Krishnamurti Subtitles

SA78D5 - ระเบียบในตนเอง

การสนทนาถามตอบต่อสาธารณชน ครั้งที่ 5
เมืองซาเน็น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
30



0:08  ระเบียบในตนเอง
 
0:25  เราสนทนากันมาแล้ว 7 ครั้ง
 
0:30  ครั้งนี้จะเป็นการเสวนาถามตอบครั้งที่ 5
 
0:41  ผมคิดว่าในช่วงการเสวนา และถามตอบเหล่านี้
 
0:50  เราได้สืบค้นประเด็นส่วนใหญ่
ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของมนุษย์
  
0:56  ของการดำรงอยู่ วิธีการคิด การมอง ของเรา
 
1:05  เราขอถาม เราสงสัยว่า
 
1:11  พวกเราเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน มากน้อยเพียงใด
 
1:21  เราคุ้นเคยกับอคติของเราบ้างไหม
 
1:30  ถ้าเราคุ้นเคย เราทำอะไรกับอคติเหล่านั้นบ้าง
 
1:35  เรายึดมันเอาไว้ หรือปล่อยมันไป
 
1:40  ถ้าคุณพบว่า คุณผูกพันกับใครบางคน
 
1:51  ยึดติดกับแนวคิด กับความเชื่อ
 
1:58  ถ้าคุณรู้ตัวและคุ้นเคยกับการผูกพันของคุณ
 
2:02  คุณจะปล่อยมันไปได้แค่ไหน
 
2:08  เมื่อรู้ว่าการยึดติดผูกพันทั้งหมด
นำไปสู่ความทุกข์โศกแสนสาหัส
  
2:13  ทั้งความเจ็บปวด และทั้งหมดนั้น
 
2:15  ซึ่งเราได้พิจารณาใคร่ครวญกันแล้ว
 
2:18  เราก้าวร้าวเหมือนมนุษย์ส่วนใหญ่ไหม
 
2:27  บางคนก้าวร้าวมาก บางคนก้าวร้าวน้อย
 
2:32  ถ้าเราก้าวร้าว ในช่วงการสนทนา
 
2:36  หรือเสวนาถามตอบร่วมกัน
 
2:42  เราเป็นอิสระไหม เรารู้ตัวไหม
 
2:47  และรู้ว่าก้าวร้าวลึกแค่ไหน
 
2:57  และเราได้เปลี่ยนแปลงไปบ้างไหม
 
3:03  ถ้าเราคุ้นเคยกับความภูมิใจของเรา
ความทะนงตน และความเคยชินของเรา
  
3:10  เราเป็นอิสระจากมันได้เพียงใด
 
3:14  หรือเราจะแบกพามันไปอีกปีหรือหลายๆ ปี
 
3:23  ไม่เคยรู้ตัวถึงความไม่ชอบมาพากล
นิสัยแปลกเฉพาะตนของเรา
  
3:30  ความก้าวร้าวของเรา การยึดติดผูกพัน
อคติ ความกลัว เป็นต้น
  
3:38  ถ้าเป็นเช่นนั้น
เราก็มีชีวิตอยู่ในถ้อยคำเท่านั้น
  
3:47  ถ้อยคำเป็นเถ้าถ่าน
 
3:55  ถ้าเราชอบมีชีวิตอยู่กับเถ้าถ่าน
 
3:59  ไม่ใช่อยู่อย่างพระ แต่แค่มีชีวิตอยู่กับถ้อยคำ
 
4:07  ถ้าเช่นนั้น ผมเกรงว่าเรามีชีวิตที่ตื้นเขินมาก
 
4:17  และมีความหมายน้อยมาก
 
4:21  ในเมื่อครั้งนี้ เป็นการเสวนาถามตอบครั้งสุดท้าย
 
4:25  เช้านี้เราจะพูดกันเรื่องอะไรดี
 
4:31  Q: เราสนทนากันว่า
การก่อให้เกิดระเบียบในชีวิตเรา
  
4:33  คุณหมายถึงอะไร ได้ไหม
 
4:39  K: เราสนทนาเรื่องระเบียบ
ว่าคุณหมายถึงอะไร ได้ไหม
  
4:51  ไม่ใช่ผมหมายถึงอะไร แต่เราหมายถึงอะไร
 
4:57  Q: เมื่อวานเราพูดถึงการจบสิ้นของความคิด
 
5:00  พลังงานอิสระเป็นหัวใจสำคัญของมโนภาพ
 
5:05  ซึ่งคือเนื้อหาของความคิด อย่างนั้นใช่ไหม
 
5:09  K: คำถามคืออะไร
 
5:11  Q: คำถามคือ พลังงานซึ่งเป็นอิสระ
ถ้าความคิดจบสิ้นลง
  
5:17  พลังงานนี้คือหัวใจสำคัญของเนื้อหา
 
5:22  นั่นหมายถึง
มโนภาพที่ความคิดสร้างขึ้น ใช่ไหม
  
5:25  K: ไม่ใช่ ผมเกรงว่าเราไม่เข้าใจกันและกัน
 
5:32  เมื่อวานนี้เราพูด
 
5:37  เราค้นเข้าสู่การเคลื่อนไหวทั้งหมดของความคิด
 
5:42  ว่าต้นกำเนิดของความคิด คืออะไร
 
5:46  จุดกำเนิดเป็นการบันทึกจดจำเหตุการณ์
 
5:52  ประสบการณ์ ความเจ็บปวด ความเศร้าโศก เป็นต้น
 
5:57  การบันทึกจดจำ ซึ่งเกิดขึ้นในสมอง
 
6:02  และจากความทรงจำนั้น ความคิดก็เกิดขึ้น
 
6:06  นั่นชัดเจน แล้วความคิดนั้นสร้างมโนภาพ
 
6:12  พลังงานทั้งหมดนั้นจึงถูกจำกัด
ถูกอิทธิพลครอบงำ
  
6:19  ครอบงำให้อยู่ในที่แคบแสนจำกัด
 
6:23  และเราพูดว่า เมื่อเราเข้าใจ
 
6:26  โครงสร้างและธรรมชาติทั้งหมดของความคิด
 
6:30  ตัวความคิดค้นพบความจำกัดแคบของมันเอง
 
6:36  ดังนั้น มันจึงปลดปล่อยพลังงาน
 
6:41  ซึ่งถูกควบคุมให้ไปตามครรลองที่แคบๆ
 
6:44  เราอธิบายสืบค้นเรื่องนั้นแล้ว
โดยรอบคอบอย่างระมัดระวัง
  
6:54  Q: เมื่อวานคุณพูดว่า
สมองเป็นของส่วนรวม เก่าแก่หลายพันปี
  
7:00  ไม่ว่าคำกล่าวนั้นจะจริงหรือเท็จ
ฉันไม่ทราบจริงๆ
  
7:04  แต่ฉันเป็นห่วงจริงๆ
ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในโลก
  
7:08  และฉันไม่เข้าใจว่า
การเอาทุกคนใส่ลงในตะกร้าเดียวกัน
  
7:13  จะก่อให้เกิดความรักและ
ความเมตตาการุญได้อย่างไร
  
7:16  K: ในกล่องเดียวกัน ใช่ไหม
 
7:18  Q: ใส่ทุกคนในตะกร้าเดียวกัน
 
7:22  K: ไม่ใช่ เราไม่ได้ใส่...
 
7:30  ผู้ถามพูดว่า “ผมไม่ทราบว่า ความรักและ
ความเมตตาการุญจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
  
7:38  ถ้าเราเอามนุษย์ทุกคนใส่ในตะกร้าเดียวกัน”
 
7:44  ผมเกรงว่า เราไม่เคยพูดอย่างนั้น
หรือหมายความอย่างนั้นเลย
  
7:49  ดังนั้น เราจะเสวนากัน
 
7:51  คุณต้องการเสวนา หรือพูดคุยกันเรื่องอะไร
 
7:58  Q: เราเห็นคน แต่เราไม่เห็นมนุษย์
 
8:02  มนุษย์คือแก่นแท้ คือความจริงของคนหรือ
 
8:06  เราพูดเรื่องมนุษย์ได้ไหม
 
8:08  K: เราสามารถค้นหา...
 
8:10  Q: เราพูดเกี่ยวกับแก่นแท้ของมนุษย์ได้ไหม
 
8:16  มนุษย์ซึ่งเราไม่เห็น
เราเห็นคน แต่เราไม่เห็นแก่น
  
8:22  K: เราไม่เห็นแก่นแท้ของคน เราเห็นแต่คน
 
8:28  ในเรื่องเหล่านี้ เราจะเสวนาเรื่องใด
 
8:32  จะคุ้มค่าไหมที่จะเสวนาร่วมกัน
ในคำถามว่าด้วยระเบียบ
  
8:43  มันจะคุ้มค่าไหมที่จะสนทนาเรื่องนั้น
 
8:53  ก่อนอื่น คำว่า “ระเบียบ” เราหมายถึงอะไร
 
8:59  ระเบียบบอกอะไรเราแต่ละคน
 
9:10  เมื่อได้ยินคำว่า ‘ระเบียบ’ เราหมายถึงอะไร
 
9:16  ความรู้สึกของคุณเป็นอย่างไร การตอบสนอง
คำตอบตามสัญชาติญาณของคุณคืออะไร
  
9:35  ระเบียบที่กำหนดด้วยพวกเผด็จการ
 
9:43  คือการเชื่อฟังคนเพียงไม่กี่คน
 
9:47  และทำตามแบบแผนที่แน่นอน ที่พวกเขาสถาปนาขึ้น
 
9:53  ผมใช้คำพูดที่เรียบง่ายที่สุด
 
9:57  แต่ก็ดีพอที่จะเข้าใจว่า เราหมายถึงอะไร
 
10:00  เมื่อเราตรวจสอบคำว่า ‘ระเบียบ’
 
10:04  พวกเขาหมายความอย่างนั้น
 
10:07  จะไม่มีการคัดค้าน ทุกคนคิดเหมือนกันหมด
ทุกคนทำงานเพื่อรัฐ
  
10:15  ไม่ว่ารัฐจะหมายถึงอะไรก็ตาม
 
10:18  ตามที่เลนิน มาร์กซ กำหนด เป็นต้น
 
10:23  แล้วใครก็ตามที่ออกนอกลู่นอกทาง
จะถูกเรียกว่า ผู้คัดค้าน จะถูกทำลาย
  
10:34  นั่นคือระเบียบประเภทหนึ่ง
เราจะตั้งคำถามต่อระเบียบนั้น
  
10:41  แล้วก็มีระเบียบในยุควิคตอเรีย
 
10:48  ถ้าผมจะใช้คำว่า ‘วิคตอเรีย’ ได้
 
10:50  เป็นความหมายประมาณช่วงปลายศตวรรษที่ 19
 
10:58  ซึ่งหมายถึง
จัดทุกๆ สิ่งภายนอกไว้อย่างมีระเบียบ
  
11:02  แต่ภายใน คุณอาจมีความวุ่นวาย
สับสน ระทมทุกข์ มีปัญหาทางเพศ
  
11:07  แต่ภายนอกแสดงให้เห็นว่า คุณมีระเบียบมาก
 
11:13  ในการตอบสนองต่อระเบียบเช่นนั้น
ในการต่อต้านสภาพนั้น
  
11:19  เราค่อยๆ บ่มเพาะ
การทำตามอำเภอใจขึ้นไม่นานนี้เอง
  
11:25  ทำอะไรก็ได้ที่คุณชอบ
 
11:31  ใช่ไหม
 
11:32  สำหรับชายหรือหญิง
ที่อยู่ในสังคมที่ปล่อยตามอำเภอใจ
  
11:41  ระเบียบเป็นสิ่งน่ารังเกียจ
 
11:47  และสำหรับชายหรือหญิงที่อยู่ในยุควิคตอเรีย
 
11:53  ระเบียบคือการควบคุม
 
12:00  อย่าแสดงอารมณ์ความรู้สึกของคุณออกมา
สกัดกั้นยับยั้งมันไว้
  
12:05  แล้วคุณก็มีระเบียบแบบเผด็จการเบ็ดเสร็จ
 
12:09  เหล่านี้คือความเป็นจริงพื้นๆ
ความเป็นจริงในชีวิตแต่ละวัน
  
12:21  ภายนอกเราพูดว่า เราต้องมีระเบียบ
 
12:27  แต่ภายใน เราแสนจะไร้ระเบียบ ใช่ไหม
 
12:32  คุณคิดว่า เรามีระเบียบหรือไม่มีระเบียบ
 
12:36  ไม่มีระเบียบหมายถึง ความขัดแย้ง ความสับสน
 
12:46  ให้ความสำคัญกับสิ่งหนึ่ง ต่อต้านสิ่งอื่นๆ
 
12:52  กามารมณ์กลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด
 
12:55  และบางทีเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่สำคัญ
 
12:57  สิ่งอื่นๆ คุณทิ้งขว้างไม่สนใจ
เอาไว้เป็นเรื่องรอง
  
13:08  ส่วนภายในก็มีการดิ้นรน การต่อสู้ ไม่สิ้นสุด
 
13:17  ทั้งหมดนั้นคือความไม่มีระเบียบ ใช่ไหม
 
13:26  เรื่องนี้ชัดเจนแจ่มแจ้งแน่ๆ ไหม
 
13:31  แล้วอะไรที่ทำให้เกิดความไร้ระเบียบ
ทั้งภายนอกและภายใน
  
13:40  เรารู้ไหม รู้ตัว หรือคุ้นเคย หรือเข้าใจไหม
 
13:45  ว่าเรามีชีวิตอยู่ในความไร้ระเบียบ
 
13:51  ความไร้ระเบียบภายนอกเกิดขึ้น เมื่อมีสงคราม
 
13:59  เป็นความไร้ระเบียบสิ้นเชิง
เป็นการก่อการร้ายโดยแท้
  
14:09  ทำอย่างเป็นระบบ มีการอวยพร
คุ้มครองโดยพระ และผู้ที่น่านับถือ
  
14:23  นั่นคือการก่อการร้ายอย่างเป็นระบบ
เป็นความไร้ระเบียบอย่างเห็นได้ชัด
  
14:30  แต่มันเป็นความไร้ระเบียบที่น่ายกย่อง
 
14:34  เป็นที่ยอมรับของมนุษย์ทุกคนว่าจำเป็น
 
14:39  และมีความไร้ระเบียบ
เมื่อมีความเป็นประเทศชาติ เป็นต้น
  
14:47  ภายนอกไร้ระเบียบ และภายในก็ไร้ระเบียบ
 
14:54  ใช่ไหม
 
14:58  เราคุ้นเคยกับความไร้ระเบียบภายในจิตใจเราไหม
 
15:09  เรารู้ เราคุ้นเคย
เมื่อเราอ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสาร
  
15:13  ว่ามีความไร้ระเบียบน่าสะพรึงกลัวนี้
 
15:20  ขณะนี้ มันยิ่งหนักหน่วงสาหัสสากรรจ์
 
15:24  หรือเราไม่ได้ให้ความใส่ใจ
 
15:31  ที่จะทำความคุ้นเคยกับความไร้ระเบียบภายในเรา
 
15:35  ใช่ไหม
 
15:38  ผมกำลังถามตัวเอง และคุณก็ถามตัวคุณเองอยู่
 
15:42  ว่าอะไรคือรากเหง้าของความไร้ระเบียบนี้
 
15:47  เพราะเหตุใด เราจึงมีชีวิตแบบนี้ พระเจ้า!
 
15:53  ถ้ามีพระเจ้า คุณคงเข้าใจว่าผมหมายถึงอะไร
 
15:57  เพราะเหตุใดเราจึงมีชีวิตอย่างนี้
 
16:01  เพราะเหตุใดเราจึงทนต่อความไร้ระเบียบ
 
16:06  เพราะเหตุใดเรายอมรับมัน
 
16:11  มีความไร้ระเบียบในความสัมพันธ์
ระหว่างชายและหญิง
  
16:15  ไม่ว่าความสัมพันธ์นั้นจะใกล้ชิด
ให้ความรื่นรมย์เพียงใด
  
16:19  ให้ความสุขอบอุ่นใจ น่าพึงพอใจเพียงใด
 
16:24  ในความสัมพันธ์ของพวกเขา ก็ยังมี
การดิ้นรนต่อสู้ไม่สิ้นสุดระหว่างชายและหญิง
  
16:29  ซึ่งคือ ความไร้ระเบียบ ใช่ไหม
 
16:37  Q: ไม่จำเป็น ไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป
 
16:46  K: มันไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป
 
16:50  อาจมีข้อยกเว้น อนุโลมได้
 
16:57  คนหนึ่งหรือสองหรือครึ่งโหล
หรือไม่กี่คนในโลก
  
17:02  ที่อาจจะมีความสัมพันธ์ยอดเยี่ยมต่อกัน
 
17:07  แต่มีความสัมพันธ์ที่น่ากลัว น่าใจหายต่อโลก
 
17:13  ผมพูดว่า ‘อาจจะ’
 
17:20  ก่อนอื่น เราคุ้นเคยกับเรื่องนี้ไหม
 
17:28  เราไร้ระเบียบทั้งภายนอกและภายใน
 
17:31  เราคุ้นเคย เรารู้ เรารู้ตัว เราเข้าใจ
 
17:37  เราเห็นหรือสังเกตไหมว่า
เรามีชีวิตอยู่ในความไร้ระเบียบ
  
17:41  อาจยกเว้นคุณสุภาพสตรีคนนั้น และอีกไม่กี่คน
 
17:51  ถ้าเราไม่รู้ตัว
ว่าเรามีชีวิตอยู่ในความไร้ระเบียบ
  
17:56  แล้วใครจะบอกคุณ
ว่าคุณมีชีวิตอยู่ในความไร้ระเบียบ
  
18:01  ไม่มีใครสนใจหรอก
 
18:06  ตรงกันข้าม เขาต้องการ
ให้คุณมีชีวิตอยู่ในความไร้ระเบียบ
  
18:11  ใช่ไหม
 
18:13  เพราะมันเอื้อประโยชน์
ต่อสังคม ต่อธุรกิจ เป็นต้น
  
18:19  ถ้าคุณมีชีวิตอยู่ในความไร้ระเบียบ
 
18:21  เพราะว่าในทันทีที่คุณมีระเบียบในตัวคุณเอง
 
18:33  คุณเป็นอันตราย
 
18:37  ดังนั้น ถ้าคุณต้องการพูดคุยเสวนาเรื่องนี้
 
18:41  สนทนากันและกัน
 
18:44  และสืบค้นเข้าสู่เรื่องระเบียบนี้
 
18:47  ขอให้ค้นหาด้วยตัวคุณเองว่า คุณคุ้นเคย
 
18:52  คุณรู้ รู้ตัว ตระหนักถึง
วิถีชีวิตคุณ ภายในของคุณไหม
  
19:00  ค้นหาว่ามันเป็นระเบียบหรือไร้ระเบียบ
 
19:05  ระเบียบอาจหมายถึง การทำตามแบบแผน
 
19:12  ทำให้สอดคล้องกับจารีต ใช่ไหม
 
19:18  โดยทั่วไป การทำตามอย่างนั้น
เรียกกันว่า ระเบียบ
  
19:22  การทำให้สอดคล้อง
กับสิ่งที่ผู้คนทางศาสนาสอนไว้
  
19:28  พวกพระ คุรุ ครู
หรือที่เรียกว่า คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์
  
19:33  คุณทำตามและทำให้สอดคล้องกับสิ่งเหล่านั้น
 
19:37  แล้วคุณก็คิดว่า “ฉันมีชีวิตอยู่ในระเบียบ”
 
19:40  การทำให้สอดคล้อง ทำให้เกิดระเบียบหรือ
 
19:48  หรือมันเป็นรากเหง้าของความไร้ระเบียบ
 
19:59  เราทำตามเมื่อเราอยู่ในประเทศนี้
เราสวมเสื้อใส่กางเกง
  
20:05  เมื่อเราไปอินเดีย
เราก็สวมเสื้อผ้าที่ต่างออกไป
  
20:08  แต่นั่นไม่ใช่การทำให้สอดคล้อง
 
20:09  เราพูดถึงการทำให้สอดคล้องในทางจิตใจ ด้านใน
 
20:17  เราทำให้สอดคล้องไหม
 
20:20  เรารู้ เราตระหนักไหม
ว่าเรากำลังทำให้สอดคล้อง
  
20:31  Q: เราเห็นไหมว่า สาเหตุของความไร้ระเบียบ
 
20:36  ก็เหมือนกับสาเหตุของความเสื่อมถอย
 
20:39  K: ใช่ แต่อย่า...
 
20:41  ขอให้ลืมที่เราพูดเกี่ยวกับความเสื่อมถอย
 
20:43  อย่านำเข้ามา เพราะคุณกำลังจะ
ถอยกลับไปสู่แบบแผนดังเดิม
  
20:54  ก่อนอื่น คุณรู้ไหม คุณรู้ด้วยตัวคุณเองไหม
 
20:59  ว่าคุณทำให้สอดคล้อง
 
21:10  กับความคิดเรื่องการแต่งงานและไม่แต่งงาน
ซึ่งก็เหมือนกัน
  
21:19  คุณอาจจะใช้ชีวิตกับชายหรือหญิง
แล้วพูดว่า “เราไม่ได้ทำตาม”
  
21:25  แต่สำหรับคนที่แต่งงาน เขาทำตามด้วยหรือ
 
21:31  เพราะเขาจดทะเบียน หรืออะไรอื่น
 
21:34  คุณตามทันไหม คุณต้องรู้ รู้ตัว
ว่าคุณทำตามแบบแผน
  
21:42  Q: แนวคิดหรือความคิดใดก็ตาม
ที่เกี่ยวกับการทำให้สอดคล้อง
  
21:46  ถ้าความคิดนั้นทำซ้ำๆ
มันก็เป็นการทำให้สอดคล้อง
  
21:48  K: เรื่องจะซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย
 
21:51  เราจะสืบค้นต่อไป ลึกลงไป...
 
21:53  เริ่มจาก ผมหรือคุณทำตามแบบแผนไหม
 
22:00  ไม่ว่าแบบแผนนั้นจะสถาปนาขึ้นโดยสังคม
 
22:06  หรือว่าผมตั้งขึ้นด้วยตัวผมเอง
 
22:10  มันก็ยังเป็นการทำตาม คุณเข้าใจไหม
 
22:14  ผมอาจจะปฏิเสธอำนาจเหนือภายนอกทั้งหมดเลย
 
22:20  แต่ภายใน ผมมีอำนาจเหนือ
ของประสบการณ์ ความรู้ของผม
  
22:28  และผมทำตาม นั่นก็เป็น
การทำให้สอดคล้องเช่นกัน
  
22:49  คุณรู้ตัวถึงความจริงนี้ด้วยตัวคุณเองไหม
 
23:00  ถ้าคุณไม่รู้ แล้วใครจะปลุกคุณให้ตื่น
 
23:09  ใครจะเป็นคนกดดันคุณ จนคุณพูดว่า
 
23:12  “ใช่ ฉันค้นพบแล้วว่า ฉันไร้ระเบียบ”
 
23:16  เพราะโดยแรงกดดัน คุณจะค้นไม่พบ
 
23:22  มันเป็นแรงกดดันจากภายนอก
ที่ทำให้คุณทำตามหรือไม่ทำตาม
  
23:31  ดังนั้น ถ้าเราถามอีกครั้ง
ถ้าคุณถามตัวคุณเอง
  
23:37  คุณทำตามไหมในทางจิตใจ หรือทางใดๆ
 
23:42  จุดนี้สำคัญและละเอียดแยบยลที่สุดจุดหนึ่ง
 
23:46  ถ้าคุณสืบค้นอย่างลุ่มลึก
 
23:50  คุณจำเป็นต้องทำตามกฎหมายบางอย่าง
 
23:59  ในยุโรป คุณต้องขับรถทางขวา
 
24:02  ในอังกฤษ คุณขับรถทางซ้าย
 
24:06  ถ้าคุณพูดว่า “ฉันจะไม่ทำตาม”
แล้วขับรถทางขวา
  
24:10  ตำรวจจะไล่ตามคุณ แล้วแจ้งคุณว่า
 
24:15  “ขอให้ขับทางซ้าย”
 
24:18  ผมกำลังถาม และขอให้ถามตัวคุณเอง
 
24:23  ว่าคุณทำตามจารีตไหม
 
24:32  ทำตามความก้าวร้าว
การตอบสนองที่รุนแรงของคุณไหม
  
24:39  คุณทำตามทั้งหมดนั้นไหม
 
24:41  คุณเห็นไหมว่า เรื่องนี้ยากลำบากอย่างไร
เป็นปัญหายิ่งใหญ่อย่างไร
  
24:51  แล้วถ้าคุณเลียนแบบ ไม่ใช่เรื่องด้านนอก
 
24:54  ผมไม่ได้พูดถึงการเลียนแบบด้านนอก
การไว้ผมยาว ผมสั้น
  
24:57  มีหนวดเคราหรือไม่มี เป็นต้น
 
25:00  แต่เป็นการเลียนแบบทางจิตใจ ด้านใน
 
25:14  คุณจะใช้เวลาช่วงบ่าย หรือช่วงเย็นสักวัน
 
25:18  หรือบางช่วงระหว่างวัน
ที่จะมองดูตัวคุณเองไหม
  
25:25  ได้ไหม
 
25:26  ขณะนี้คุณกำลังทำอยู่ไหม
 
25:29  คุณทำอยู่
ถ้าผมจะขอชี้ให้เห็นด้วยความเคารพว่า
  
25:34  ให้คุณมองดูตัวคุณเอง
และค้นให้พบด้วยตัวคุณเอง
  
25:40  ว่าคุณทำตาม คุณเลียนแบบไหม
 
25:47  และถ้าคุณทำตามแบบแผนบางอย่าง
 
25:53  อีกคนก็ทำตามแบบแผนอีกอย่าง
 
25:55  ระหว่างคนสองคนจึงมีความขัดแย้ง
ความไร้ระเบียบจึงเกิดขึ้น
  
26:02  ใช่ไหม
 
26:05  แล้วถ้าคุณรับรู้ รู้ ตระหนัก เห็น
 
26:12  ว่าคุณอยู่ในความไร้ระเบียบ
 
26:19  คุณจะคงอยู่กับมันไหม
 
26:26  คุณเข้าใจไหม
ไม่ใช่พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงมัน
  
26:30  ไม่พยายามที่จะพูดว่า “ฉันต้องไปพ้นจากมัน
 
26:33  ฉันต้องกดข่มมัน ฉันต้องเข้าใจมัน
ฉันต้องหาเหตุผลให้มัน”
  
26:37  ทว่า โดยปราศจากการเคลื่อนไหวใดๆ
เหมือนดั่งโอบมันไว้ในวงแขนของคุณ
  
26:45  เหมือนทารกน้อยที่นอนหลับในอ้อมแขนคุณ
 
26:49  ในทันทีที่คุณขยับ เด็กจะตื่นร้อง
 
26:53  คุณเข้าใจไหม
 
26:55  ผมสงสัยว่า ผมอธิบายชัดเจนหรือเปล่า
 
27:08  นั่นคือประเด็น
 
27:12  เราจะเข้าใจและก่อให้เกิดระเบียบในชีวิตเรา
 
27:24  โดยการใช้กฎ ระเบียบวินัย
การควบคุม และการกดข่ม
  
27:34  หรือคุณจะสังเกตความไร้ระเบียบในตัวคุณ
 
27:44  ไม่วิ่งหนีจากมัน
 
27:48  ไม่แปลความมันไปตาม
นิสัยแปลกพิกลของคุณเอง
  
27:54  ไปตามพื้นอารมณ์ และความก้าวร้าวของคุณ
 
27:57  เพียงแต่มองดูมัน สังเกต เฝ้าดูมัน ได้ไหม
 
28:10  เราพูดว่า ถ้าคุณตามทัน
– ผมขอสืบค้นต่อ –
  
28:16  เราพูดเมื่อวานนี้
ในการสนทนาหรือการถามตอบครั้งหนึ่งว่า
  
28:25  คำว่า ‘ศิลปะ’ หมายถึง
การจัดสิ่งสรรพให้อยู่ในที่ที่เหมาะสมของมัน
  
28:39  ใช่ไหม
 
28:42  ในที่ที่เหมาะสม
ไม่ให้ความสำคัญต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
  
28:50  ถ้าคุณให้ความสำคัญต่อเทคโนโลยี
 
28:55  แล้วการดำรงอยู่ด้านอื่นๆ
ไม่ได้ให้ความสำคัญในระดับเดียวกัน
  
29:04  ฉะนั้น จึงมีการแตกแยก ไม่สมดุล
 
29:07  ถ้าคุณให้กามารมณ์เป็นเรื่องสำคัญที่สุด
สูงสุด เอาความสำคัญไปหมด
  
29:15  ซึ่งคนส่วนใหญ่เป็นเช่นนั้น
อาจมียกเว้นก็น้อยคน
  
29:20  คนส่วนใหญ่ กามารมณ์อย่างเดียวเท่านั้น
ที่มีความหมายต่อชีวิต
  
29:23  คุณทำเกินความเป็นจริง
จึงก่อให้เกิดความแตกแยก ไม่สมดุล
  
29:30  ถ้าคุณให้ความสำคัญต่อเงินทองมากที่สุด
ความเป็นปฏิปักษ์ก็เกิดขึ้นอีกนั่นแหละ
  
29:37  ถ้าคุณบอกว่าอำนาจ
การครอบงำ สำคัญที่สุด ก็เช่นกันอีก
  
29:48  ดังนั้น การมีชีวิตอยู่
อย่างสมดุลกลมกลืน หมายถึง
  
30:02  การจัดทุกสิ่งให้มีที่ทางที่เหมาะสมของมัน
 
30:08  คุณจะทำไหม หรือคุณเพียง...
 
30:15  คุณจะทำไหม
 
30:22  ไม่ใช่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด
แก่ร่างกายคุณ อย่างคนตะวันตก
  
30:28  โลกตะวันตกให้ความสำคัญ
กับรูปลักษณ์ การแต่งกาย
  
30:32  เขาพะวงกับเรื่องนี้อย่างใหญ่หลวง
คุณตามทันไหม
  
30:37  แต่ไม่ได้หมายความว่า
คุณไม่ต้องแต่งกายเหมาะสม
  
30:39  สมควรตามทำนองคลองธรรม เป็นต้น
 
30:46  คุณจะทำทั้งหมดนี้ไหม
 
30:49  ถ้าคุณไม่ทำ คุณพูดคุยเกี่ยวกับระเบียบไปทำไม
 
30:54  มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
 
31:00  แต่ถ้าเราต้องการมีชีวิต
อยู่ในระเบียบ อยู่ในสมดุล
  
31:09  ด้วยความรู้สึกถึงความงามอันยิ่งใหญ่
และสงบสันติ
  
31:16  คุณต้องมีระเบียบ
 
31:24  ระเบียบ
ไม่ใช่การเดินจากหน้าต่างบานนี้ไปบานนั้น
  
31:37  นิสัยชอบเดินดูตามหน้าร้าน แต่ไม่ซื้อ
 
31:40  คุณเข้าใจวลีที่ว่า “เที่ยวเดินดูของ
ตามหน้าร้าน แต่ไม่ซื้อ” หรือเปล่า
  
31:45  ไม่เคยซื้ออะไรเลย
แต่ไปเดินดู จากร้านนี้ไปร้านนั้น
  
31:54  แล้วคุณคิดว่า
นั่นเป็นจิตที่กว้างใหญ่สุดพิเศษ
  
32:01  จากหนังสือเล่มหนึ่งไปอีกเล่ม
จากครูคนหนึ่งไปอีกคน
  
32:05  จากคุรุคนหนึ่งไปอีกคน
นักบวชคนหนึ่งไปอีกคน
  
32:08  นักปรัชญาคนหนึ่งไปอีกคน
 
32:10  ไม่เคยเลยที่จะอยู่ในที่เดียว แล้วค้นหา
 
32:19  ทำไมผู้คนถึงทำอย่างนั้น
คุณเคยสงสัยบ้างไหม
  
32:23  พวกเขาไปอินเดีย
เขาเบื่อพวกนักบวชที่นี่เหลือทน
  
32:30  บางทีอาจจะมีอะไรบางอย่าง ที่นั่น
 
32:35  นั่นเป็นเรื่องเพ้อฝัน เรื่องไร้สาระทั้งหมด
 
32:43  การทำอย่างนี้เรียกกันว่า ‘การสั่งสมความรู้’
 
32:48  หรือเรียกว่า ‘จิตที่เปิดกว้าง’
 
32:53  จริงๆ แล้ว มันไม่ใช่จิตที่เปิดกว้าง
มันเป็นตะแกรงร่อนขนาดใหญ่ รูกว้าง
  
33:00  มีแต่รู ไม่มีอะไรเลย
 
33:04  เราทำแบบนี้ตลอดเวลา ด้วยวิธีที่แตกต่างกัน
 
33:09  เราจึงถามว่า คุณจริงจังพอไหม
คุณมุ่งมั่นพอไหม
  
33:18  คุณอุทิศพอไหม
ที่จะมีชีวิตในระเบียบที่เป็นทั้งหมด
  
33:35  Q: ดูเหมือนง่ายกว่า
ที่จะมีชีวิตอยู่ในความไร้ระเบียบ
  
33:44  K: ผมไม่ได้ยิน
 
34:05  Q: (ภาษาฝรั่งเศส)
 
34:09  K: มันง่ายยิ่งกว่า
ที่จะมีชีวิตอยู่ในความไร้ระเบียบ
  
34:18  Q: ใช่ไหม ใช่
 
34:26  Q: เขาไม่ตระหนักว่า ความไร้ระเบียบคืออะไร
 
34:29  ถ้าเขาชอบอยู่ในความไร้ระเบียบ
 
34:35  K: ขอแค่ชั่วโมงเดียวเช้านี้
 
34:44  ให้เราค้นหาด้วยตัวเราเอง ว่าเราชอบ
มีชีวิตอยู่ในความไร้ระเบียบหรือเปล่า
  
34:52  ปรากฏว่า ผู้คนส่วนใหญ่
ชอบอยู่ในความไร้ระเบียบ
  
34:55  ความไร้ระเบียบในห้องของเขา เป็นต้น
 
35:01  ถ้าเขาชอบ นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ไม่มีอะไรที่จะพูดถึงมัน
  
35:08  แต่ถ้าคุณพูดว่า
การใช้ชีวิตอยู่ในความไร้ระเบียบ
  
35:12  ก่อให้เกิดความหายนะในชีวิตเรา
 
35:19  เกิดความทุกข์ทรมาน ความสับสน
ความรุนแรง และอื่นๆ
  
35:26  ก็ชัดเจนว่า เราต้องรู้ตัว ตระหนักรู้
 
35:34  รู้ และคุ้นเคยกับความไร้ระเบียบของเรา
 
35:43  ลองทำดู อย่างน้อยชั่วโมงหรือครึ่งชั่วโมง
ที่เรายังมีเวลาเหลือ
  
35:46  หรือ 45 นาที ขณะที่คุณนั่งอยู่ที่นี่
 
35:49  นั่งเงียบๆ พูดคุยเสวนา ค้นหากัน
 
35:56  ไม่ใช่กลุ่มบำบัด ซึ่งงี่เง่าเกินไป
 
36:01  แต่นั่งเงียบๆ เพื่อจะค้นหา
 
36:05  ทำความคุ้นเคยกับตัวเรา
 
36:14  ถ้าคุณพบว่า คุณมีชีวิตอยู่
ในความไร้ระเบียบ
  
36:20  เมื่อค้นพบด้วยตัวคุณเอง
แล้วเราจะทำอย่างไร
  
36:24  คุณเข้าใจไหม
 
36:30  การจะค้นหาว่าจะทำอะไร หรือไม่ทำอะไร
 
36:34  เราต้องสืบค้นเข้าสู่คำถามว่า
รากเหง้าของความไร้ระเบียบคืออะไร
  
36:45  ตัวรากเหง้าคืออะไร
 
36:47  ที่ก่อให้เกิดความสับสนทั้งหมดนี้
ความขัดแย้ง ความทุกข์ทรมาน
  
36:57  อะไรคือรากเหง้า
ของความไร้ระเบียบสิ้นดี ในวิถีชีวิตเรา
  
37:05  อย่าพูดว่า “มันคือตัวฉัน” หรือตัวตน
เหล่านั้นเป็นคำพูด หรือเป็นความคิด
  
37:12  แต่ให้ค้นหาด้วยตัวเราเอง
 
37:19  Q: เรายอมรับความหวาดกลัวของคนส่วนใหญ่
 
37:23  ที่แสดงออกมาแบบโง่ๆ อยู่ทั่วโลก
แล้วบอกว่า มันคือระเบียบ
  
37:27  ผมตะโกนออกไปจากเปลวไฟ
ของความโกรธ ความเมตตาการุญในจิตใจ
  
37:34  บนใบหน้าผมหลงเหลืออยู่แต่คำชมที่พูดว่า
 
37:38  คุณแย่กว่ากฤษณมูรติเสียอีก
นั่นจะหมายความว่าอะไรก็ตาม
  
37:42  K: ทิ้งให้หมด ทิ้งกฤษณมูรติ
ทิ้งเรื่องเหลวไหลพรรค์นั้น
  
37:48  แล้วค้นหาด้วยตัวคุณเอง
 
37:54  ขอเถิด จริงๆ ผมไม่ได้สนใจในตัวผม
 
37:58  ผมแก่เกินไปสำหรับเรื่อง
ไม่ประสีประสาทำนองนั้น
  
38:06  Q: นั่นแหละ เราไม่ได้ใส่ใจต่อผู้อื่น
นั่นคือต้นเหตุของความไร้ระเบียบ
  
38:13  K: อะไรนะ
 
38:20  Q: เธอพูดว่า เราไม่ใส่ใจต่อคนอื่น
 
38:28  K: เราไม่ใส่ใจต่อคนอื่นหรือ
เรากำลังพูดเรื่องความไร้ระเบียบนะคุณ
  
38:33  Q: (ภาษาฝรั่งเศส)
 
38:49  K: อะไรคือเหตุของความไร้ระเบียบ
นั่นคือที่ผมถาม
  
38:52  อะไรคือเหตุ คือต้นเหตุ
คือหัวใจสำคัญของความไร้ระเบียบ
  
38:59  อย่าอ้างอิงใคร รวมทั้งผมด้วย
 
39:07  เพราะถ้าคุณอ้าง
 
39:10  คุณก็เพียงแต่ตอบ
โดยพูดสิ่งที่คนอื่นพูดไว้แล้ว
  
39:17  ดังนั้น ทิ้งสิ่งที่คนอื่นพูด
รวมทั้งคนๆ นี้ด้วย
  
39:23  อย่าได้ขึ้นสังกัดกับกฤษณมูรติ
 
39:29  การสังกัดเป็นเรื่องร้ายแรง
 
39:37  เพื่อเห็นแก่พระเจ้า
อย่าได้ตั้งกลุ่มกฤษณมูรติ
  
39:44  Q: คุณหมายถึงโรงเรียนหรือ
 
39:46  K: ไม่ใช่
 
39:47  เห็นแก่พระเจ้าเถิด ให้เวลากับเรื่องนี้
 
40:00  อะไรคือรากเหง้าของความไร้ระเบียบ
 
40:10  อะไรก็ตามที่จำกัด คุณเข้าใจไหม
 
40:15  อะไรก็ตามที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ที่แคบมาก
ต้องทำให้เกิดความไร้ระเบียบ
  
40:27  ถ้าผมรักคุณ ผู้เป็นมนุษย์คนหนึ่ง
แต่เกลียดคนอื่นๆ
  
40:33  มันต้องทำให้เกิดความไร้ระเบียบ
 
40:38  ถ้าผมผูกพันกับคุณ และผมไม่ใส่ใจต่อโลกเลย
 
40:42  ตราบเท่าที่คุณและผมยังสุขสมบูรณ์
อยู่ในบ้านน้อยๆ ของเรา
  
40:51  เรากำลังค้นพบอะไรบางอย่าง
 
40:55  นั่นคือ อะไรก็ตามที่กระทำ
 
41:04  ที่มีชีวิตอยู่ในพี้นที่แคบๆ
อยู่ในเปลือกหุ้มที่เล็กมากๆ
  
41:11  หรือเปลือกหุ้มมหึมา
 
41:15  มันก็ยังถูกจำกัด
 
41:18  สิ่งใดก็ตามที่เคลื่อนไหว ทำงาน
และปฏิบัติอยู่ในพื้นที่แคบๆ
  
41:24  ย่อมต้องก่อให้เกิดความไร้ระเบียบ
 
41:32  ถ้าผมสังกัดคุรุคนนั้น ไม่สังกัดคุรุคนอื่น
 
41:40  เห็นได้ชัดว่า ผมปฏิบัติอย่างจำกัดคับแคบมาก
 
41:46  แต่ถ้าผมไม่มีคุรุเลย
 
41:51  ผมไม่ตามใครเลย
 
41:59  ผมอาจจะปฏิบัติอย่างกว้างไกล
 
42:05  ผมจึงถามคุณว่า
 
42:12  ความไร้ระเบียบทำให้เกิดวิถีชีวิต
ที่จำกัดคับแคบ ใช่ไหม
  
42:29  มีแต่สามีฉัน แล้วไม่มีคนอื่นเลย
 
42:34  ฉันจะคิดว่า “ฉันต้องใจดี ฉันต้องใจกว้าง
 
42:37  ฉันต้องเมตตาการุญ ฉันต้องรักคนอื่น”
 
42:40  แต่มันเป็นเพียงแค่คำพูด
 
42:43  เพราะศูนย์กลางทั้งหมดของฉัน
อยู่รอบคนๆ เดียว หรือสิ่งเดียว
  
42:53  นั่นอาจจะทำให้เกิดความไร้ระเบียบ
 
42:59  ผมจึงพบว่า การกระทำใดๆ
 
43:03  การกระทำที่ถูกจำกัด
ต้องทำให้เกิดความไร้ระเบียบ
  
43:13  นั่นคือ ถ้าผมกระทำเยี่ยงผู้รักชาติ
มันคือความไร้ระเบียบ
  
43:21  ถ้าผมกระทำเยี่ยงคาทอลิค
เยี่ยงโปรเตสแตนท์
  
43:24  ฮินดู พุทธ หรือทำนองนั้น
 
43:26  มันคือความไร้ระเบียบ
 
43:35  คุณมองดูตัวเองแล้วยัง คุ้นเคยกับตัวเอง
 
43:40  แล้วพูดว่า “ไม่ มันเป็นอย่างนั้น
ฉันจะทิ้งมัน – มันจบหรือยัง”
  
43:49  ถ้าคุณสนใจในการค้นหาว่า
อะไรคือความไร้ระเบียบ
  
43:55  ทุกอย่างที่ทำให้เกิดความไร้ระเบียบ
ก็จะถูกทิ้งไปทันที
  
44:07  ดังเช่น นักวิทยาศาสตร์
ที่มีส่วนร่วมในงานวิจัย
  
44:14  เขาจึงให้ความสนใจงานวิจัยเป็นสำคัญ
 
44:17  สิ่งอื่นๆ เป็นรอง แต่นั่นเป็นสิ่งหลัก
 
44:22  เขาให้ชีวิตทั้งหมดกับมัน
 
44:26  ดังนั้น คุณจะค้นหาด้วยตัวคุณเองได้ไหม
 
44:32  ว่าคุณกระทำและใช้ชีวิต
อยู่ในวงล้อมเล็กๆ หรือเปล่า
  
44:43  Q: คุณคิดว่าการเปลี่ยนแปลงตัวเอง
มันง่ายมากไหม
  
44:52  ที่จะมีการหยั่งเห็นว่ามีความไร้ระเบียบ
 
44:55  และนี่คือเหตุผล...
 
44:59  K: มันง่ายมากไหมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
 
45:04  นั่นเป็นคำถามหลัก ขอโทษ รอสักครู่
 
45:08  ผมรู้ว่าคุณถาม ผมลืม ขออภัยด้วย
 
45:13  มันง่ายมากไหมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ผมตอบว่า “มันง่ายมาก”
  
45:22  อย่าเชื่อ
เพราะคุณเปลี่ยนแปลงไม่ได้ง่ายอย่างนั้น
  
45:32  แต่ถ้าคุณเห็นอันตราย คุณเข้าใจไหม
 
45:38  อันตรายจริงๆ เหมือนที่คุณเห็น
อันตรายของหน้าผา
  
45:43  คุณลงมือทำ
 
45:45  แต่คุณไม่เห็นอันตราย
ของการกระทำที่จำกัดคับแคบ
  
45:54  ไม่เห็นอันตรายของวิถีชีวิตที่จำกัด
 
45:58  ซึ่งคือ ฉันผูกพันกับคุณ คุณเป็นของฉัน
 
46:02  ขอให้เราใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสงบสุข
ขออย่าให้เราทะเลาะเบาะแว้ง
  
46:05  ให้ลืมโลกเสีย โลกที่น่าเกลียด
 
46:08  ฉันต้องออกไปในโลก เพื่อหาเลี้ยงชีพ
 
46:10  แต่เราสองคนอยู่ด้วยกัน
 
46:14  อย่างนี้เหมือนเป็นเรื่องของเด็กอมมือเกินไป
 
46:19  Q: จริงๆ แล้ว ไม่มีอะไรอื่น
นอกจากความมีระเบียบ ใช่ไหม
  
46:22  และความไร้ระเบียบคือ ถ้าผมเข้าใจ
บางสิ่งบางอย่างจากกระแสของระเบียบ...
  
46:27  K: ไม่ใช่ ไม่มีกระแสของระเบียบ
 
46:32  ไม่มี นั่นเป็นเพียงจินตนาการ
ว่ามีระเบียบสูงสุด
  
46:37  Q: ไม่ใช่ ไม่ได้หมายความอย่างนั้น
ซึ่งคือพระเจ้า สรวงสวรรค์
  
46:39  แต่หมายถึง ระเบียบ
เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในตัวมันเอง
  
46:42  ในสิ่งใดก็มีระเบียบ ถ้าผมเข้าใจ
 
46:46  ถ้ามีความเข้าใจสิ่งรอบๆ ทั้งหมด
 
46:49  K: แล้วจึงมีระเบียบ
 
46:50  เมื่อคุณเข้าใจอันตราย
ของความไร้ระเบียบในชีวิต
  
46:56  ซึ่งแสดงออกในแบบต่างๆ กัน
 
46:59  การทำให้สอดคล้อง
การใช้ชีวิตอยู่ในร่องรางเล็กๆ แคบๆ
  
47:05  ร่องรางอาจจะกว้างใหญ่มาก
แต่มันก็ยังคับแคบอยู่ดี
  
47:08  ถ้าคุณเข้าใจทั้งหมดนั้น
 
47:11  ไม่ใช่เข้าใจทางถ้อยคำ ทางปัญญานึกคิด
แต่เข้าใจถึงอันตรายของมันจริงๆ
  
47:16  มันก็จบ ระเบียบก็เกิดขึ้น
 
47:27  Q: ผมคิดว่า มันไม่ง่ายนักที่จะ
เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพราะ...
  
47:34  ผมหยั่งเห็นเดี๋ยวนี้ ผมรับรู้ว่ามันอันตราย
 
47:39  แต่เมื่อผมกลับไปในเมือง กลับไปหาเพื่อน
 
47:42  ผมก็ลืมมัน
 
47:44  K: เมือง ธุรกิจ ภรรยา สามี
 
47:49  เป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด
 
47:56  เพราะทั้งหมดนั้นเกี่ยวข้องกับความผูกพัน
 
48:02  K: คุณเข้าใจไหม อันตราย
Q: คุณคิดว่า...
  
48:03  มันไม่ได้หมายความว่า คุณไม่สามารถ
 
48:06  แต่งงานและมีภรรยา
 
48:08  แต่มองให้เห็นอันตราย
ของการมีชีวิตอย่างที่เป็นอยู่
  
48:19  ชีวิตในวงล้อมแคบๆ เล็กๆ
 
48:25  คุณรู้ไหม เมืองซาเน็น หมู่บ้านเล็กๆ นี้
ผู้คนพูดภาษาเยอรมัน
  
48:34  คุณไปอีกสองไมล์ เขาพูดภาษาฝรั่งเศส
 
48:36  แล้วคนฝรั่งเศสพวกนั้นก็ไม่พบปะกัน
 
48:40  เขาเก็บตัวอยู่ในวงล้อมกระจ้อยร่อยนั้น
 
48:47  เราก็กำลังทำเหมือนกัน
 
48:49  คุณเห็นอันตราย
ของการใช้ชีวิตแบบนั้นจริงๆ ไหม
  
48:54  ก็แค่นั้นเอง
 
48:57  ถ้าคุณไม่เห็น เราจะทำให้คุณเห็นได้อย่างไร
 
49:04  ช่วยคุณให้เห็นอย่างไร
 
49:08  ผมมองไม่เห็นอันตรายของการทำให้สอดคล้อง
 
49:16  เข้ากับจารีตประเพณี กับแบบแผน
ไม่ว่าด้านนอกหรือด้านใน
  
49:19  ผมไม่เห็นว่า นั่นคือสาเหตุของความไร้ระเบียบ
 
49:25  คุณอธิบายให้ผมฟังด้วยแง่มุมต่างๆ กัน
 
49:27  ผมปฏิเสธที่จะดูมัน คุณเข้าใจไหม
 
49:32  เพราะมันรบกวนอย่างยิ่ง
 
49:35  เมื่อผมเคยชินในการมีชีวิตอย่างไร้ระเบียบ
 
49:41  แล้วคุณขอให้ผมมองดูมัน
มันทำให้ผมหวาดกลัว
  
49:46  ผมรู้สึกกลัวมัน
 
49:50  ถ้าคุณพูดกับคนที่ใช้ชีวิต
อยู่ในรัฐเผด็จการเบ็ดเสร็จ
  
49:57  เขาพูดว่า “ใช่ เราเคยชินกับมัน”
 
50:05  K: คุณรู้ได้อย่างไร
Q: เขายังไม่เคยชินกับมันเลย
  
50:09  Q: เราได้ยินมา ดูจากสิ่งที่เกิดขึ้น
 
50:13  K: มีคนหรือสองคนที่คัดค้าน ไม่เห็นด้วย
 
50:17  หนึ่งหรือสองคน ยกเว้นพวกเขา
 
50:23  หนึ่งหรือสองคนที่ไม่เห็นด้วย
ถูกส่งไปค่ายกักกัน
  
50:28  ไปโรงพยาบาลโรคจิต
และความร้ายกาจน่าสยองขวัญที่เขาทำ
  
50:33  แต่ปรากฏชัดว่าคนส่วนใหญ่ ผมจะบอกคุณ
 
50:37  เพราะผมได้พูดคุยกับพวกเขาหลายคน
 
50:39  เขาพูดว่า “เราเคยชินกับมัน”
 
50:43  คุณเคยชินกับความไร้ระเบียบ
 
50:47  คุณเคยชินกับสงคราม
 
50:51  คุณเคยชินกับการทะเลาะวิวาท
กับภรรยาและสามี
  
50:58  คุณเคยชินกับการมีชีวิตอยู่
ในความยุ่งเหยิงวุ่นวาย
  
51:04  คุณรู้ไหม มีสิ่งที่น่าสนใจมาก คือ
 
51:10  เอกภพ คำว่า ‘เอกภพ’ หมายถึงระเบียบ
 
51:17  และจักรวาลอยู่ในระเบียบ
คือระเบียบอันสัมบูรณ์
  
51:31  แต่เรามีชีวิตอยู่ในความไร้ระเบียบ
แล้วพยายามที่จะเข้าใจเอกภพ เข้าใจจักรวาล
  
51:39  ผมสงสัยว่า คุณเข้าใจสิ่งที่ผมพูดหรือไม่
 
51:48  ผมจะเข้าใจสิ่งที่เป็นระเบียบสัมบูรณ์ได้อย่างไร
 
51:54  ระเบียบที่ไม่มีการหยุดพัก
 
51:58  ในเมื่อตัวผมเอง มีชีวิตอยู่ในความไร้ระเบียบ
 
52:03  ผมไม่อาจเข้าใจได้ ผมจึงไม่สนใจในระเบียบ
 
52:08  ผมสนใจความไร้ระเบียบ การพูดว่า
 
52:13  “ผมจะค้นหาว่า
ผมจะสลายความไร้ระเบียบนั้นได้อย่างไร
  
52:19  ผมจะค้นให้พบ ผมจะอุทิศชีวิตผมให้”
 
52:22  มันสำคัญ คุณตามทันไหม
 
52:27  แล้วผมเห็นเหตุต่างๆ ที่ทำให้เกิด
ความไร้ระเบียบ นั่นก็พอแล้ว
  
52:38  ผมจึงพูดว่า “ใช่ ผมสนใจมาก
 
52:41  สนใจในระเบียบอย่างมุ่งมั่นแรงกล้า”
 
52:45  ผมเริ่มต้นด้วยความไร้ระเบียบ
แล้วค้นหาว่าอะไรคือสาเหตุ
  
52:50  มันจึงเป็นเรื่องง่าย
 
52:51  เพราะทั้งหมดที่ผมสนใจคือ
การมีชีวิตอยู่ในระเบียบ
  
52:56  ในเมื่อผมไม่รู้จักมัน ผมจึงย้อนกลับไปค้นหา
 
53:00  ผมใช้เวลา พลังงาน สืบค้นในความไร้ระเบียบ
 
53:12  อย่าได้จับฉวยเอาความกระตือรือร้นของผม
ความสนใจของผม
  
53:19  ความเข้มข้นแรงกล้าของผม อย่าจับฉวยมันไว้
 
53:21  เพราะมันไม่ใช่ของคุณ
 
53:27  Q: ผมอ่อนแอ ผมไม่มีความเข้มแข็งพอ
 
53:32  ผมพยายามแล้วครั้งหนึ่ง
ผมพบเหตุของความไร้ระเบียบ
  
53:37  ที่ผมไม่อยากสูญเสียมันไปด้วยเหตุใดก็ตาม
ผมจึงหยุดอยู่ตรงนั้น
  
53:44  หรือผมลืมเกี่ยวกับมัน
 
53:48  K: พูดง่ายๆ
คุณชอบที่จะอยู่ในความไร้ระเบียบ
  
53:53  ผมไม่ได้ประณาม
ผมพูดว่านั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น
  
53:58  Q: คุณไม่คิดหรือว่า
ระเบียบฝังติดอยู่โดยธรรมชาติ
  
54:01  และมันเป็นความจำกัดของเรา
 
54:03  K: ระเบียบฝังติดอยู่ในมนุษย์โดยธรรมชาติ
 
54:08  และความคิดเท่านั้น
ที่ทำให้เกิดความไร้ระเบียบ
  
54:13  นี่เป็นคำกล่าวโบราณ
ของผู้คนทางศาสนาทั้งหลาย
  
54:21  ระเบียบมีอยู่ พระเจ้าคือระเบียบ
สวรรค์คือระเบียบ ผมเกิดจากสวรรค์
  
54:29  ประกายเล็กๆ นั้นอยู่ในตัวผม
 
54:32  ซึ่งวันใดวันหนึ่งจะเบ่งบาน
แล้วทำลายความไร้ระเบียบ
  
54:38  เราเล่นเกมส์นี้มาล้านปีแล้ว
 
54:46  คุณเห็นไหมว่า จิตเราทำงานอย่างไร
มันเป็นจารีต คุณตามทันไหม
  
54:55  Q: คุณคิดว่า โรงเรียนของคุณมีระเบียบ
 
54:59  มากกว่าโรงเรียนอื่นๆ ใช่ไหม
 
54:59  K: กรุณาเถิด
มากกว่าโรงเรียนอื่นๆ ใช่ไหม
  
55:00  K: กรุณาเถิด
 
55:01  คุณเห็นไหม เขาออกนอกเรื่องไปไหน
 
55:03  เขาไปพูดเรื่องโรงเรียน
ซึ่งผมมีส่วนเกี่ยวข้อง
  
55:07  เขาไม่ได้สืบค้นว่า
ชีวิตเขาอยู่ในความไร้ระเบียบหรือไม่
  
55:11  เขากลับต้องการที่จะรู้ว่า
โรงเรียนไร้ระเบียบหรือไม่
  
55:13  คุณเห็นการหลบหนีไหม
 
55:15  Q: มันไม่ใช่การหลบหนี
มันเป็นเพียงความอยากรู้อยากเห็น
  
55:17  K: ไม่ มันไม่ใช่
 
55:19  ผมไม่ได้สนใจ... ขออภัย
 
55:21  Q: มันเป็นปัญหาที่จริงจังมาก
 
55:25  K: ขอความกรุณาเถิด
 
55:27  Q: ถ้าคนที่มีส่วนร่วม และทำงาน
ในโรงเรียนเหล่านั้นขึ้นอยู่กับคุณ
  
55:32  เช่น เรื่องระเบียบ
เพื่อจะทำให้โรงเรียนดำเนินไปได้
  
55:36  และนั่นเป็นปัญหาสำคัญมาก
 
55:42  K: ที่นี่ ขณะนี้
ไม่มีใครสนใจเกี่ยวกับโรงเรียน
  
55:47  หรือครู
 
55:49  เราสนใจเกี่ยวกับ
ความไร้ระเบียบในเราแต่ละคน
  
55:55  K: ขออย่าออกไปนอกเรื่อง
Q: บางที...
  
55:56  Q: ความรับผิดชอบของคุณ
เป็นส่วนหนึ่งของความไร้ระเบียบ
  
56:05  K:
 
56:07  Q: เขาพูดว่า
ความรับผิดชอบของคุณต่อโรงเรียน
  
56:09  เป็นส่วนหนึ่งของความไร้ระเบียบ
 
56:10  Q: บางที ผมพูดว่า ‘บางที’
 
56:16  K: นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณเสวนา
 
56:21  กับคนที่ออกนอกเรื่อง
 
56:24  Q: คุณพยายามจะสะกดจิตเรา
 
56:28  ให้ไปตามระบบของคุณ
เพื่อเข้าสู่ระเบียบในลักษณะของคุณ
  
56:36  ถ้าเราต้องการที่จะค้นพบระเบียบ
เราต้องทำตามแบบของเรา
  
56:41  ผมพบว่า มันยากมาก
ที่จะยอมรับสิ่งที่คุณพูด
  
56:46  และบางครั้งผมสงสัยอย่างจริงจังมาก
 
56:50  ว่าคุณเป็นมนุษย์ที่มี
ระเบียบสมบูรณ์หรือเปล่า
  
56:55  บางครั้ง คุณก็ผิดพลาด
 
56:57  และผมพบว่า มันยาก
ที่จะยอมรับว่าคุณสมบูรณ์แบบ
  
57:01  K: คุณครับ
 
57:02  ผมเสนอว่า ให้คุณเช่าหอประชุมเพื่อพูด
 
57:15  Q: คุณรับคำถามไม่ได้
นี่เป็นการสนทนาถามตอบ ไม่ใช่หรือ
  
57:18  K: ขออภัย
 
57:19  Q: มันไม่ได้ทำให้เราสนใจ
K: ขออภัย
  
57:21  Q: มันไม่ได้ทำให้เราสนใจ
 
57:24  Q: คุณต้องมองดูความทุกข์ยากของตัวคุณเอง
Q: ตกลง ผมจะหยุดพูด
  
57:25  K: ถูกแล้ว
 
57:31  Q: เที่ยง 25 นาที
K: กี่โมงแล้ว
  
57:38  K: เราพูดกันเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว
 
57:43  เราพูดถึงตรงไหน
 
57:46  Q: ความไร้ระเบียบ
 
57:53  K: คุณเห็นตัวอย่างที่ดีของความไร้ระเบียบ
ที่คุณสุภาพสตรีพูด
  
57:57  คนที่เบี่ยงเบนออกไปเรื่องอื่น
 
58:01  และไม่ได้สนใจความไร้ระเบียบในตัวเขาเอง
 
58:07  ผมไม่ได้พูดว่า คุณไร้ระเบียบหรือมีระเบียบ
 
58:12  แต่ให้ค้นหาด้วยตัวเราเองว่า
คุณอยู่ในความไร้ระเบียบ
  
58:18  ไม่ใช่เพราะกฤษณมูรติบอก
 
58:26  Q: ผมรู้สึกว่า มีความไร้ระเบียบที่นี่...
 
58:42  K: คุณให้เวลาสัก 10 นาที
เพื่อค้นหาด้วยตัวคุณเอง ได้ไหม
  
58:52  คุณอยู่ที่นี่
 
58:54  บางที พวกคุณบางคุณอาจดีใจ
ที่ผมไม่กระหน่ำคุณอีก
  
59:00  แต่ใน 10 นาที คุณค้นหาด้วยตัวเองได้ไหม
 
59:06  ว่าคุณมีชีวิตอยู่ในระเบียบ หรือไร้ระเบียบ
 
59:09  โดยที่เข้าใจว่า ความไร้ระเบียบคืออะไร
 
59:13  และไม่ใช้ระเบียบเป็นเครื่องมือ
มุ่งไปสู่การปรับเปลี่ยนให้สอดคล้อง
  
59:23  คุณเข้าใจไหม ผมอธิบายทั้งหมดนั้นแล้ว
 
59:25  เราจะใช้เวลา 10 นาทีร่วมกัน
อย่างจริงจัง ได้ไหม
  
59:29  เพื่อค้นหาว่าคุณและผม
มีชีวิตอยู่ในความไร้ระเบียบไหม
  
59:36  ความไร้ระเบียบนี้คืออคติ ความลำเอียง
 
59:42  ความไร้ระเบียบนี้ เกิดจาก
การปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องทางจิตใจ
  
59:54  ซึ่งคือการทำตามจารีต
ทำตามแบบแผน การเชื่อฟัง
  
59:59  ในทางตรงข้าม คือไม่ทำตาม
และมีปฏิกิริยา
  
1:00:02  ซึ่งก็ยังเป็น
การปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องนั่นเอง
  
1:00:09  รากเหง้าของความไร้ระเบียบนี้ คืออะไร
 
1:00:22  เราพูดว่า รากเหง้าอาจเป็น
การกระทำ การคิด
  
1:00:26  อยู่ในพื้นที่เล็กๆ ที่ปิดล้อมในทางจิตใจ
 
1:00:34  คุณอาจจะเดินทางไปทั่วโลก
แต่ด้านใน ทางจิตใจ
  
1:00:39  เราอาจจะมีชีวิตอยู่ในพื้นที่ที่เล็กมาก
 
1:00:44  ถึงแม้จะขยายพื้นที่นั้นออกไป
 
1:00:49  เช่น “ฉันต้องมีใจที่เปิดกว้าง
ต้องคิดและมองดูทุกสิ่งทุกอย่าง”
  
1:00:55  จากนั้นก็หวังที่จะกระทำ และอื่นๆ
 
1:01:02  ดังนั้น ในช่วง 10 นาทีนี้ ให้พลังงานของคุณ
 
1:01:08  เพื่อค้นหาว่า คุณอยู่ในความไร้ระเบียบหรือเปล่า
และหาสาเหตุของมัน
  
1:01:25  ขออย่าได้เบี่ยงออกไปในสมาธิ
 
1:01:32  มันอยู่ตรงนั้น เพื่อที่คุณจะมองดู
 
1:01:40  ถ้าคุณค้นพบว่ามันจริง
ที่คุณปรับเปลี่ยนให้สอดคล้อง
  
1:01:46  คุณกระทำอยู่ในวงล้อมที่เล็ก
ที่คับแคบมากๆ
  
1:01:53  คุณก็สามารถมองดูมัน สังเกตมันได้
 
1:02:00  และไม่พยายามที่จะทำอะไรกับมัน
 
1:02:05  ดังที่เราพูดเมื่อวันก่อน
 
1:02:08  เมื่อนักวิทยาศาสตร์ชั้นดี
ชั้นนำ ยอดเยี่ยมสูงสุด
  
1:02:13  เมื่อเขามองผ่านกล้องจุลทรรศน์
 
1:02:17  หรือมองดูเซลล์หรืออะไรก็ตาม
 
1:02:21  ถ้าเขามองด้วยสมมุติฐาน ด้วยอคติ
 
1:02:24  ด้วยความอยากที่จะเข้าใจมัน
 
1:02:28  เขาก็นำเอาแนวความคิดของเขา
เข้ามาในการมองดู
  
1:02:33  เขาก็มองไม่เห็นสิ่งๆ นั้น
 
1:02:36  เขาค้นพบว่า ถ้าคุณสังเกต
โดยปราศจาก ‘อคติ’
  
1:02:40   
 
1:02:45  สิ่งๆ นั้นจะเริ่มเคลื่อนไหว
เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวมันเอง
  
1:02:52  คุณเข้าใจที่ผมพูดไหม
 
1:02:55  คุณจะดูสิ่งที่คุณดูอยู่แบบเดียวกันได้ไหม
 
1:03:00  ดูโดยปราศจากปฏิกิริยาใดๆ
 
1:03:08  นั่นคือ สังเกตความไร้ระเบียบ
สังเกตสาเหตุของมัน
  
1:03:17  มองดูมัน
ไม่ใช่ต้องการชนะอยู่เหนือมัน ไปพ้นมัน
  
1:03:23  หรือกดข่มมัน หนี หรือพูดว่า
“เรื่องนี้เหมาะสมแล้ว”
  
1:03:26  ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น เพียงแค่มองดู
 
1:03:30  แล้วถ้าคุณมองอย่างนั้น
สิ่งที่คุณกำลังมองดูอยู่
  
1:03:35  จะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวมันเองใหม่
 
1:03:39  การเปลี่ยนแปลงใหม่ของตัวมันเอง
คือระเบียบ...
  
1:03:44   
 
1:03:47  Q: ผมไม่ทราบว่า สำหรับคุณ มันเป็น
ความสุขเพลิดเพลินอย่างหนึ่งหรือเปล่า
  
1:03:51  Q: ขอให้เงียบ
 
1:03:56  Q: ฉันไม่แน่ใจ
K: มันไม่ใช่ความสุขเพลิดเพลินสำหรับผม
  
1:03:59  K: คุณไม่แน่ใจก็ไม่เป็นไร
 
1:04:14   
 
1:04:25  คุณจะฟังไหม ขอให้ฟัง
ผมต้องการจะบอกอะไรบางอย่าง
  
1:04:31  ขอให้แค่ฟังสนุกๆ
 
1:04:36  เมื่อคุณสังเกตบางสิ่งบางอย่าง
โดยปราศจากอดีต
  
1:04:44  ปราศจากอคติ ปราศจากอะไรทั้งสิ้น
 
1:04:47  สิ่งๆ นั้นที่คุณกำลังมองดูมีชีวิต
เคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลง
  
1:04:51  มันจึงไม่เคยหยุดนิ่ง
 
1:04:57  แต่ความไร้ระเบียบหยุดนิ่งเสมอ
 
1:05:03  หยุดนิ่งในความหมายที่มัน
ไร้ระเบียบตลอดเวลา
  
1:05:07  คุณเข้าใจที่ผมพูดไหม
 
1:05:09  แต่ถ้าคุณมองดูมัน ความไร้ระเบียบนั้น
จะเปลี่ยนแปลงตัวมันเอง
  
1:05:15  เป็นสิ่งอื่น
 
1:05:22  คุณกำลังดูมันอย่างนั้นไหม
 
1:05:25  Q: การรู้จักจำได้เกี่ยวข้องกับการดูนี้ไหม
 
1:05:40  K: มันไม่ใช่การรู้จักจำได้
 
1:05:45  ผมพูดว่า ถ้าคุณรู้จัก
จำมันได้ มันเป็นความทรงจำ
  
1:05:51  ถ้าคุณพูดว่า “ใช่ นั่นคือความไร้ระเบียบ
ผมกำลังมองดูมัน”
  
1:05:57  คุณก็มีความทรงจำเกี่ยวกับความไร้ระเบียบ
มีแนวความคิดเกี่ยวกับความไร้ระเบียบ
  
1:06:03  มีความคิดรวบยอด
มีสูตรสำเร็จของความไร้ระเบียบ
  
1:06:07  ด้วยความคิดรวบยอดเหล่านั้น คุณดู
 
1:06:12  คุณจึงมองดูความไร้ระเบียบ
อย่างกว้างขวาง ครอบคลุม
  
1:06:22  แต่ถ้าคุณดูโดยปราศจากความทรงจำ
ปราศจากการพูดว่า “นั่นคือความไร้ระเบียบ”
  
1:06:31  แต่มองดูเหมือนนักวิทยาศาสตร์
 
1:06:35  ที่พูดว่า “ฉันต้องการดู
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ตรงนั้น
  
1:06:42  ฉันไม่ต้องการนำเอาสิ่งที่ฉันคิดว่า
มันควรจะเกิดขึ้นตรงนั้น” เข้ามา
  
1:06:47  ผมไม่ทราบว่านักวิทยาศาสตร์ทำอย่างนั้นไหม
แต่ผมพูด ผมหวังว่าเขาทำ
  
1:06:53  แล้วสิ่งที่คุณกำลังสังเกตนั้น
 
1:06:57  จะพบผ่านการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง
 
1:07:03  Q: ถ้ามีการมองดูโดยปราศจากความทรงจำ
 
1:07:06  จะไม่เห็นการเคลื่อนไหว เพราะว่า...
 
1:07:12  K: นั่นแหละ ใช่แล้ว
ไม่มีการเคลื่อนไหว มีแต่การสังเกตเท่านั้น
  
1:07:15  Q: เพราะการรู้จัก จำการเคลื่อนไหวได้
เป็นความทรงจำไปแล้ว
  
1:07:18  K: ใช่ คุณจะทำทั้งหมดนี้ไหม
 
1:07:23  ลองทำดูจริงๆ ในชีวิตแต่ละวัน
 
1:07:33  มันเป็นศิลปะของการมีชีวิตอยู่
 
1:07:38  ซึ่งคือ การจัดทุกสิ่งทุกอย่าง
ให้มีที่ทางที่ถูกต้องของมัน
  
1:07:47  แล้วจะไม่มีความไร้ระเบียบ
 
1:07:51  แต่ถ้าคุณจัดทุกสิ่งไว้ในที่ที่ถูกต้องของมัน
เพราะมันสะดวก
  
1:07:55  เพราะคุณคิดว่า คุณจะประหยัดพลังงาน
 
1:07:58  เพราะคุณคิดว่า คุณจะมีระเบียบ
 
1:08:01  คุณก็กำลังสร้างความไร้ระเบียบขึ้น
 
1:08:04  ใช่ไหม