้งหมด | |
22:01 | ชีวิตที่เป็นอยู่นั้นคือจิตสำนึกของคุณเอง |
22:09 | เราได้ตอบคำถามเหล่านี้ แล้วเราก็มาถึงจุดนั้น |
22:24 | เราจะเริ่มต้นอย่างง่ายๆ และสืบค้น |
ถ้าคุณเต็มใจ | |
22:33 | ผมสงสัยว่า คุณเคยสืบค้น |
เข้าสู่กระบวนการทั้งหมดของความคิดไหม | |
22:45 | กิจกรรมทั้งหมดของการคิด |
22:50 | สืบค้นว่าความคิด การคิด |
มองเห็นการเคลื่อนไหวของตัวมันเองได้ไหม | |
22:59 | คุณเข้าใจคำถามหรือเปล่า |
23:03 | ขอให้ชัดเจน ว่าเราเข้าใจคำถามชัดแล้ว |
23:12 | ซึ่งค่อนข้างสำคัญ หากคุณต้องการสืบค้น |
23:20 | หากคุณจริงจังในเรื่องนี้ |
23:24 | มันสำคัญมากจริงๆ ที่ต้องเข้าใจคำถามก่อน |
23:32 | คำถามคือ ผมพูดได้ว่า |
“ผมตระหนักรู้ถึงจิตสำนึกของผมเอง” | |
23:40 | ผ่านความเชื่อ ความกลัวของผม |
23:44 | ผ่านความสุขเพลิดเพลิน ความทุกข์โศกของผม |
23:47 | ผมตระหนักได้ถึงเนื้อหาจิตสำนึกของผม |
23:53 | โดยการพูดว่า |
“ใช่ ผมกลัว ผมโลภ ผมเป็นทุกข์ | |
23:59 | ผมทะนงตน ผมมีความภาคภูมิใจ” เป็นต้น |
24:05 | เหล่านี้คือเนื้อหาของจิตสำนึกที่ผมตระหนักรู้” |
24:12 | ใช่ไหม |
24:16 | ในการตระหนักรู้เช่นนั้น |
“ผมแยกแตกต่างจากจิตสำนึกของผม” | |
24:24 | ใช่ไหม |
24:31 | คุณสนใจเรื่องนี้ไหม หวังว่าคุณสนใจ |
24:38 | ดังนั้นจึงมี “ฉัน” ผู้สังเกต |
ที่กำลังสังเกตจิตสำนึกของตนเอง | |
24:48 | แต่ “ฉัน” เป็นคนโลภ “ฉัน” กระวนกระวาย |
24:55 | “ฉัน” หวาดกลัว “ฉัน”เต็มไปด้วยความวิตกกังวล |
ความไม่แน่นอน ความทุกข์โศก | |
25:03 | ซึ่งคือจิตสำนึกของฉัน |
25:05 | ฉันจึงไม่แยกแตกต่างจากจิตสำนึกของฉัน |
25:11 | นั่นชัดเจนไหม |
25:14 | ฉันไม่แยกแตกต่างจากสิ่งที่ฉันคิด |
25:20 | ฉันไม่แยกแตกต่างจากประสบการณ์ที่ฉันมี |
25:25 | ฉันไม่แยกแตกต่าง |
ไม่ใช่สิ่งตรงข้ามโดยสิ้นเชิงกับความวิตกกังวล | |
25:34 | ความกลัวของฉัน เป็นต้น |
ฉันเป็นทั้งหมดนั้น | |
25:39 | ฉันอาจคิดว่า ฉันคือพระเจ้า |
แต่ตัวการคิดนั่นเองเป็นส่วนหนึ่งของฉัน | |
25:47 | ที่สร้างพระเจ้าขึ้นมา |
25:51 | ผมหวังว่า คุณมองเห็นที่พูดมานี้ |
25:53 | เรามาถึงคำถามที่ว่า |
26:03 | ถ้าผู้สังเกตคือสิ่งที่ถูกสังเกต |
ซึ่งก็คือจิตสำนึก | |
26:04 | คำถามจึงเกิดขึ้นว่า |
26:08 | จิตสำนึกนั้น สามารถรับรู้ |
การเคลื่อนไหวของตัวมันเองได้ไหม | |
26:17 | พูดง่ายๆ ก็คือ |
26:22 | มีการรับรู้ถึงการเกิดขึ้นของความโกรธไหม |
26:30 | รับรู้ตัวความโกรธ |
26:36 | นั่นคือ ไม่มีฉันที่แยกต่างจากความโกรธ |
26:42 | ขอให้ผมค้นเข้าไปในเรื่องนี้อีกเล็กน้อย |
26:46 | คุณสนใจเรื่องนี้หรือเปล่า |
26:50 | ขอให้เราสืบค้นไปด้วยกัน |
26:57 | เราโกรธ |
27:00 | ในขณะของความโกรธ |
ไม่มีการรู้จำรู้จัก ว่าเป็นความโกรธ | |
27:09 | คุณเคยสังเกตหรือเปล่า |
27:13 | ในชั่วขณะนั้น ขณะที่ความโกรธรุนแรง |
27:18 | มีแต่ภาวะนั้นเท่านั้น |
27:24 | หลังจากนั้น คุณจึงจะเรียกมันว่า “ความโกรธ” |
27:28 | ชั่วขณะหลังจากนั้น |
27:32 | ซึ่งหมายถึงคุณรู้จัก จำมันได้จากอดีต |
27:40 | จำสิ่งซึ่งเคยเกิดขึ้นในอดีต |
และสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ | |
27:44 | แล้วคุณเรียกมันว่า “ใช่ นั่นคือความโกรธ” |
27:46 | คุณตามทันไหม |
27:52 | ขอให้เข้าใจ |
28:00 | มีความโกรธ ในขณะของความโกรธนั้น |
ไม่มีการจำได้หมายรู้ | |
28:08 | ไม่มีการให้ชื่อปฏิกิริยานั้น |
28:13 | ชั่วขณะหลังจากนั้น การให้ชื่อก็เริ่มขึ้น |
การให้ชื่อมาจากอดีต | |
28:22 | การให้ชื่อปฏิกิริยาปัจจุบัน |
เป็นการจำได้หมายรู้ที่มาจากอดีต | |
28:31 | คุณไม่ให้ชื่อปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน |
28:39 | เพียงแค่สังเกตปฏิกิริยาโดยไม่ให้ชื่อ ได้ไหม |
28:45 | ทันทีที่คุณให้ชื่อมัน |
คุณรู้จำรู้จักมันไว้แล้ว | |
28:49 | การให้ชื่อ ทำให้ปฏิกิริยาเข้มข้นขึ้น |
28:53 | ผมสงสัยว่าคุณเข้าใจไหม |
มันน่าสนใจมาก | |
28:58 | ถ้อยคำไม่ใช่สิ่งๆ นั้น |
29:07 | คำว่า “ปะรำ” “กระโจม” เป็นถ้อยคำ |
ไม่ใช่สิ่งๆ นั้นที่เป็นของจริง | |
29:14 | แต่เราถูกถ้อยคำซึ่งไม่ใช่ความจริง |
ชักนำให้หลงไป | |
29:23 | ดังนั้น ให้เข้าใจ ให้เห็น |
29:31 | ว่าถ้อยคำได้กลายเป็นสิ่งสำคัญเหลือล้น |
29:39 | และให้เห็นความจริงว่าถ้อยคำไม่ใช่สิ่งๆ นั้น |
29:48 | ดังนั้น เมื่อมีความโกรธ ซึ่งเป็นปฏิกิริยา |
29:57 | การสังเกตโดยปราศจากการให้ชื่อมัน |
30:05 | ปฏิกิริยานั้นก็จะเริ่มจางหายไป |
30:11 | ทันทีที่คุณให้ชื่อ คุณทำให้ปฏิกิริยาแรงขึ้น |
30:15 | อดีตทำให้มันแรงขึ้น |
30:19 | ถ้าชัดเจนแล้ว เราจะสืบค้นก้าวต่อไป |
30:25 | ว่าเป็นไปได้ไหม |
ที่ความรู้สึกทางประสาทสัมผัส | |
30:34 | ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบสนอง |
ของประสาทสัมผัสทั้งหลาย | |
30:37 | จะรับรู้ตัวมันเอง |
30:42 | ไม่ใช่คุณตระหนักรู้ความรู้สึกนั้น |
30:47 | แต่เป็นตัวประสาทสัมผัสเองที่เปิดรับรู้ |
31:01 | ผมจะสืบค้นเข้าไปอีก |
31:07 | กรุณาอย่าติดตามแต่สิ่งที่ผมพูด |
31:13 | ขอให้สังเกตปฏิกิริยาตอบสนอง |
ของประสาทสัมผัสในตัวคุณเอง | |
31:26 | ประสาทสัมผัสของเราทำงานแยกส่วนกัน |
31:36 | แยกการเห็น การรับรส |
การได้ยิน การได้กลิ่น เป็นต้น | |
31:43 | การรับสัมผัสเหล่านี้แยกส่วนกัน |
คุณเข้าใจไหม | |
31:47 | ทว่า คุณสังเกตได้ไหม |
31:51 | ว่าเป็นไปได้ไหมที่ประสาทสัมผัสทุกส่วน |
ทำงานด้วยกัน | |
32:03 | คุณเข้าใจอะไรบางอย่างที่ผมพูดไหม |
32:11 | หากคุณเข้าใจ |
นี่เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่จะค้นหา | |
32:20 | คุณจะเห็นว่า ถ้าคุณสังเกตอยู่ |
32:26 | ถ้ามีการสังเกตคนๆ หนึ่ง |
32:29 | สังเกตกระแสน้ำในทะเล หรือสังเกตภูเขา หมู่นก |
32:38 | สังเกตเพื่อนของคุณ |
คนใกล้ชิดคุณ หรืออะไรก็ตาม | |
32:44 | ถ้ามีการสังเกตด้วยประสาทสัมผัสทั้งหมด |
32:53 | จะไม่มีศูนย์กลางจากที่คุณสังเกต |
33:00 | คุณเข้าใจไหม ขอให้ทำ ลองทำดู |
33:06 | อย่ายอมรับอะไรก็ตามที่ผู้พูดพูด |
33:10 | แต่ลองทำด้วยตัวคุณเอง |
33:17 | เมื่อคุณได้กลิ่นหอมอบอวลยามรุ่งอรุณ |
33:27 | ยามอากาศบริสุทธิ์สดชื่นหลังฝน |
33:33 | ทั้งความงามบนผืนดิน |
33:39 | ประสาทสัมผัส |
เพียงส่วนเดียวเท่านั้นหรือ ที่ตื่นขึ้น | |
33:44 | หรือคุณสังเกตเห็นความละเอียดอ่อนทั้งหมด |
และความงามยามเช้า | |
33:48 | เห็นด้วยประสาทสัมผัสทั้งหมดทุกส่วน |
33:52 | คุณเข้าใจไหม |
33:59 | เข้าใจหรือ |
34:00 | Q: หากผมเห็นว่าผมไม่แยกแตกต่าง |
34:06 | จากเนื้อหาทั้งหมดของจิตสำนึกของผม |
34:10 | คำถามที่ว่า |
ผมจะรู้ตัวถึงจิตใต้สำนึกของผม ได้ไหม | |
34:14 | คล้ายกับถามว่า |
กล้องถ่ายรูปจะถ่ายตัวมันเอง ได้ไหม | |
34:18 | K: ผมกำลังจะมาถึงจุดนั้น |
34:21 | ผมขอนำเข้าไปสู่จุดนั้นช้าๆ |
34:27 | นอกจากคุณเข้าใจการตอบสนอง |
ทางประสาทสัมผัส | |
34:34 | ว่าการตอบสนอง |
ทางประสาทสัมผัสแยกส่วนหรือไม่ | |
34:40 | หรือมีการตอบสนอง |
ของทุกประสาทสัมผัสทุกส่วนพร้อมกัน | |
34:53 | หากมีการตอบสนองของ |
ประสาทสัมผัสเพียงส่วนใดส่วนหนึ่ง | |
35:14 | แล้วจะเกิดอะไรขึ้น |
คุณเข้าใจไหม | |
35:19 | หากมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อกลิ่น |
ผ่านจมูกเท่านั้น | |
35:30 | ประสาทสัมผัสส่วนอื่นๆ ทั้งหมด |
จะสงบอยู่ชั่วคราว | |
35:40 | ใช่ไหม |
ทดลองดู | |
35:46 | ผมถามว่า เมื่อคุณดมดอกไม้ |
35:53 | มีการตอบสนองที่เป็นทั้งหมด |
ของประสาทสัมผัสทุกส่วน ไม่เพียงการได้กลิ่น | |
35:59 | แต่ทั้งร่างกายตอบสนอง |
ด้วยอินทรีย์สัมผัสของมัน | |
36:10 | ผมสงสัยว่า ผมพูดชัดเจนไหม อย่าเพิ่งเห็นด้วย |
36:16 | Q: (อิตาเลี่ยน) |
ตอนที่รถไฟวิ่งผ่าน มันเสียงดัง | |
36:21 | ผมฟังเสียงรถไฟ |
ด้วยโสตประสาทของผมเท่านั้น | |
36:24 | มันจะเป็นไปได้อย่างไร |
ที่จะฟังด้วยประสาทสัมผัสทั้งหมด | |
36:27 | K: เขาได้ยินเสียงรถไฟวิ่งผ่านไป |
36:34 | คำถามนั้นดีมาก |
36:36 | พวกคุณทุกคนได้ยินเสียงรถไฟวิ่งผ่านไป ใช่ไหม |
36:43 | คุณตอบสนองต่อเสียงนั้นอย่างสมบูรณ์ไหม |
36:51 | การฟังเช่นนั้น จะไม่เกิดแรงต้านต่อเสียง |
36:57 | เสียงนั้นจะไม่รบกวนจิตใจ |
37:04 | คุณอยู่กับเสียงนั้นอย่างเต็มที่ |
37:16 | ลองมองดูภูเขาเหล่านั้น |
37:19 | ที่พวกคุณอาจจะดูอยู่ทุกวัน |
37:21 | ทุกเช้าและทุกเย็น |
37:24 | ไม่ใช่ดูด้วยสายตาของคุณเท่านั้น |
37:34 | แต่มีการรับรู้ถึงภูเขา |
ด้วยประสาทสัมผัสทั้งหมด ด้วยชีวิต | |
37:49 | ถ้าหากมีการรับรู้เช่นนั้น |
ก็ไม่มีศูนย์กลางจากที่คุณมีชีวิตอยู่ | |
37:59 | ไม่มีศูนย์กลางจากที่คุณกำลังมอง |
38:05 | ลองดู คุณอาจทำไม่ได้ตอนนี้ |
38:08 | ลองทำดูเมื่อคุณมองดูปะรำ |
มองดูเพื่อนของคุณหรือใครก็ตาม | |
38:13 | มองดูราวกับคุณกำลังมองด้วยทั้งหมดของชีวิต |
และประสาทสัมผัสทุกส่วน | |
38:21 | แล้วคุณจะพบว่า คุณกำลังมองดู |
อะไรบางอย่างเหมือนเป็นครั้งแรก | |
38:28 | ไม่ใช่มองด้วยสายตาที่เหนื่อยหน่าย |
และด้วยความทรงจำ เป็นต้น | |
38:33 | เราจะมาสู่เรื่องนั้น |
38:36 | จากตรงนี้ มีคำถามเกิดขึ้น |
38:40 | ไม่จำเป็นที่คำถามจะเกิดจากตรงนั้น |
แต่เมื่อเราเคลื่อนออกไปอีก | |
38:47 | นั่นคือ ความคิดจะรับรู้ตัวมันเองได้ไหม |
39:00 | ผมไม่คิดว่า คุณเข้าใจ |
39:07 | หรือเราเข้าไปในเรื่องที่ |
ซับซ้อนเกินไป และไม่จำเป็น | |
39:18 | พวกคุณเงียบกันไปหมด |
39:21 | Q: เราลองฟังดูตอนนี้ ฟังอย่างสมบูรณ์ ได้ไหม |
39:29 | ลองสิ่งที่คุณพูดเมื่อสักครู่ |
39:31 | K: ได้ แต่ผมกำลังถามคำถามต่อไป |
39:34 | ขณะนี้พวกคุณกำลังคิด ใช่ไหม |
39:43 | เมื่อผมถามคำถาม การคิดก็เริ่มเคลื่อนไหว |
39:52 | เห็นได้ชัด |
39:55 | ผมถามว่า ตัวการคิดนั้น |
เห็นตัวมันเองกำลังคิดไหม | |
40:11 | ไม่เห็น มันเป็นไปไม่ได้ ใช่ไหม |
40:16 | Q: เรามีความรู้สึกฝังใจ |
ว่ามีใครคนหนึ่งที่กำลังคิด | |
40:21 | แต่มันคิดว่า มันเป็นสิ่งอื่น |
40:23 | เรารู้สึกอย่างนั้นเสมอ |
ที่ตรงนี้หรือไม่ก็ที่ส่วนอื่นของร่างกายผม | |
40:27 | K: นั่นเป็นเพราะ |
คุณยังไม่ได้สำรวจเรื่องนี้อย่างลุ่มลึก | |
40:34 | ขออภัยที่ผมพูดเช่นนี้ ผมแค่ถาม |
40:40 | ผมจะถามอะไรบางอย่าง ซึ่งคือ |
40:49 | เราใช้ชีวิตโดยไม่มีความขัดแย้ง |
ไม่มีความพยายาม แม้แต่หนึ่งเดียวได้ไหม | |
41:03 | ไม่มีการควบคุมลักษณะใดๆ เลย |
41:10 | กรุณาฟังเรื่องนี้ |
41:12 | เพราะเราใช้ชีวิตด้วยความพยายาม |
เราดิ้นรนต่อสู้ | |
41:20 | ใช่ไหม |
41:22 | ต้องการได้รับผลสำเร็จ มีการเคลื่อนไปเสมอ |
41:31 | เราจึงมีชีวิตอยู่ในการต่อสู้ดิ้นรน |
ไม่หยุดหย่อน | |
41:38 | มีการสู้รบ และความขัดแย้งอยู่เสมอ |
41:44 | “ฉันต้องทำสิ่งนี้ ฉันต้องไม่ทำสิ่งนั้น” |
“ฉันต้องควบคุมตัวเอง | |
41:52 | ทำไมฉันต้องควบคุมตัวเอง มันล้าสมัยแล้ว |
41:56 | ฉันจะทำสิ่งที่ฉันอยากทำ” |
41:59 | ทั้งการควบคุมและการปล่อยตามใจ |
เป็นความรุนแรง | |
42:08 | ใช่ไหม |
42:11 | แต่หากคุณถามค้น |
42:16 | ว่าเป็นไปได้ไหม ที่จะมีชีวิตอยู่ |
โดยไม่มีแม้แต่เงาของการควบคุม | |
42:24 | ไม่ได้หมายความว่า |
จะทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ | |
42:27 | ซึ่งเป็นเรื่องอ่อนหัดเกินไป |
เพราะคุณไม่อาจทำได้ | |
42:33 | การปล่อยให้ทำตามอำเภอใจ |
ซึ่งกำลังหมุนกลับไปอีกทาง | |
42:39 | เขาเห็นอันตราย |
เขาจึงไม่ปล่อยตามใจ จึงเริ่มควบคุม | |
42:45 | ผมถามว่าเป็นไปได้ไหมที่จะมีชีวิตอยู่ |
โดยปราศจากการควบคุมใดๆ | |
42:54 | บางที คุณอาจไม่เคยถามคำถามนี้ต่อตนเอง |
42:59 | แต่ผมถามคุณ |
43:08 | ที่ใดมีการควบคุม ที่นั่นย่อมมีความขัดแย้ง |
43:15 | ใช่ไหม |
43:18 | มีการสู้รบดำเนินอยู่ |
43:22 | ซึ่งแสดงออกมาหลากหลายแบบ |
43:25 | การสู้รบนี้คือ ความรุนแรง |
การกดข่ม การเป็นโรคจิตประสาท | |
43:30 | และการปล่อยตามใจ |
สภาพทั้งหลายที่ดำเนินอยู่ | |
43:34 | ผมจึงถามตัวผมเอง และถามคุณ |
43:40 | ว่าผมจะใช้ชีวิตแต่ละวัน |
โดยไม่มีแม้แต่เงาของการควบคุม ได้ไหม | |
43:58 | การจะมีชีวิตเช่นนั้น ผมต้องค้นหาว่า |
ใครคือผู้ควบคุม | |
44:05 | คุณเข้าใจไหม |
44:07 | ผู้ควบคุมแยกต่างจากสิ่งที่ถูกควบคุมหรือ |
44:13 | หากทั้งสองเป็นสิ่งเดียวกัน |
มันก็ไม่มีความจำเป็นต้องควบคุม | |
44:17 | ผมสงสัยว่า คุณเข้าใจหรือเปล่า |
44:26 | อย่างเช่น ผมอิจฉา |
44:36 | เพราะคุณมีทุกอย่าง ส่วนผมไม่มีอะไรเลย |
44:50 | และจากความอิจฉานั้น |
ความโกรธ เกลียด ริษยา ก็ตามมา | |
45:01 | ความรู้สึกรุนแรงที่ต้องการมีทุกอย่างที่คุณมี |
45:06 | ถ้าผมเอามันมาไม่ได้ |
ผมก็ขมขื่น โกรธ และอื่นๆ ก็ตามมา | |
45:13 | ใช่ไหม |
45:15 | ผมมีชีวิตอยู่โดยไม่มีความอิจฉาได้ไหม |
45:25 | ซึ่งหมายถึง ไม่มีการเปรียบเทียบ |
45:34 | ทดลองดู |
45:36 | คุณจะใช้ชีวิตแต่ละวัน |
โดยไม่เปรียบเทียบเลย ได้ไหม | |
45:46 | แน่นอน เมื่อผมเลือกชนิดกางเกง ผมเปรียบเทียบ |
45:50 | ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น |
45:52 | ผมหมายถึงในทางจิตใจ |
ที่จะไม่มีการเทียบวัดใดๆ | |
46:00 | ซึ่งก็คือการเปรียบเทียบ |
46:06 | หากคุณไม่มีการเทียบวัดใดๆ เลย |
46:11 | คุณจะผุพัง คุณจะกลายเป็นผัก |
ไม่ทำอะไรเลย อย่างนั้นหรือ | |
46:20 | คุณเข้าใจไหม คุณจะจมปลักหรือ |
46:23 | หรือเพราะคุณเปรียบเทียบ |
เพราะคุณดิ้นรนต่อสู้ | |
46:29 | คุณจึงคิดว่า คุณมีชีวิตอยู่ |
46:33 | แต่ถ้าคุณไม่ต่อสู้ดิ้นรน |
มันอาจเป็นการใช้ชีวิตที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง | |
46:44 | Q: ปล่อยให้มันเป็นไป |
46:47 | K: ไม่ใช่ ไม่ใช่การปล่อยให้มันเป็นไป |
ขอให้มองดู | |
46:57 | คุณพบบุคคลที่ปราดเปรื่อง |
คงแก่เรียน มีความรู้ | |
47:04 | ได้รับการศึกษาดี สมองดีเลิศ |
มีสิ่งดีๆ ทำนองนั้น | |
47:11 | แล้วคุณพูดว่า “ผมใฝ่ฝันจะเป็นเหมือนเขา” |
47:16 | การศึกษาของเราทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานเช่นนั้น |
47:22 | คุณต้องเก่งพอๆ กับพี่น้องของคุณ |
ถ้าไม่เก่งกว่า | |
47:29 | การสอบวัดผลก็อยู่บนพื้นฐานนั้น และอื่นๆ |
47:33 | ในเมื่อคุณเคยผ่านกระบวนการเช่นนั้นมาแล้ว |
47:41 | ที่คุณเปรียบเทียบ ต่อสู้ดิ้นรน |
ก้าวร้าวรุนแรงและอื่นๆ | |
47:44 | คุณจะพูดได้ไหมว่า |
“ผมเห็นความโง่เขลาของการใช้ชีวิตเช่นนั้น” | |
47:52 | ผมจะไม่เปรียบเทียบ |
47:57 | ผมจะไม่เทียบวัดความทื่อทึบของผม |
วัดภาวะของผมกับคนอื่น | |
48:05 | เมื่อเปรียบเทียบตัวเองกับคนที่ฉลาดมาก |
48:10 | ผมก็พูดว่า |
“ผมช่างทื่อทึบอะไรเช่นนี้” ใช่ไหม | |
48:16 | คุณเข้าใจนะ |
48:17 | แต่ถ้าผมไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนๆ นั้น |
48:21 | คนที่สุดฉลาดปราดเปรื่อง |
48:24 | ผมทื่อทึบไหม |
48:30 | ตอบด้วย ผมทื่อทึบไหม มันกลับตรงกันข้าม |
48:38 | คุณจะอยู่โดยไม่เปรียบเทียบ |
ไม่มีแบบอย่าง ได้ไหม | |
48:53 | คุณจะพบว่า เมื่อมีการควบคุม |
ย่อมต้องมีผู้ควบคุม | |
49:04 | ใครกันที่พูดว่า “ฉันต้องควบคุมปฏิกิริยานี้” |
49:11 | หรือ “ฉันต้องไม่ทำสิ่งนั้น” |
49:15 | แต่มันกลายเป็นนิสัยเคยชินที่ต้องทำอย่างนั้น |
ฉันจึงต้องควบคุม | |
49:21 | หมายถึงว่า ฉันตั้งมาตรฐานไว้ ใช่ไหม |
49:29 | มาตรฐานก็คือการเทียบวัด |
49:32 | เมื่อเทียบได้ตามมาตรฐาน |
ฉันก็จะพูดว่า “ถูกแล้ว” | |
49:38 | และฉันต้องใช้ชีวิตไปตามนั้น |
49:48 | การเทียบวัดจึงแสดงถึงการควบคุม |
49:56 | ถ้าคุณไม่เทียบวัดตนเอง |
50:01 | และเรียกตัวเองว่าคนทื่อทึบ |
เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นที่ฉลาด | |
50:07 | คุณทื่อทึบก็ต่อเมื่อคุณเปรียบเทียบ |
50:10 | แต่เมื่อไม่มีการเปรียบเทียบ คุณก็เป็นอื่น |
50:22 | เราเคลื่อนต่อไปจากตรงนั้น ได้ไหม |
50:59 | Q: ผมรู้สึกว่า |
แรงขับเคลื่อนของกระบวนการคิดนั้นแรงมาก | |
51:06 | จนผมไม่สามารถกันตนเองออกจากมันได้ |
51:14 | และพูดว่า “ฉันจะไม่คิดอีกแล้ว” |
51:17 | K: ผมไม่ได้ยิน |
51:36 | Q: แรงขับเคลื่อนของการคิดนั้นทรงพลังมาก |
51:40 | จนผมไม่สามารถแยกตัวผมออกมาได้ |
51:45 | และพูดว่า “ฉันจะไม่คิดอีกแล้ว” |
51:48 | K: ขออภัย ผมไม่ได้กล่าวเช่นนั้น |
51:49 | Q: ผมกำลังบอกว่า |
K: ขออภัย ผมไม่ได้กล่าวเช่นนั้น | |
51:50 | Q: ผมกำลังบอกว่า |
52:02 | คำสอนของคุณบอกเป็นนัยว่า |
มีแนวคิดเรื่องการเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์ | |
52:12 | การผ่าเหล่าของจิตใจ |
52:15 | ซึ่งน่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลง |
อย่างถอนรากถอนโคนของตัวจิตสำนึก | |
52:25 | ผมจินตนาการว่า |
นี่คงเป็นการหยั่งเห็นที่เกิดขึ้นทันทีทันใด | |
52:32 | เป็นความเข้าใจอย่างฉับพลัน |
จิตสำนึกรู้ตัวของมันเอง | |
52:42 | K: ผมขออนุญาตถามว่า |
คุณพยายามบอกอะไรผม | |
52:47 | Q: ผมพยายามบอกคุณว่า |
52:49 | จริงๆ แล้วผมเริ่มรู้สึกเบื่อมาก |
กับการพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า | |
52:56 | ถึงความคิดที่ว่า |
“จงมองดูพระอาทิตย์ตกที่งดงามนี้” | |
53:03 | K: เดี๋ยวก่อน |
หากคุณรู้สึกเบื่อ ก็เดินออกไปเสีย | |
53:08 | Q: ผมยังไม่เบื่อถึงขนาดนั้น! |
53:18 | ผมยังมีความหวังว่า |
คุณอาจสื่อสารอะไรบางอย่าง | |
53:32 | คุณได้ยินที่ผมพูดไหม |
53:34 | ผมยังหวังว่า คุณมีบางอย่างที่จะบอก |
53:56 | K: หากคุณรู้สึกเบื่อพอประมาณ |
54:02 | ผมไม่ทราบว่าคุณพูดถึงอะไร |
54:07 | Q: คุณไม่อยากรับฟังหรอกหรือ |
54:11 | K: กรุณาบอกผมสั้นๆ ว่าคุณต้องการพูดอะไร |
54:19 | Q: ผมกำลังรอให้คุณ |
อธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงใหม่ | |
54:29 | การหยั่งเห็น การรับรู้ของจิตสำนึก |
54:34 | K: คุณกำลังรอให้ผมอธิบาย |
54:42 | ว่าการเปลี่ยนแปลงใหม่จะเกิดขึ้นอย่างไร |
54:51 | มันง่ายมาก |
54:54 | การเปลี่ยนแปลงใหม่เกิดขึ้น |
เมื่อไม่มีการควบคุม | |
55:11 | เมื่อไม่มีการเทียบวัด |
55:17 | เมื่อไม่มีความรู้สึกเป็น “ฉัน” ที่กำลัง |
กระทำต่อสิ่งต่างๆ ในทางจิตใจ | |
55:26 | เท่านั้นแหละ |
55:30 | หากนั่นยังไม่ชัดเจน เราจะสืบค้นไปด้วยกัน |
55:36 | ถ้าคุณพูดว่า “ผมเบื่อกับการพูดย้ำซ้ำซากเรื่องนี้ |
ที่คุณพูดแล้วพูดอีก” | |
55:39 | |
55:42 | ผมก็ขออภัย |
ถ้าคุณเบื่อ ก็เดินออกไปได้ | |
55:44 | ถ้าคุณเบื่อพอทนได้ ก็ขอให้ทน |
55:47 | และถ้าคุณต้องการเข้าใจจริงๆ ก็ขอให้ใส่ใจ |
55:55 | แค่นั้นเอง แต่ถ้าคุณไม่ต้องการ ก็ไม่เป็นไร |
56:06 | Q: การบังเอิญปล่อยให้ทำตามอำเภอใจ |
เป็นผลของการควบคุมไหม | |
56:20 | K: ใช่ การปล่อยตามอำเภอใจ |
เป็นปฏิกิริยาต่อการควบคุม นั่นชัดเจน | |
56:27 | เราถูกฝึกมาตั้งแต่เด็ก |
56:31 | จากยุคสมัยหนึ่งในประวัติศาสตร์ |
ที่เรียกกันว่า ยุค “วิกตอเรีย” | |
56:38 | ว่าให้ควบคุม อย่าแสดงความรู้สึกของคุณ |
ให้เชื่อฟัง ให้ทำตาม | |
56:44 | ในการโต้ตอบต่อทั้งหมดนั้น เราพูดว่า |
“ไม่เอาแล้วเรื่องเหลวไหลพวกนั้น | |
56:49 | ฉันจะทำในสิ่งที่ฉันชอบ” |
56:56 | และพ่อแม่ก็รู้สึกว่า พวกเขาไม่ควรควบคุม |
56:59 | หรือนักจิตวิทยาบางคนบอกว่า |
มันแย่มากที่มัวควบคุมลูกของคุณ | |
57:04 | เขาต้องทำสิ่งที่เขาชอบ |
เราผ่านเรื่องนั้นมาหมดแล้ว | |
57:09 | เรามองว่า การควบคุมไม่จำเป็นเลย |
57:25 | โดยปราศจากปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ |
ซึ่งคือการปล่อยตามใจ | |
57:30 | ไม่จำเป็นอย่างสิ้นเชิง |
57:32 | เมื่อคุณเข้าใจการทำงานของการควบคุม |
เท่านั้นเอง | |
58:02 | Q: นั่นเป็นการคิดที่ถูกต้องหรือ |
58:06 | K: เธอต้องการรู้ว่า การมีชีวิตโดยไม่มีการควบคุม |
เป็นการคิดที่ถูกต้องไหม | |
58:16 | คุณตามทันไหม |
58:21 | ขอให้ตั้งใจฟังอะไรบางอย่าง |
58:26 | ผมอาจจะผิดก็ได้ ขอให้เราค้นหาด้วยกัน |
58:34 | ความคิดคือการเทียบวัด ใช่ไหม |
58:44 | ความคิดคือการเคลื่อนไปในทิศทางที่แน่นอน |
58:54 | ไม่ใช่หรือ |
58:58 | การเคลื่อนไหวใดๆ ย่อมเกี่ยวข้องกับเวลา |
59:05 | จากตรงนี้ไปตรงนั้น ต้องใช้เวลา |
59:08 | ทั้งในทางจิตใจและทางกายภาพ |
59:13 | เวลาคือการเทียบวัด ใช่ไหม |
59:19 | นั่นคือแรงขับเคลื่อนทั้งหมดของความคิด |
คือการเทียบวัด | |
59:30 | Q: มันเป็นแค่ข้อเท็จจริง ไม่ได้หรือ |
59:32 | K: เดี๋ยวก่อนนะ |
Q: มันเป็นแค่ข้อเท็จจริง ไม่ได้หรือ | |
59:33 | K: เดี๋ยวก่อนนะ |
59:39 | ผมต้องเริ่มใหม่อีก |
59:43 | เราเข้าใจกันและกันอยู่หรือเปล่า |
59:46 | เมื่อเราพูดว่า ในแรงขับเคลื่อน |
ในการเคลื่อนไหว ในแรงผลักดันของความคิด | |
1:00:01 | คือเวลา |
คืออดีต | |
1:00:04 | อดีตที่ผ่านเข้ามาในปัจจุบัน |
ปรับเปลี่ยนตัวมันเอง และไปสู่อนาคต | |
1:00:10 | นี่คือแรงขับเคลื่อนของเวลา |
1:00:15 | คือแรงขับเคลื่อนของความคิด |
1:00:20 | และเป็นแรงขับเคลื่อนของการเทียบวัดด้วย |
1:00:27 | เทียบวัดในทางจิตใจ เช่นเดียวกับทางกายภาพ |
1:00:32 | นี่ชัดเจนพอแล้ว ใช่ไหม |
1:00:40 | แล้วผมถามว่า เรามีชีวิตอยู่เช่นนั้น |
1:00:46 | เราถูกจับเอาไว้ในอดีตตลอดเวลา เราคืออดีต |
1:00:57 | และอดีตนั้นก็ปรับเปลี่ยนตัวมันเองตลอดเวลา |
1:01:04 | แล้วเคลื่อนไปข้างหน้า |
1:01:09 | อดีต ปรับดัดตัวมันเอง เคลื่อนไปในอนาคต |
1:01:16 | แรงขับเคลื่อนทั้งหมดนี้คือเวลา คือการเทียบวัด |
1:01:24 | แค่นั้นเอง |
1:01:30 | เพราะอะไรเราจึงมีชีวิตอยู่ในอดีตตลอดเวลา |
1:01:43 | ทำไมเราจึงไม่ทิ้งอดีต |
1:01:54 | ไม่ได้หมายความว่า ให้คุณลืมอดีต |
1:01:58 | แต่คุณเข้าใจธรรมชาติทั้งหมดของอดีต |
1:02:03 | และค้นให้พบว่ามันหมายถึงอะไร |
1:02:07 | ไม่ใช่เพราะผมพูด แต่ทดลองดู ทดสอบดู |
1:02:10 | ว่าการมีชีวิตอยู่อย่างสมบูรณ์ในขณะนี้ |
หมายถึงอะไร | |
1:02:21 | หมายถึง แรงขับของอดีตไม่ทำงานอีกต่อไป |
1:02:31 | พูดอีกแง่หนึ่ง ถ้าคุณต้องการสืบค้นเข้าไปอีก |
1:02:36 | ผู้คนได้ถามมาตลอดหลายศตวรรษ |
1:02:44 | ว่าเวลาจบสิ้นลงได้ไหม |
1:02:53 | ไม่ใช่เวลาตามลำดับวันเดือนปี |
1:02:57 | ไม่ขึ้นอยู่กับการที่ |
ดวงอาทิตย์จะคงอยู่ที่เดียวตลอดไปหรือไม่ | |
1:03:04 | แต่ในทางจิตใจ เวลาจะจบสิ้นลงได้ไหม |
1:03:16 | คุณไม่ถามคำถามนี้หรือ |
1:03:21 | หรือคุณไม่แม้แต่จะสังเกตเห็นแรงขับเคลื่อนนี้ |
1:03:33 | ซึ่งพูดอีกนัยหนึ่ง |
1:03:36 | ความรู้กลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด |
1:03:41 | ใช่ไหม |
1:03:44 | ไม่เพียงในทางเทคโนโลยีที่คุณต้องมีความรู้ |
1:03:51 | แต่ความรู้ในแง่ที่เป็นประสบการณ์ด้วย |
1:04:00 | มีความเข้าใจมากและมากยิ่งขึ้น |
1:04:09 | ใช่ไหม |
1:04:10 | เราจึงบูชาความรู้ |
1:04:16 | ผมพูดเรื่องนี้มาเป็นร้อยครั้งแล้ว |
1:04:18 | ถ้าคุณรู้สึกเบื่อ ขอให้ทน ให้มีความอดทน |
1:04:22 | แต่ถ้าคุณทนไม่ไหว ก็เดินออกไปได้ |
1:04:31 | ผู้พูดสนใจที่จะพูดเรื่องนี้กับคุณ |
1:04:35 | เขาต้องการให้คุณค้นพบอะไรบางอย่าง |
ที่แตกต่างไปจากการพูดซ้ำๆ | |
1:04:43 | หากคุณไม่ทำ |
สิ่งที่พูดก็จะกลายเป็นแค่การพูดซ้ำๆ | |
1:04:51 | แต่สำหรับผู้พูด มันไม่ซ้ำซาก |
1:04:54 | ผมคงเบื่อมากกว่าเขาคนนั้นเสียอีก |
1:04:58 | ถ้าผมพูดซ้ำๆ เรื่องนี้กับตัวผมเองทุกครั้งที่พูด |
ผมคงเดินออกไป | |
1:05:04 | ผมคงไม่มานั่งอยู่ตรงนี้ |
1:05:08 | แต่ในขณะที่คุณถามค้นลงไป |
คุณจะเห็นมากยิ่งขึ้น ลุ่มลึกขึ้น กว้างขึ้น | |
1:05:17 | “ลุ่มลึก” ไม่ใช่การเทียบวัด |
ผมต้องระวังตรงนี้ | |
1:05:28 | หากเราเห็นความจริงว่าเรามีชีวิตอยู่อย่างไร |
1:05:33 | เห็นว่าเราทำงานจากอดีตอยู่เสมอ |
1:05:38 | เห็นว่าชีวิตเรา |
เป็นการขับเคลื่อนของความทรงจำ | |
1:05:48 | การขับเคลื่อนของการบันทึกจดจำ |
และการแสดงออก | |
1:05:56 | เหมือนเทปบันทึก สมองเราก็บันทึกสิ่งต่างๆ |
1:06:02 | และจากการบันทึกนั้น ก็แสดงออกมา |
1:06:07 | ซึ่งล้วนเป็นแรงขับของเวลา |
1:06:14 | ถ้าคุณสนใจ เราจะถาม |
1:06:18 | ถ้าผมสามารถพูดถึงมันได้ในแง่มุมต่างๆ |
1:06:21 | ซึ่งผมทำมา 50 ปีแล้ว |
1:06:25 | ถามว่าเป็นไปได้ไหม |
ที่สมองจะบันทึกเรื่องที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น | |
1:06:33 | เรื่องทางเทคโนโลยี จะขับรถอย่างไร |
1:06:35 | เรื่องนี้ เรื่องนั้น และอื่นๆ |
1:06:37 | แต่ในทางจิตใจ เรื่องภายใน |
ไม่บันทึกอะไรสักอย่าง | |
1:06:47 | เมื่อคุณเจ็บปวด ไม่ใช่ทางกายภาพ |
แต่ทางจิตใจ ภายใน | |
1:06:54 | ทำไมต้องบันทึกจดจำด้วยเล่า |
1:07:04 | คุณเข้าใจคำถามของผมไหม |
1:07:06 | มีความจำเป็นอะไร |
ที่จะต้องแบกความเจ็บปวดนี้ไปปีแล้วปีเล่า | |
1:07:15 | ทำไมคุณบันทึกจดจำมันไว้ เพื่ออะไรหรือ |
1:07:20 | หากคุณตอบคำถามหนึ่งเดียวนี้ได้ |
1:07:24 | และค้นพบว่า มันเป็นไปได้ไหม |
ที่จะไม่บันทึกจดจำความเจ็บปวด | |
1:07:34 | แล้วบางทีสมองอาจจะบันทึกจดจำเฉพาะ |
1:07:39 | สิ่งที่จำเป็นจริงๆ ทางกายภาพเท่านั้น |
1:07:44 | ไม่บันทึกอะไรเลยในทางจิตใจ |
ทางอารมณ์ความรู้สึก | |
1:07:52 | ใช่ไหม |
1:07:54 | Q: เราจะสำรวจคำถามนี้ได้หรือ |
โดยที่ยังมองไม่เห็นว่า | |
1:07:59 | จิตสำนึกทั้งหมดจะรู้ตัวมันเองได้ไหม |
1:08:03 | K: ถ้าคุณไม่รังเกียจ |
1:08:09 | เราจะสำรวจคำถามเกี่ยวกับจิตสำนึกทั้งหมด |
1:08:12 | ว่ามันสามารถรู้ตัวมันเองได้ไหม |
1:08:14 | เมื่อเราเข้าใจวงจรทั้งหมดของกระบวนการทำซ้ำๆ |
1:08:24 | ผมใช้คำว่า “ทำซ้ำ” |
1:08:29 | แต่ถ้อยคำไม่ใช่ตัวความรู้สึกในการทำซ้ำ |
1:08:50 | Q: เราไม่บันทึกจดจำ |
เมื่อเราได้รับความเจ็บปวด | |
1:08:53 | เพื่อจะหลีกเลี่ยงการถูกทำให้เจ็บปวดอีก |
ในครั้งต่อไป ได้ไหม | |
1:09:14 | K: เราจะไม่ปกป้องตัวเรา |
จากการเจ็บปวดครั้งต่อไปหรือ | |
1:09:25 | ผมถูกทำให้เจ็บปวดมาครั้งหนึ่ง |
และผมไม่ต้องการเจ็บปวดอีก | |
1:09:32 | ผมจึงสร้างกำแพงทางจิตใจล้อมรอบตัวผม |
1:09:36 | เพื่อจะไม่ให้เจ็บปวดอีก |
1:09:41 | นั่นคือสิ่งที่คุณกล่าวมาใช่ไหม |
ซึ่งหมายความว่าอะไร | |
1:09:47 | ผมปลีกแยกตนเอง เพื่อไม่ให้ถูกทำร้าย |
1:09:54 | นั่นชัดเจน |
1:09:58 | คุณทำร้ายฉันมาครั้งหนึ่งแล้ว |
และคุณอาจทำร้ายฉันอีก | |
1:10:02 | ฉันจึงถอนตัว ฉันสร้างกำแพงขึ้นมาต้านทาน |
1:10:06 | ฉันปลีกแยกตัวเอง |
เพื่อที่ฉันจะได้ไม่ถูกทำร้าย | |
1:10:11 | จากการปลีกแยกนั้น |
ย่อมเกิดความรุนแรง ความกลัวอย่างเห็นได้ชัด | |
1:10:21 | แล้วทำไมฉันจึงต้องแบกความเจ็บปวดครั้งแรกไว้ |
1:10:31 | เป็นไปได้ไหมที่จะไม่เจ็บปวดเลย |
1:10:44 | คำว่า “บริสุทธิ์ สดใหม่” |
หมายถึงจิตใจที่ไม่เจ็บปวด | |
1:10:52 | ไม่อาจทำให้เจ็บปวดได้ |
1:10:59 | ไม่ใช่สัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ |
แบบลูกแกะน้อย และเรื่องทำนองนั้น | |
1:11:03 | แต่เป็นจิตใจที่ไม่เคยถูกทำให้เสียหายจริงๆ |
1:11:15 | เมื่อมันถูกทำให้เสียหาย มันย่อมเจ็บปวด |
ใช่ไหม | |
1:11:21 | เป็นไปได้ไหมที่จะทิ้งมันไปโดยสิ้นเชิง |
หลีกเลี่ยงความเจ็บปวด | |
1:11:33 | ไม่ได้หมายความว่า |
คุณกลายเป็นคนโหดร้าย หรือต่อต้าน | |
1:11:40 | คุณต้องการค้นหาไหมว่า |
เป็นไปได้หรือที่จะไม่ถูกทำให้เจ็บปวดเลย | |
1:11:49 | โดยไม่กลายเป็นคนแข็งกระด้าง |
เย็นชา วางมาดเย่อหยิ่ง ทำนองนั้น | |
1:11:56 | Q: ผมเป็นอิสระจากความเจ็บปวด |
ที่ได้รับตั้งแต่ยังเป็นทารก ได้ไหม | |
1:12:00 | ตอนที่ผมอายุแค่สองหรือสามขวบ |
ซึ่งผมอาจไม่รู้ตัว | |
1:12:21 | K: เรามีเวลาสำหรับเรื่องนี้ไหม |
คุณต้องการเข้าไปในเรื่องนี้ ตอนนี้ไหม | |
1:12:33 | ขอเวลาผมอีกสักสองนาที |
ให้ผมพูดเรื่องนี้ให้จบ | |
1:12:38 | หากคุณไม่ต้องการฟัง |
ก็ไม่ต้องฟัง คุณเข้าใจไหม | |
1:12:42 | คุณมีอิสระที่จะออกไป |
1:13:00 | ในวัยเด็ก คุณเคยถูกทำให้เจ็บปวด |
1:13:09 | โดยพ่อแม่ หรือโดยเด็กคนอื่นๆ |
1:13:16 | คุณถูกทำให้เจ็บปวดในโรงเรียน |
วิทยาลัย มหาวิทยาลัย | |
1:13:24 | ใช่ไหม |
1:13:27 | ตอนนี้คุณอายุ 50 แล้ว |
นั่นเป็นอดีต ความเจ็บปวดอยู่เบื้องหลัง | |
1:13:38 | คุณถามว่า |
ความเจ็บปวดที่เก่าแก่โบราณแต่ครั้งอดีตนั้น | |
1:13:50 | จะถูกกวาดทิ้งไปโดยสิ้นเชิง ได้ไหม |
1:13:54 | นั่นคือคำถามใช่ไหม |
1:14:06 | ไม่ใช่ด้วยการวิเคราะห์ |
1:14:14 | ผมจำเป็นต้องเข้าไปในเรื่องนั้นไหม |
1:14:17 | ถ้าคุณมาที่นี่เป็นครั้งแรก ผมขออธิบายสั้นๆ |
1:14:22 | ผู้วิเคราะห์คิดว่า |
เขาแตกต่างจากสิ่งที่ถูกวิเคราะห์ | |
1:14:31 | ผู้วิเคราะห์ไม่เจ็บปวด |
แต่สิ่งที่ถูกวิเคราะห์เจ็บปวด | |
1:14:38 | ผู้วิเคราะห์ที่คิดว่าเขาไม่เจ็บปวด |
ที่คิดว่าเขาแยกออกไป | |
1:14:43 | กำลังจะตรวจสอบความเจ็บปวดนั้น |
1:14:47 | แต่ผู้วิเคราะห์ก็เป็นความเจ็บปวดด้วย |
1:14:53 | ใช่ไหม |
1:14:58 | การวิเคราะห์จึงมีความหมายน้อยมาก |
ในการปลดปล่อยจิตจากความเจ็บปวด | |
1:15:06 | เมื่อคุณเห็นว่า |
ผู้วิเคราะห์ก็คือสิ่งที่ถูกวิเคราะห์ | |
1:15:12 | ขอให้ผมค้นในเรื่องนี้ |
1:15:14 | ดังนั้น จึงไม่ต้องมีการวิเคราะห์ |
1:15:21 | ทำไมผมจึงเจ็บปวด |
ทำไมผมจึงเก็บความเจ็บปวดนี้ไว้ | |
1:15:29 | ทำไมคุณจึงเก็บความเจ็บปวดของคุณเอาไว้ |
1:15:35 | มันเป็นส่วนหนึ่งของคุณ |
1:15:38 | บางทีถ้าคุณกำจัดความเจ็บปวดออกไป |
คุณอาจกำจัดตัวคุณเอง | |
1:15:46 | ดังนั้นคำถามคือ |
ความเจ็บปวดนั้นจะสลายโดยสิ้นเชิงได้อย่างไร | |
1:15:54 | โดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้เลย |
1:16:01 | ผมก็ต้องสืบค้นในคำถามว่า |
ความเจ็บปวดคืออะไร ใครกันที่เจ็บปวด | |
1:16:10 | ใช่ไหม |
1:16:15 | มโนภาพที่ผมมีเกี่ยวกับตัวผมเอง |
นั่นแหละที่เจ็บปวด | |
1:16:23 | ใช่ไหม |
1:16:25 | ผมคิดว่า ผมเป็นคนยอดเยี่ยม |
1:16:28 | แต่คุณมาบอกผมว่า “อย่างี่เง่าไปหน่อยเลย” |
1:16:33 | นั่นทำร้ายผม เพราะผมมีมโนภาพ |
ของตนเองว่าผมเป็นคนยอดเยี่ยม | |
1:16:40 | ฉลาด มีสติปัญญาล้ำเลิศ หลักแหลม |
และเรื่องเหลวไหลทำนองนั้น | |
1:16:44 | แล้วคุณก็มาพูดว่า |
“พระเจ้าช่วย คุณช่างโง่งมเสียจริง” | |
1:16:52 | มโนภาพที่ผมสร้างขึ้นเกี่ยวกับตัวผมเอง |
ได้รับความเจ็บปวด | |
1:16:58 | ใช่ไหม |
1:16:59 | ไม่ว่าความเจ็บปวดนั้น |
เกิดขึ้นในอดีตหรือปัจจุบัน | |
1:17:06 | นั่นชัดเจน |
1:17:07 | คำถามจึงเกิดขึ้นว่า |
1:17:09 | เป็นไปได้ไหมที่จะไม่มีมโนภาพ |
เกี่ยวกับตนเองเลย | |
1:17:17 | เพราะตราบใดที่ผมมีมโนภาพเกี่ยวกับตนเอง |
1:17:20 | ใครบางคนก็จะเหยียบย่ำมัน |
1:17:27 | ผมจึงต้องค้นหาว่า เหตุใดสมอง จิตใจ |
1:17:35 | จึงสร้างมโนภาพเกี่ยวกับตนเอง |
1:17:40 | มันสร้างขึ้นเพราะว่าในมโนภาพนั้น |
มีความมั่นคงปลอดภัย ใช่ไหม | |
1:17:49 | ในมโนภาพนั้น มีความปลอดภัยหรือเปล่า |
1:17:53 | หากไม่มีมโนภาพ แล้วผมจะเป็นอะไร |
1:17:59 | ดังนั้น ผมจึงหวาดกลัว |
ผมจึงยึดติดกับมโนภาพของตนเอง | |
1:18:04 | และคุณก็จะเหยียบย่ำมัน |
อย่างสุภาพ อย่างนุ่มนวล อย่างอดทน | |
1:18:13 | คุณจะเหยียบย่ำมัน และผมก็จะเจ็บปวด |
1:18:20 | ผมจึงต้องค้นหาให้พบ |
1:18:23 | ว่าเป็นไปได้ไหม |
ที่จะมีชีวิตโดยไม่มีแม้แต่มโนภาพเดียว | |
1:18:30 | มโนภาพคือข้อสรุปของผม |
คือความคิดเห็นของผม | |
1:18:32 | ความก้าวร้าวของผม |
เป็นต้น | |
1:18:37 | ความเป็น “ฉัน” คือมโนภาพ |
1:18:39 | ถ้าผมไม่มีมโนภาพ |
คุณก็ไม่สามารถเหยียบย่ำมันได้ | |
1:18:45 | ถ้าขณะนี้ผมไม่มีมโนภาพเลย |
ความเจ็บปวดในอดีตก็จะไม่มี | |
1:18:52 | คุณเข้าใจไหม |
1:18:56 | ผมลุกไปได้หรือยัง |
1:18:58 | Q: สืบเนื่องจากคำถามของเขาคนนั้น |
1:19:01 | ที่เด็กวัยสองสามขวบถูกทำให้เจ็บปวด |
1:19:04 | เพราะเขามีมโนภาพของตนเอง ใช่ไหม |
1:19:07 | K: ไม่ เราไม่สามารถ... |
ผมไม่รู้จักเด็กน้อยคนนั้น | |
1:19:16 | Q: คุณช่วยทวนคำถามได้ไหม |
1:19:21 | K: คำถามคือ ตอนเป็นเด็ก คุณถูกทำร้าย |
1:19:26 | เพราะอะไรหรือ |
1:19:33 | ทารกน้อยของคุณ ลูกชายลูกสาวของคุณ |
ตอนอายุสี่หรือห้าขวบ | |
1:19:39 | เหตุใดเธอจึงเจ็บปวด |
1:19:43 | เอาละ |
1:19:44 | เธอรักลูกหมีน้อยตัวนั้น ต้องเอาไปนอนด้วย |
1:19:50 | รักมัน จูบมัน กอดมัน ถือมันไว้ทั้งวัน |
1:19:55 | คุณดึงมันออกไป เด็กคนอื่นมาแย่งมันไป |
1:20:01 | เธอก็เริ่มร้องไห้ |
1:20:05 | สิ่งที่เคยเป็นของฉันถูกเอาไป |
– วงจรทั้งหมดก็เริ่มต้นขึ้น | |
1:20:16 | พอแล้วนะสำหรับเช้านี้ |