Krishnamurti Subtitles

SA79T7 - ในความเงียบที่เป็นทั้งหมด จิตประสบสภาวะนิรันดร์

พูดกับสาธารณชนที่ซาแนน สวิสเซอร์แลนด์ ครั้งที่ 7
วันที่ 22 กรกฎาคม 1979



0:46  ผมคิดว่า
ครั้งนี้คงเป็นการพูดครั้งสุดท้าย
  
0:49  ตั้งแต่วันพุธเราจะมีการเสวนากันอีก
เป็นเวลา 5 วัน
  
0:58  ทำไมพวกคุณ
ถึงได้นั่งเงียบกันไปหมดทุกคน
  
1:12  ผมไม่ทราบว่า
คุณเคยสังเกตหรือไม่...
  
1:17  ...ว่ายากยิ่งที่จิตของเรา
จะสงบเงียบจริงๆ...
  
1:26  ...จิตที่เงียบสงัด ไร้ปัญหา...
 
1:33  ...หรือปัญหาต่างๆ ที่มี
ถูกกันออกไปชั่วขณะ...
  
1:39  ...แล้วมีจิตที่เป็นอิสระ
จิตที่ไม่ยุ่งเหยิง...
  
1:43   
 
1:48  ...จิตที่ไม่ยื่นยาวออกไป...
 
1:53  ...จิตไม่ส่ายเสาะแสวงหา
สิ่งใดทั้งสิ้น...
  
1:57  ...แต่สงบเงียบอย่างถึงที่สุด...
 
2:03   
 
2:08  ...และอาจจะสังเกตไม่เพียงแต่
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในโลกเท่านั้น...
  
2:16  ...ทว่ายังสังเกตดู
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในโลกภายใน...
  
2:21  ...ซึ่งเป็นโลกของการดำรงอยู่
ของตัวเราเอง...
  
2:28  ...โลกแห่งทัศนคติ ท่าที
ความทุกข์ยากของเรา...
  
2:39  ...เพียงแต่สังเกตเท่านั้น
 
2:43  ผมสงสัยว่ามีใครเคยทำสิ่งเหล่านี้
กันบ้างหรือไม่
  
2:49  หรือเรามัวแต่เสาะแสวงหา ค้นหา
ถาม วิเคราะห์ เรียกร้อง...
  
2:53  ...พยายามเติมเต็มให้กับชีวิต
หรือพยายามปฏิบัติตามใครบางคน...
  
2:59  ...ตามอุดมคติ และอะไรอื่นๆ...
 
3:04  ...หรือพยายามที่จะสร้าง
ความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น
  
3:17  ผมสงสัยว่าเหตุใดจึงมีการดิ้นรน
ไขว่คว้าและแสวงหานี้อยู่ร่ำไป
  
3:33  ผมไม่ทราบว่า
ทำไมคุณถึงไปอินเดีย...
  
3:37  ...เพื่อเสาะหาสิ่งพิเศษ
ที่ไม่ธรรมดาบางอย่าง...
  
3:39  ...ที่อาจจะเกิดขึ้น
 
3:43  ...เมื่อคุณไปยังประเทศนั้น
คุณปฏิบัติตามใครบางคน...
  
3:46  ...ที่บอกให้คุณร้องรำทำเพลง...
 
3:52  ...หรือทำอะไรก็ตาม
ที่คุณอยากทำ (หัวเราะ)...
  
3:56  ...และยังมีคนอีกบางจำพวก
ที่พยายามบังคับ...
  
3:59  ...ให้คุณทำสมาธิภาวนา
ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง...
  
4:03  ...ให้คุณยอมรับอำนาจอิทธิพล
ประกอบพิธีกรรมบางอย่าง...
  
4:11  ...และตะโกนร้องตามอำเภอใจ
และอื่นๆ
  
4:16  ทำไมเราจึงพากัน
ทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้
  
4:26  อะไรคือความกระหาย
ที่ไม่สิ้นสุดของเรา
  
4:34  อะไรกันแน่ที่เรากำลังแสวงหา
 
4:39  เราจะสืบค้นเข้าไปในเรื่องนั้นบ้าง
สักเล็กน้อย...
  
4:43  ...ลองค้นหาดูด้วยตนเอง
ว่าอะไรคือสิ่งที่เราโหยหา...
  
4:47  ...ค้นหา แสวงหา
พยายามเติมให้เต็ม...
  
4:54  ...และพยายามที่จะให้มี
จะเป็นอะไรบางอย่าง
  
5:01  นอกเหนือไปจากคัมภีร์ พิธีกรรม
และความเชื่อทางศาสนา...
  
5:08  ...ซึ่งบุคคลผู้ที่ค่อนข้างมีปัญญา
ได้ละวางสิ่งเหล่านี้ไปแล้ว...
  
5:15  ...และไม่ไปยังธิเบต ญี่ปุ่น...
 
5:18  ...หรือพยายามปฏิบัติตาม
พุทธศาสนาแบบเซ็น...
  
5:22  ...หรือทำอะไรต่างๆ ทำนองนั้น
 
5:25  ...แต่คงที่ที่บ้านของตน
อย่างสงบเงียบ...
  
5:33  ...หรือเดินเล่นเงียบๆ โดยลำพัง...
 
5:38  ...แล้วเราก็ถามได้ไหมว่า...
 
5:40  ...ทำไมจึงมีความกระหาย
อันไม่รู้จักจบสิ้นนี้
  
5:50  เราจะสืบค้นเข้าไปตรงนั้น
กันสักหน่อยไหม
  
5:56  เพราะว่าเราได้พูดกัน
ไปเกือบหมดทุกเรื่องแล้ว...
  
6:00  ...ในการพูด 6 ครั้งที่ผ่านมา
 
6:05  เราพูดกันเรื่องความกลัว
การคิดร่วมกัน...
  
6:13  ...เราพูดกันถึง
เรื่องความทุกข์โศก...
  
6:20  ...ความสุขเพลิดเพลิน
และเราก็พูดคุยกันถึง...
  
6:24   
 
6:27  ...เรื่องปัญญา ความรัก
และความเมตตากรุณาด้วย
  
6:31  ดังที่เราได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า
หากปราศจากปัญญา...
  
6:35  ...ซึ่งเราได้สืบค้นกัน
อย่างละเอียดรอบคอบแล้ว...
  
6:43  ...ความรักหรือความเมตตากรุณา
ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้...
  
6:48  ...สิ่งเหล่านี้ไปด้วยกัน
 
6:51  มิใช่ปัญญาจากตำรา
และเล่ห์เพทุบายของความคิด...
  
7:00  ...อีกทั้งมิใช่ปัญญาของจิต
ที่ชาญฉลาดแยบยล...
  
7:11  ...แต่เป็นปัญญาที่รับรู้
อย่างตรงๆ ถึงสิ่งที่ไม่จริง...
  
7:18   
 
7:24  ...เห็นสิ่งเป็นเท็จ
สิ่งที่เป็นอันตราย...
  
7:26  ...และปล่อยวางมันทันที...
 
7:30  ...คุณลักษณะจิตเยี่ยงนั้นแหละ
คือปัญญา
  
7:38  ในเช้าวันนี้
เราจะสืบค้นเข้าไปในเรื่องนี้...
  
7:42  ...มิใช่เพียงแค่สืบค้นดูว่า...
 
7:46  ...อะไรคือสิ่งที่เราล้วนร่ำร้อง
แสวงหาเท่านั้น
  
7:51  ทว่าในขณะที่เราร่วมกันสืบค้น...
 
7:56  ...บางทีเราอาจค้นพบด้วยตนเอง
ว่าอะไรคือคุณลักษณะแห่งจิตนั้น...
  
8:02  ...จิตซึ่งคือประสาทสัมผัสทั้งหมด
ปฏิกิริยาการตอบสนอง...
  
8:07   
 
8:12  ...และอารมณ์ทั้งหมดทั้งปวงของเรา..
 
8:19  ...รวมถึงความสามารถที่จะคิด
ได้อย่างกระจ่างชัดเจนยิ่ง...
  
8:23  ...ทั้งหมดนั้นคือจิต
ซึ่งเนื้อแท้ของมันก็คือความคิด
  
8:28   
 
8:33  บางทีเราอาจจะคุยกันด้วยว่า...
 
8:39  ...สมาธิมีลักษณะ
มีธรรมชาติอย่างไร...
  
8:43  ...และในชีวิต ในการดำรงอยู่
แต่ละวันของเรา...
  
8:48  ...มีอะไรบางอย่างหรือไม่...
 
8:53  ...ที่ไม่ใช่ภารกิจด้านนอก...
 
8:59  ...การครอบครอง
วัตถุสิ่งของและเงินตรา เพศรส...
  
9:00  ...ความรู้สึกตื่นเต้น
ทางประสาทสัมผัส...
  
9:02  ...แต่นอกเหนือไปจาก
สิ่งเหล่านั้นทั้งหมด...
  
9:04  ...มีสิ่งใดบ้างไหม
ที่ศักดิ์สิทธิ์โดยแท้จริง...
  
9:08  ...ไม่ใช่สิ่งที่สร้างขึ้น
โดยความคิด...
  
9:15  ..ไม่ใช่สัญลักษณ์อันหลากหลายรูปแบบ
ที่ความคิดสร้างขึ้นมา...
  
9:20  ...ตามวัดวาอาราม
โบสถ์และวิหารต่างๆ...
  
9:25  ...แต่เป็นสิ่งที่คุณต้องค้นหา
ด้วยตนเอง ซึ่งอาจจะโดยสมาธิ...
  
9:34  ...ที่เป็นอิสระจากการหลอกลวงตนเอง
และมายาทั้งปวง...
  
9:38  ...และคิดได้อย่างซื่อตรงยิ่ง...
 
9:45  ...ค้นหาว่ามีอะไรบางอย่าง
ที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริงหรือไม่..
  
9:51  ...ซึ่งก็คือกระแสแห่งสมาธินั่นเอง
 
9:58  ดังนั้นหากว่าเราจะคิดร่วมกัน
ขอให้เรามาสืบค้นกันก่อนว่า...
  
10:04  ...อะไรกันแน่ที่เราหิวกระหาย
ต้องการมัน
  
10:06   
 
10:18  ผู้คนส่วนมากต่างมีประสบการณ์มากมาย
และหลากหลายประเภท...
  
10:29  ...มิใช่เพียงแค่
ประสบการณ์ทางความรู้สึก...
  
10:33  ...ที่ผ่านประสาทสัมผัสต่างๆ
แต่รวมถึงเหตุการณ์ทั้งหลาย...
  
10:42  ...ที่นำมาซึ่งกระแสแห่งอารมณ์
ความรู้สึก ความเพ้อฝัน...
  
10:52  ...ทว่าประสบการณ์ต่างๆ เหล่านี้
ที่เรามี...
  
10:58  ...ค่อนข้างจะมีสาระเพียงน้อยนิด...
 
11:01  ...หรือบางทีประสบการณ์ทั้งหมด...
 
11:04  ...ล้วนเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
ไม่มีสาระสำคัญอะไร
  
11:13  เมื่อเราเริ่มสืบค้นว่า...
 
11:15  ...อะไรคือสิ่งที่เราทั้งหมด
ต่างเสาะหา ต้องการ และเฝ้าปรารถนา...
  
11:18  ...มันเป็นสิ่งที่ตื้นๆ ผิวเผิน...
 
11:25  ...เป็นเพียงความรู้สึก
ทางประสาทสัมผัส...
  
11:34  ...หรือเป็นอะไรบางอย่าง
ที่ความอยากเสาะแสวงหา...
  
11:40  ...ซึ่งนั่นย่อมเป็นสิ่งที่ตื้นเขิน
อย่างเห็นได้ชัด
  
11:46  ในการคิดพินิจร่วมกันนี้ เรา
สามารถเคลื่อนจากความตื้นเขินนี้...
  
11:52  ...ไปสู่การสืบค้นที่กว้าง
และลึกซึ้งขึ้นได้ไหม
  
11:57   
 
12:11  ได้ไหม
 
12:14  นั่นคือเรา ซึ่งหมายถึงคุณและผู้พูด
มาทำความเข้าใจร่วมกัน...
  
12:18  ...ว่าทั้งหมด
ที่เราเฝ้าปรารถนานั้น...
  
12:25  ...เป็นเพียงเรื่องผิวเผิน ตื้นเขิน
เป็นความต้องการทางผัสสะ...
  
12:31  ...หรือเป็นความปรารถนา
การแสวงหา...
  
12:41  ...โหยกระหายในอะไรบางอย่าง...
 
12:46  ...ที่พ้นไปจากสิ่งดังกล่าวทั้งหมด
 
12:50  คุณเข้าใจคำถามของผมไหม
 
13:12  คุณจะสืบค้นเข้าไป
ในเรื่องนี้อย่างไร...
  
13:19  ...เมื่อคุณตั้งคำถามนี้แล้ว...
 
13:22  ...การสืบค้นของคุณหรือความอยาก
ปรารถนาของคุณแค่ตื้นเขิน...
  
13:23  ...อย่างเช่น
อยากมีเงินทองมากขึ้น...
  
13:29  ...มีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น...
 
13:35  ...พยายามที่จะเติมเต็ม
พยายามที่จะมีความสุข...
  
13:39  ...ความต้องการที่ตื้นเขิน
เป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้นหรือ...
  
13:44  ...คุณจะสืบค้น
เข้าไปในเรื่องนี้อย่างไร
  
13:49  สืบค้นด้วยการวิเคราะห์หรือ
 
13:54  การวิเคราะห์ก็ยังคงเป็นกระแส
ของความคิดที่มองย้อนกลับไป
  
14:01  ความคิด รวมทั้งเหตุการณ์
และประสบการณ์ต่างๆ ของมัน...
  
14:05  ...ทำการสำรวจตรวจสอบตัวมันเอง
โดยการวิเคราะห์...
  
14:12  ...การตรวจสอบของความคิด
ยังคงอยู่ในขอบเขตอันจำกัดคับแคบ...
  
14:16   
 
14:18  ...เพราะความคิดถูกจำกัดให้คับแคบ
นั่นเป็นที่ชัดเจน
  
14:23  แต่ความคิดเป็นเครื่องมือ
เพียงอย่างเดียวที่เรามี...
  
14:29  ...ดังนั้นเราจึงใช้เครื่องมือ
หนึ่งเดียวนี้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
  
14:34  ...ทั้งๆ ที่รู้ว่าความคิด
เป็นเครื่องมือที่จำกัด...
  
14:39  ...และเมื่อรู้ว่าความคิด
ไม่อาจแก้ปัญหา...
  
14:42  ...หรือไม่สามารถที่จะสืบค้น
ได้อย่างลึกล้ำ...
  
14:48  ...แม้กระนั้น
เราก็ยังคงใช้ความคิดต่อไปอีก
  
14:51  ใช่หรือไม่
 
14:54  ผมคิดว่าเราไม่เคยตระหนักเลย...
 
14:57  ...ว่าเครื่องมืออันนี้ไม่ว่าจะทื่อ
จะถูกใช้มามากเพียงใด...
  
15:06  ...มันไม่อาจแก้ไขปัญหาได้...
 
15:08  ...ดังนั้นจึงละวางมันเสีย
 
15:10  แต่ดูเหมือนว่าเราไม่อาจที่จะ
ละวางมันได้ เพราะเหตุใดหรือ
  
15:17  โปรดสืบค้นไปด้วยกันกับผม
 
15:20  คุณเข้าใจคำถามของผมไหม
 
15:28  ความคิดเสกสรรสร้าง
โลกทางเทคโนโลยีขึ้นมา
  
15:34  ใช่ไหม
 
15:35  ความคิดสร้างการแบ่งแยกทั้งหมด
ที่มีอยู่ในโลก
  
15:40  ความคิดได้สร้างไม่ใช่แค่เพียง
การแบ่งแยกทางชาติเท่านั้น...
  
15:44  ...แต่ยังมีการแบ่งแยกทางศาสนา...
 
15:45  ...ทางอุดมการณ์...
 
15:50  ...และการแบ่งแยก
ระหว่างมนุษย์สองคนในทุกๆ รูปแบบ...
  
15:57  ...ไม่ว่าพวกเขาจะคิดว่า
เขารักกันมากเพียงใดก็ตาม...
  
16:01  ...ก็ยังมีการแบ่งแยก
เยี่ยงนี้อยู่...
  
16:06  ...และความคิดเป็นตัวการทำให้เกิด
การแบ่งแยกนั้น ซึ่งเห็นได้ชัด
  
16:12  เราจะยอมรับไหมว่า...
 
16:16  ...การทำงานของความคิดนั้น
ย่อมจำกัดคับแคบอย่างเลี่ยงไม่ได้..
  
16:21  ...เพราะเหตุที่ความคิด
เป็นผลพวงแห่งอดีต...
  
16:28  ...ย่อมต้องนำมาซึ่งการแบ่งแยก
อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้...
  
16:32  ...ฉะนั้นสิ่งใดที่ความคิดทำ
จึงจำกัดคับแคบ
  
16:36  ความคิดจึงไม่สามารถเห็นได้ทั้งหมด
 
16:39  ใช่หรือไม่
 
16:42  ทีนี้เราจะถามได้ไหมว่า...
 
16:47  ...กิจของความคิดเยี่ยงนั้น
ตื้นเขิน ผิวเผิน...
  
16:50  ...หรือว่าความคิดอันจำกัดคับแคบนี้
จะสามารถสืบค้นได้ลึกมากยิ่งขึ้นๆ
  
16:58  คุณตามที่ผมพูดทันใช่ไหม
 
17:01  เราเข้าใจกันและกันใช่ไหม
เราสืบค้นกันต่อได้ไหม
  
17:06  ได้โปรดเถิด นี่ไม่ใช่เป็นแค่
การอธิบายด้วยถ้อยคำ...
  
17:10  ...มิใช่ให้เราเข้าใจแจ่มแจ้ง
ในถ้อยคำ...
  
17:14  ...ทว่าเรามาร่วมกันค้นหา
ด้วยตนเองว่า...
  
17:26  ...อะไรคือรากเหง้า
ของความหิวกระหาย...
  
17:33  ...ความอยากอันยิ่งใหญ่นี้
ที่จะแสวงหา...
  
17:41  ...ค้นหากระแสที่เคลื่อนออกไป
และเข้ามาอยู่เป็นนิจนี้คืออะไร
  
17:48  ตรงนี้เห็นชัดเจนใช่ไหม
 
17:59  การสังเกต
เป็นเครื่องมือของความคิดไหม
  
18:08   
 
18:11  คุณตามทันหรือไม่
 
18:12  โปรดสืบค้นเข้าไปในเรื่องนี้
กับผมอีกสักนิด
  
18:16  ในการสังเกตนั้น เกี่ยวข้องกับ
การเคลื่อนไหวของความคิดหรือไม่
  
18:22   
 
18:28  คุณอาจจะสังเกต
แล้วก็สรุป รับรู้...
  
18:32   
 
18:36  ...หรือมีการสรรค์สร้าง
จากการสังเกตนั้นๆ
  
18:39  การสร้างสรรค์...
 
18:42  ...หรือกิจต่างๆ ที่เกิดขึ้น
จากการสังเกตเยี่ยงนั้น...
  
18:47  ...เป็นกระแสแห่งความคิด
 
18:49  โดยทั่วๆ ไป เราทำอย่างนั้น
 
18:52  อย่างเช่น เมื่อเราเห็นสีๆ หนึ่ง...
 
18:56  ...ก็จะมีการสังเกต
ถึงสีสันของมัน...
  
18:59  ...จากนั้นก็เกิดความชอบ ความไม่ชอบ
หรืออคติทั้งหลาย...
  
19:03  ...ทั้งหมดนั้นคือกระแสความคิด
 
19:07  ใช่หรือไม่
 
19:10  เราจะสามารถสังเกตโดยที่ไม่มี
ความคิดใดๆ เคลื่อนเข้ามาเลยได้ไหม
  
19:13   
 
19:25  การทำเช่นนั้น
จำเป็นต้องมีวินัยอย่างใดหรือไม่
  
19:30  คุณเข้าใจไหม
 
19:35  รากศัพท์ของคำว่าวินัย
คือการเรียนรู้
  
19:41  เป็นการเรียนรู้ มิใช่
การสยบยอมทำตามหรือทำเลียนแบบ...
  
19:47  ...มิใช่การทำจิตใจให้ทื่อทึบ
ด้วยการทำซ้ำๆ ซากๆ...
  
19:51  ...ไม่ใช่กิจวัตรทั้งหมด
ทว่าวินัยคือการเรียนรู้
  
19:54  เราสามารถเรียนรู้การสังเกต...
 
20:05  ...อันปราศจากความคิดที่คอยสร้าง
มโนภาพขึ้นจากการสังเกตนั้นๆ...
  
20:11  ...แล้วกระทำ หรือปฏิบัติ
ไปตามมโนภาพนั้นๆ ได้ไหม
  
20:15  เราเพียงแค่สังเกตได้ไหม
 
20:20  ซึ่งนั่นหมายถึงการเรียนรู้
การสังเกต...
  
20:24  ...และเรียนรู้หรือรู้สึกตัว
ต่อการเคลื่อนไหวของความคิด...
  
20:28  ...ที่แทรกเข้ามาในการสังเกตนั้น
ได้หรือไม่
  
20:33  เรียนรู้ถึงการเคลื่อนไหวของความคิด
 
20:37  ซึ่งนั่นคือวินัยที่แท้จริง
คือการเรียนรู้
  
20:45  ผมสงสัยว่าคุณเข้าใจเรื่องนี้
แล้วหรือยัง
  
20:48  เราตามกันทันไหม
 
20:50  เรากำลังทำไปพร้อมๆ กับที่
เรากำลังเสวนากันอยู่นี้หรือเปล่า...
  
20:57  ...หรือว่าคุณจะเอากลับไปคิดดูอีกที
 
21:00  ขอให้เราทำไปด้วยกันทั้งหมด
ทำความเข้าใจด้วยกัน
  
21:04  เราบอกว่า เมื่อมีการสังเกตเข้าไป
ในความปรารถนาของเรา...
  
21:09   
 
21:15  ...ในความกระหาย
ต่ออะไรบางอย่างของเรา...
  
21:20  ...เป็นไปได้ไหมที่เราจะสังเกต
โดยปราศจากแรงจูงใจใดๆ...
  
21:26  ...แรงจูงใจ
ซึ่งอาจจะเป็นความอยาก...
  
21:29  ...หรือเป็นข้อสรุปรวบยอดของความคิด
ล้วนเป็นอดีต...
  
21:35  ...การสังเกตที่แท้จริงที่ปราศจาก
อดีตเข้ามาสอดแทรก เป็นไปได้ไหม
  
21:43  คุณสังเกตอย่างนั้นได้ไหม
 
21:47  นั่นแหละคือการเรียนรู้
 
21:50  กระบวนการทั้งหมดนี้ ทั้งการสังเกต
การสอดแทรกของความคิด...
  
21:55   
 
21:59  ...ทั้งผลลัพธ์และผลกระทบ
ของกระบวนการทั้งหมด...
  
22:03  ...เพียงสังเกตเท่านั้น
 
22:10  เราต้องการเรียนรู้
 
22:17  โดยทั่วไปๆ แล้ว การเรียนรู้
เป็นการสั่งสมข้อมูลความรู้ต่างๆ
  
22:23  ใช่หรือไม่
 
22:25  ไม่ว่าที่โรงเรียน วิทยาลัย
และมหาวิทยาลัย...
  
22:28  ...หรือการเรียนรู้เกี่ยวกับ
ความสัมพันธ์หรือเรียนรู้เรื่องอื่นๆ
  
22:41  เมื่อสั่งสมความรู้ แล้วก็ปฏิบัติ
หรือกระทำจากความรู้ที่สั่งสมมา
  
22:46  ใช่ไหม
 
22:48  ดังนั้นจุดประสงค์ของการเรียนรู้
อย่างนั้นก็เพื่อสั่งสมความรู้...
  
22:53  ...และจากความรู้ที่มี
เราก็ลงมือปฏิบัติ...
  
22:56  ...หรือกระทำด้วยความเชี่ยวชาญ
หรือไม่ชำนาญการก็ตาม
  
23:01  หรือคุณลงมือปฏิบัติ
แล้วจึงเรียนรู้...
  
23:08  ...ซึ่งหมายถึงการสั่งสมความรู้
จากการกระทำ
  
23:12  คุณเข้าใจแล้วใช่ไหม
 
23:14  คุณตามทันไหม
 
23:16  ดังนั้นการกระทำของเราจึงขึ้นอยู่
กับความรู้ที่สั่งสมมาเสมอ
  
23:24  เป็นอย่างนี้ไหม
 
23:25  มีการกระทำ แล้วเรียนรู้จากการกระทำ
แล้วสั่งสมความรู้
  
23:30  มีการสั่งสมความรู้แล้วกระทำ
 
23:36  ใช่หรือไม่
 
23:38  ดังนั้นการกระทำของเรา
จึงอยู่บนพื้นฐานของห้วงอดีตเสมอ...
  
23:44  ...หรืออดีตสร้างภาพอนาคต
แล้วกระทำไปตามภาพอนาคตนั้น
  
23:51  มันเป็นการเคลื่อนไหวเดียวกัน
ที่มีการดัดแปลง...
  
23:54  ...ทว่ามันยังเป็น
การเคลื่อนไหวดังเดิมอยู่นั่นเอง
  
23:58  ใช่ไหม
 
23:59  ผมสงสัยว่า
คุณตามทั้งหมดนี้ทันหรือเปล่า
  
24:02  คุณกำลังทำอยู่หรือเปล่าครับ
 
24:26  ร้อนแล้ว
 
24:37  ทว่าเรากำลังชี้ให้เห็นอะไรบางอย่าง
ที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
  
24:42  คุณเข้าใจไหม
 
24:44  การที่ต้องสั่งสมความรู้
แล้วจึงกระทำ
  
24:49  การสั่งสมความรู้ แล้วสร้าง
อนาคตกาลขึ้นมาจากความรู้นั้น...
  
24:50   
 
24:54  ...แล้วกระทำไปตามอนาคตที่คิดออกไป
 
24:58  ดังนั้นการกระทำต่างๆ ของเรา
เป็นผลพวงแห่งอดีต หรืออนาคตเสมอ...
  
25:04  ...นั่นคือ การกระทำที่มีมูลฐาน
อยู่บนกาลเวลา...
  
25:07  ...เป็นวันวาน วันนี้และวันพรุ่งนี้
 
25:15  วันวานมาบรรจบกับปัจจุบัน
ซึ่งก็คือวันนี้...
  
25:19  ...แปรปรับตัวมันเอง
และดำเนินสืบต่อไป
  
25:22  ใช่หรือไม่
 
25:23  การกระทำของเรา
จึงอยู่บนพื้นฐานของกระบวนการนั้น
  
25:26  เห็นได้ชัดว่า การกระทำของเรา
ย่อมไม่บริบูรณ์เสมอ
  
25:33  เพราะว่ามีความรู้สึกเสียใจ
แฝงอยู่ในนั้น...
  
25:37  ...มีความรู้สึกดิ้นรนกังวลใจ...
 
25:41  ...เป็นการกระทำ
ที่ไม่เคยรู้สึกว่าครบถ้วนบริบูรณ์
  
25:44  ใช่หรือไม่
 
25:46  ทว่าขณะนี้
เรากำลังชี้ให้เห็นอะไรบางอย่าง...
  
25:49  ...ที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง...
 
25:51  ...นั่นคือการสังเกต
ที่ไร้ซึ่งอดีตและอนาคตกาล
  
25:54   
 
26:00  เพียงแต่สังเกต
 
26:05  สังเกตเหมือนที่นักวิทยาศาสตร์
ชั้นดีสังเกตผ่านกล้องจุลทรรศน์...
  
26:08  ...สังเกตสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจริงๆ
 
26:15  ใช่ไหม
 
26:18  เมื่อเขาสังเกต
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่จริงๆ...
  
26:25  ...สิ่งที่เขาสังเกตอยู่นั้น
จะเกิดการเปลี่ยนแปลง จักมีการเคลื่อน
  
26:29   
 
26:31  โปรดรับฟังที่พูดนี้
 
26:39  เราจะสังเกตดูความโหยหา ปรารถนา
การแสวงหา แรงกระตุ้นเร้า...
  
26:45   
 
26:48   
 
26:52  ...ผลักดัน พลังงานอันแรงกล้า
ที่เรียกร้องต้องการนั้นได้ไหม
  
26:59  คุณเข้าใจหรือยัง
 
27:02  คุณตามทั้งหมดนี้ทันหรือไม่
 
27:05  ได้โปรดเถิด นี่ไม่ใช่เป็นการขบคิด
ด้วยเชาว์ปัญญาอันหนักหน่วง
  
27:09  นี่เพียงเป็นไปตามตรรกะ สมเหตุสมผล
ดังนั้นจึงเป็นปรกติดี
  
27:16   
 
27:19  ปกติ ซึ่งหมายถึงความสมบูรณ์ดี
 
27:28  ดังนั้น เราสามารถสังเกต
เยี่ยงนั้นได้ไหม
  
27:31  สังเกตความอยาก
แรงปรารถนาของเรา...
  
27:39  ...อะไรกันที่เราต้องการจากชีวิตนี้
อะไรคือสิ่งที่พวกเราเสาะหา...
  
27:49  ...ไล่ล่าให้ได้มา
พวกเราส่วนมากกำลังแสวงหา...
  
27:57  ...มิฉะนั้น
คุณทั้งหลายคงไม่มา ณ ที่นี้
  
28:10  โปรดสืบค้นเข้าไปอีกสักนิด...
 
28:15  ...คุณอ่านหนังสือมากมาย
เกี่ยวกับปรัชญา จิตวิทยา...
  
28:21  ... ทำดุษฎีบัณฑิตในแขนงนี้
หรือแขนงนั้น...
  
28:23  ...หรืออ่านตำราศาสนาทั้งหลาย
 
28:30  ในทั้งหมดนั้น เขาบ่งบอกเสมอว่า
มีอะไรบางอย่างที่เหนือพ้น...
  
28:33  ...เหนือธรรมชาติ
คุณเข้าใจไหม
  
28:36  ...ยิ่งไปกว่าอะไรบางอย่าง
ที่ยิ่งกว่า มากกว่า...
  
28:38  ...ลุ่มลึกกว่า ลึกลงไปกว่า
ลึกซึ้งกว่า
  
28:45  เมื่ออ่านตำราเหล่านั้นแล้ว
เราก็พูดว่า...
  
28:48  "บางทีสิ่งนั้นอาจจะมีจริง
ฉันจะแสวงหาสิ่งนั้น"
  
28:53  แล้วเราก็ไปหลงยึดติดนักบวช
และปรมาจารย์ทั้งหลาย...
  
29:01   
 
29:05  ...หลงติดอยู่กับความนิยมล่าสุด...
 
29:10  ...จนกระทั่งคุณคิดไปว่า
คุณได้พบแล้ว...
  
29:13  ...พบอะไรบางอย่าง
ที่ทำให้คุณพึงพอใจ...
  
29:17  ใช่ไหม
บางสิ่งซึ่งให้คุณบอกว่า...
  
29:21  "ฉันมีความสุขสมบูรณ์ดีแล้ว
ฉันไม่ต้องแสวงหาอีกต่อไป"
  
29:29  บางทีนั่นอาจจะเป็นเพียง
มายาหนึ่งเท่านั้น
  
29:32  และผู้คนโดยส่วนมาก ชอบที่จะมีชีวิต
อยู่ในมายาความหลอกลวง
  
29:44  และการแสวงหา
ความเรียกร้องต้องการ...
  
29:48  ...ความโหยหาทั้งหมดของคุณ
ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา...
  
29:55  ...หรือไม่ได้ทำให้เกิดสังคมที่ดี
คุณเข้าใจไหม...
  
29:59  ...สังคมที่ดี
สังคมที่อยู่บนฐานแห่งสันติ...
  
30:04  ...ไร้ความรุนแรง...
 
30:09  ..ไม่ใช่สังคมที่แต่ละคนพยายามที่จะ
เติมเต็มความทะเยอทะยานของตนเอง..
  
30:14  ...สังคมอันไร้ความรุนแรงทั้งหมด
 
30:18  จุดประสงค์ในการสืบค้นของพวกเรา
ในเรื่องต่างๆ ทั้งหมดนี้
  
30:23  ...ก็เพื่อจะนำมาซึ่งสังคมที่ดี...
 
30:27  ...สังคมที่มนุษย์
สามารถดำรงชีวิตอยู่...
  
30:36  ...อย่างสงบสุข
โดยปราศจากความกลัว...
  
30:39  ...ปราศจากความขัดแย้ง
การดิ้นรนต่อสู้ ไขว่คว้า...
  
30:44  ...ความโหดร้าย
และอื่นๆ ทั้งหมดนั้น...
  
30:49  ...นั่นคือความตั้งใจในการสืบค้น...
 
30:50  ...เพราะสังคมถูกสร้างขึ้น...
 
30:56  ...จากความสัมพันธ์ของผู้คน
 
31:04  หากความสัมพันธ์ของเราไม่ถูกต้อง
ไม่เที่ยงแท้และไม่จริง...
  
31:12  ...พวกเราก็จะสร้างสังคม
อย่างทุกวันนี้...
  
31:16  ...ซึ่งก็คือสภาพที่กำลังเกิดขึ้น
อยู่ในโลก
  
31:20  ใช่ไหมครับ
 
31:23  ดังนั้นการสืบค้นในเรื่องนี้...
 
31:30  ...สืบค้นดูว่าเหตุใด
มนุษย์จึงต่างแยกกัน...
  
31:34  ...คุณเสาะหาอะไรบางสิ่ง
อีกคนก็แสวงหาอะไรบางอย่าง...
  
31:36  ...ที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง...
 
31:40  ...แต่ละคนต่างเรียกร้อง
หาอะไรบางอย่างที่แตกต่างกัน
  
31:46  ใช่หรือไม่
 
31:48  ดังนั้นจึงมีการเคลื่อนไหว...
 
31:51  ...ที่เอาตนเอง
เป็นศูนย์กลางความสำคัญอยู่เสมอ
  
31:58  สังคมที่เราสร้างขึ้น...
 
32:01  ...ก็ตั้งอยู่บนพื้นฐานของปัญหา
ที่ตัวตนเป็นศูนย์กลางความสำคัญ...
  
32:07  ...ความทะเยอทะยาน
การเติมเต็มเพื่อตนเอง...
  
32:11  ...และวินัยทั้งหลาย
ที่เอาตนเองเป็นที่ตั้ง...
  
32:15  ...สิ่งต่างๆ เหล่านี้แหละ
ที่ทำให้เราพูดว่า...
  
32:20  ..."ฉันต้องอย่างนั้นอย่างนี้"
อันนำมาซึ่งความรุนแรง
  
32:24  เรากำลังสืบค้นถึงทั้งหมดนั้น...
 
32:29  ...และเรายังสืบค้น
เข้าไปในจิตใจด้วย...
  
32:34  ...จิตใจของคุณ "จิตใจ"
คุณเข้าใจไหม
  
32:37  เมื่อเราใช้คำว่า "จิตใจ"...
 
32:38  ...มันไม่ได้หมายถึงจิตใจของคุณ
หรือของผม แต่เป็นจิตใจ
  
32:44  เพราะจิตใจของคุณก็เหมือนกับ
จิตใจของคนอีกนับพัน นับล้านคน
  
32:51  ใช่ไหม
 
32:53  เป็นจิตที่ไขว่คว้า กระเสือกกระสน
ดิ้นรน ต้องการ...
  
32:58  ...ทำตาม ยอมรับ
เชื่อฟัง ก่ออุดมคติ...
  
32:59  ...และตกอยู่ภายใต้การนำของศาสนา
เป็นจิตที่ทุกข์ระทม...
  
33:05  ...เจ็บปวดรวดร้าว วิตกกังวล...
 
33:11  ...จิตของคุณคือสภาพเหล่านั้น
และจิตของคนอื่นก็เช่นเดียวกัน
  
33:15  ใช่หรือไม่
 
33:17  ดังนั้นจิตของคุณ หาเป็นของคุณไม่
 
33:21  แต่มันเป็น "จิตใจ"
 
33:24  ผมไม่ทราบว่า
คุณตระหนักเห็นอย่างนี้ไหม
  
33:26  คุณอาจจะไม่ตระหนักเห็นอย่างนี้
เพราะความทะนงตนของคุณ...
  
33:29  ...ความรู้สึกเป็นปัจเจกบุคคล
คนสำคัญของคุณ...
  
33:32  ...อาจจะบดบัง
การสังเกตเห็นความเป็นจริงนี้
  
33:38  ใช่ไหม
 
33:39  ผมสงสัยว่าคุณตระหนักเห็นสิ่งนี้ไหม
 
33:46  นั่นคือเหตุผล...
 
33:49  ...จนกว่าเราจะเข้าใจ
อย่างแท้จริง...
  
33:51  ...ว่ามนุษย์เรามีสภาพจิต
ที่คล้ายคลึงกัน...
  
34:02  ...ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก
มนุษย์เราต่างอยู่อย่างไม่มีความสุข
  
34:09  พวกเขาล้วนสวดอ้อนวอนภาวนา
ทว่าการสวดมิได้ให้คำตอบต่อปัญหานี้
  
34:15  พวกเขายังไร้ความสุข...
 
34:18  ...ยังคงกระเสือกกระสน
และยังคงหมดอาลัยตายอยาก
  
34:21  นี่คือสภาพจิต
ที่มนุษย์ทุกคนมีเหมือนกัน
  
34:28  ดังนั้น เมื่อเราทำการสืบค้น...
 
34:30  ...เรากำลังสืบค้นเข้าไป
ในความเป็นมนุษย์...
  
34:36  ...มิใช่เฉพาะตัวฉันหรือตัวคุณ
 
34:39   
 
34:43  เราคือมนุษยชาติ ผมสงสัยว่าคุณ
ตระหนักเห็นสิ่งทั้งหมดนี้หรือไม่
  
34:48  ในระหว่างการสืบค้นเข้าสู่เรื่องนี้
เราจะสามารถสังเกตโลกภายนอก...
  
34:53   
 
35:00  ...สังเกตการแบ่งแยก ความน่ากลัว
ภยันอันตราย นักการเมือง...
  
35:02   
 
35:06  ...รวมทั้งความเป็นอาชญากรของพวกเขา
และอื่นๆ ทั้งหมดนั้นด้วยได้ไหม...
  
35:20  ...เราสามารถจะสังเกตทั้งหมดนั้น...
 
35:26  ...เพียงแค่สังเกต
โดยไม่สร้างข้อสรุปใดๆ ได้ไหม
  
35:32  ถ้าเราสังเกตสิ่งที่กำลัง
เกิดขึ้นภายนอก และสังเกต...
  
35:38  ...สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นภายในจิตใจ
เช่นเดียวกันโดยเท่าเทียม...
  
35:45  ...การกระทำของเราก็จะมิใช่เป็น
การกระทำของคุณและการกระทำของฉัน
  
35:51  ผมไม่ทราบว่า
คุณตามสิ่งที่พูดทั้งหมดนี้ทันไหม
  
35:56  เพราะเมื่อเป็นเช่นนั้น
เราก็กระทำร่วมกัน คุณเข้าใจไหม...
  
36:03   
 
36:04  ...เพราะเราได้สังเกต
สิ่งเดียวกันร่วมกัน
  
36:13  และเราถามว่า
สิ่งที่เราแสวงหาคืออะไรกันแน่
  
36:20  คุณเข้าใจไหม
 
36:23  ถ้าคุณถามตัวคุณเองว่า
อะไรคือสิ่งที่คุณแสวงหา...
  
36:27   
 
36:30  ...เงินทองหรือ
หรือว่าความมั่นคงปลอดภัย...
  
36:35  ...หรือว่าการเป็นอิสระ
จากความกลัว...
  
36:39  ...เพื่อที่คุณจะได้มีความสุข
เพลิดเพลินอย่างไม่รู้จักจบสิ้น...
  
36:45  ...หรือคุณแสวงหาการเป็นอิสระ
จากความระทมทุกข์อันหนักหน่วง...
  
36:47  ...ไม่ใช่เพียงแค่ความทุกข์ระทม
ถ่วงหนักเฉพาะของคุณเท่านั้น...
  
36:54  ...หากเป็นภาระอันหนักหน่วง
แห่งความทุกข์ระทมของโลก
  
37:03  หรือว่าคุณกำลังแสวงหาบางสิ่ง...
 
37:08  ...นอกเหนือไปจาก
เรื่องเหลวไหลไร้สาระทางศาสนา...
  
37:12  ...หรือคุณกำลังแสวงหาบางสิ่ง
ซึ่งไร้กาลเวลา...
  
37:25  ...บางสิ่งที่ความคิด
มิเคยได้สัมผัสเลย
  
37:30  คุณเข้าใจไหม
 
37:33  สิ่งซึ่งแท้จริงแล้ว
ไร้จุดกำเนิด...
  
37:45  ...บางสิ่งที่มิอาจทำให้
เสื่อมทรามได้โดยความคิดอย่างสิ้นเชิง
  
37:54  ดังนั้น จงค้นหาด้วยตนเอง...
 
37:59  ...ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง...
 
38:01  ...ที่ไม่ได้ต่างอะไรไปจาก
มวลมนุษย์ทั้งหลายในโลกนี้...
  
38:05  ...ค้นหาดูว่าอะไรคือสิ่งที่เรา
เฝ้าปรารถนา แสวงหา และโหยหา
  
38:21  หรือว่าเราต้องการประสบการณ์...
 
38:31  ...เพราะเราเคยมีประสบการณ์
ทางความรู้สึกสัมผัส...
  
38:36  ...ทางกามารมณ์ และประสบการณ์
มากมายต่างๆ ชนิด...
  
38:39  ...แล้วเราก็บอกว่า
นั่นเพียงพอแล้ว...
  
38:41  ... ฉันมีประสบการณ์
ในสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดแล้ว...
  
38:43  ...ทว่าฉันต้องการ
มีประสบการณ์ชนิดอื่น...
  
38:47  ...คุณตามทันไหม
ประสบการณ์นอกเหนือจากนั้น
  
38:51  นั่นใช่ไหมสิ่งที่คุณแสวงหา
 
38:56  ประสบการณ์บางอย่างที่จะให้
ความรู้สึกปิติยินดีแก่คุณ...
  
39:01   
 
39:05  ...เกิดความเข้าใจเป็นล้นพ้น...
 
39:12   
 
39:19  ...ให้ความสว่างกระจ่างแจ้ง
การเปลี่ยนสู่สภาวะใหม่
  
39:27  คุณจะค้นหาได้อย่างไร
 
39:35  ประการแรก ในการค้นหานั้น
เราต้องเป็นอิสระจากมายาทั้งปวง
  
39:42  ใช่หรือไม่
 
39:47  นั่นหมายถึง
มีความซื่อสัตย์อย่างยิ่งยวด...
  
39:54  ...เพื่อที่ว่าจิตของคุณ
จะไม่หลอกลวงตัวมันเอง
  
39:59  ใช่ไหม
 
40:08  การที่จะไม่หลอกลวงตัวเอง...
 
40:17  ...เราต้องเข้าใจในธรรมชาติทั้งหมด
ของกระบวนการของความอยาก
  
40:21  ใช่ไหม
 
40:23  เพราะว่าความอยากนั่นเอง
ที่สร้างมายาขึ้นมา...
  
40:27  ...ด้วยความอยาก
เราจึงต้องการเติมเต็ม...
  
40:33  ...เราคาดหวัง
จะได้บางสิ่งบางอย่างมากขึ้น
  
40:36  ดังนั้น ตราบจนกระทั่ง
ที่คุณเข้าใจในธรรมชาติ...
  
40:38  ...และโครงสร้างทั้งหมด
ของความอยาก...
  
40:42  ...จิตย่อมสร้างมายาขึ้นมา
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
  
40:49  เราเข้าสู่ปัญหาของความอยาก
 
40:56  จิตของคุณเมื่อได้เข้าใจ
การเคลื่อนไหวแห่งความอยาก...
  
40:58   
 
41:04  ...รู้ถึงที่ทางบทบาท
ที่ความอยากมีคุณค่า...
  
41:07  ...จิตนั้นสามารถจะเป็นอิสระ
ที่จะสังเกตได้ไหม
  
41:11  นั่นหมายความว่า คุณสังเกต
โดยปราศจากมายาใดๆ ทั้งสิ้น
  
41:22  ชาตินิยมเป็นมายาอย่างหนึ่ง
 
41:25  ใช่หรือไม่
 
41:26  เห็นชัดอยู่แล้วว่าใช่
 
41:38  นั่นค่อนข้างง่ายที่จะเข้าใจ
 
41:44  มายาที่ความคิดสร้างขึ้นมากมาย
 
41:45  เราตระหนักรู้ถึงมายาต่างๆ
เหล่านั้นหรือไม่
  
41:52  เข้าใจเถอะครับคุณ
 
41:59  เมื่อจิตเป็นอิสระ
จากมายาทั้งหลาย...
  
42:04  ...และไร้ซึ่งการเสแสร้งแกล้งทำ
อย่างสิ้นเชิง...
  
42:12  ...แต่กระจ่างชัดและซื่อตรง...
 
42:20  ...เมื่อนั้นเราจึงสามารถที่จะ
เริ่มต้นสืบค้นเข้าไปในอะไรบางอย่าง..
  
42:24   
 
42:29  ...หรือถามถึงการมีอยู่
แห่งภาวะไร้กาลเวลา...
  
42:36  ...คุณเข้าใจไหม
สัจธรรมอันไร้กาลเวลา
  
42:40  นั่นแหละคือจุดที่สมาธิบังเกิดขึ้น
 
42:47  ใช่ไหม
 
42:53  คุณตามทั้งหมดนี้ทันไหม
 
42:59  พวกคุณ มีใครเคยทำสมาธิภาวนาบ้างไหม
 
43:03  อาจจะไม่มี หรืออาจจะมีบ้าง...
 
43:06  ...ทำสมาธิแบบเหนือพ้นโลก
สมาธิแบบธิเบต...
  
43:10  ...สมาธิแบบฮินดู แบบพุทธ
หรือสมาธิแบบเซน ก็ตามแต่
  
43:16  บางทีคุณอาจจะเคยลองฝึก
ทั้งหมดนั้น...
  
43:19  ...อย่างเอาจริงเอาจัง
หรืออาจแค่ลองทำดู
  
43:30  การทำสมาธิทำนองนั้น
ทั้งหมดเท่าที่เข้าใจ...
  
43:34  ...ซึ่งผู้พูดเอง
ได้เสวนาถึงปัญหานี้...
  
43:39  ...กับผู้ทรงคุณวุฒิ
จากสำนักต่างๆ แล้ว...
  
43:45  ...แนวความคิดในการทำสมาธิภาวนา
แบบต่างๆ ทั้งหมดก็คือ...
  
43:53  ...จะต้องควบคุมความคิด
จะต้องมีหลักการในการฝึกอบรมจิต...
  
44:03  ...เราต้องกดข่ม
เอาชนะความรู้สึกของตน
  
44:07  ... เพื่อให้มันเป็นสิ่งที่ต่างไป
จาก "สิ่งที่เป็นอยู่จริง"...
  
44:17  ...โดยการรู้สึกตัว
โดยการควบคุมบังคับ...
  
44:23  ...หรือโดยการตื่นตัวอยู่ตลอด
คุณก็ทราบถึงสิ่งเหล่านี้ดีมิใช่หรือ
  
44:30   
 
44:31  บ้างก็ให้ท่องมนตรา
หรือสโลแกนซ้ำไปซ้ำมา...
  
44:37  ...คุณจะท่องคำว่า "อาเมน"
หรือ "โคคา - โคล่า" ก็ได้...
  
44:41  ...หรือคำอะไรก็ตามที่คุณชอบ...
(หัวเราะ)
  
44:45  ...โปรดอย่าหัวเราะ
ไม่ว่าคำไหนก็เหมือนกันหมด
  
44:51  สิ่งที่เรากำลังพูดก็คือว่า...
 
44:54  ...สิ่งทั้งหมดนั้น
ได้รับการยอมรับว่าเป็นสมาธิ
  
45:04  แต่หากคุณต้องการค้นหาว่า
สมาธิคืออะไร...
  
45:08  ...มิใช่แค่เพียงยอมรับ
ในสิ่งที่ใครบางคนพูดไว้...
  
45:12  ...แต่คุณต้องการค้นหา...
 
45:22  ...จะต้องมีสิ่งที่จำเป็น
อย่างเห็นได้ชัดบางอย่าง
  
45:27  จะต้องไม่มีอิทธิพลอำนาจเหนือ...
 
45:37  ...มิฉะนั้น
คุณก็จะขึ้นอยู่กับอำนาจนั้น
  
45:42  ใช่ไหม
เห็นได้ชัดอยู่แล้ว
  
45:44  คุณถึงได้กระเสือกกระสนดิ้นรน
เลียบแบบหรือยอมปรับตัวตาม
  
45:57  และจะต้องเข้าใจในธรรมชาติ
ของการควบคุมบังคับ
  
46:04  ว่าผู้ควบคุมคืออะไร คือใคร
คุณเข้าใจไหม
  
46:09  คุณเข้าใจตรงนี้ไหม
 
46:11  ผมสงสัยว่า
คุณเข้าใจทั้งหมดนี้หรือไม่
  
46:13  ไม่เข้าใจหรือ
 
46:18  แล้วคุณสนใจเรื่องทั้งหมดนี้ไหม
 
46:23  เพราะมันเป็นชีวิตของคุณ
ไม่ใช่ของผม
  
46:28  สิ่งที่เรากำลังพูดถึงกันคือ...
 
46:37  ...ชีวิตของคุณในแต่ละวันทุกวัน
ว่ามันเกี่ยวข้องอยู่กับอะไรบ้าง...
  
46:41  ...ว่าเราจะเป็นอิสระจากความโกลาหล
ความสับสน...
  
46:45  ...และความระทมทุกข์ทั้งปวงนี้
ได้ไหม
  
46:50  นี่เป็นการสืบค้น
คุณกำลังสืบค้น...
  
46:55  ...มิใช่ผมสืบค้นแล้วคุณคอยยอมรับ
 
46:59  ...แต่เรากำลังสืบค้นร่วมกัน
 
47:03  ...เรากำลังเดินทางไปด้วยกัน
 
47:09  ดังนั้นประการแรก
อย่างที่เราได้พูดว่า...
  
47:12  ...ต้องไม่มีอิทธิพลอำนาจใดๆ
เหนือเรา...
  
47:15  ...นั่นหมายถึง
ยุติการเป็นมนุษย์มือสอง
  
47:24  คุณเข้าใจไหม
 
47:27  พวกเราทุกคนเป็นมนุษย์มือสอง...
 
47:34  ...เพราะการเป็นมนุษย์มือสอง
คือการอยู่ในจารีต
  
47:39  เราไม่เคยเลยที่จะบอกว่า...
 
47:42  "ดูซิ ฉันได้ละทิ้งจารีต
และสิ่งทั้งหมดนั้นแล้ว...
  
47:48  ...ฉันจะดูให้เห็นด้วยตนเอง...
 
47:53  ...ปัญหาต่อไปคือเรื่องการควบคุม
ตั้งแต่วัยเยาว์เราถูกฝึกฝนมา...
  
47:54  ...การศึกษาสอนเราให้ควบคุม
กดข่มรำงับ...
  
48:00  ...หรือทำอะไรที่สุดโต่ง
ไปยังสิ่งตรงข้าม...
  
48:02  ...นั่นคือ
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ขณะนี้
  
48:04  -นั่นคือทำตามอำเภอใจ
ทำแต่เรื่องของคุณเอง
  
48:11  ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม
กับการควบคุม
  
48:17  ดังนั้นเราต้องเข้าใจ
ถึงกระบวนการทั้งหมดของการควบคุม
  
48:27  มีหรือวิถีแห่งชีวิต
โปรดฟังตรงนี้...
  
48:31  ...วิถีแห่งการดำรงชีวิต...
 
48:34  ...ที่ไม่ต้องมีการควบคุมบังคับ
ในลักษณะใดๆ เลยมีอยู่หรือ
  
48:40  อีกทั้ง มิได้หมายถึงการทำอะไรต่างๆ
ตามอำเภอใจ...
  
48:45  ...ไม่ใช่ทั้งการปล่อยเสรี
หรือการหมกมุ่น
  
48:52  โปรดสืบค้นเข้าไปในเรื่องนี้...
 
48:56  ...บางทีอาจจะเป็นเรื่องใหม่
สำหรับคุณ...
  
48:58  ...เรื่องที่ว่าการดำรงชีวิต...
 
49:02  ...ที่ไม่มีแม้เงาของการควบคุม
บังคับ เป็นไปได้หรือ
  
49:07  ในการค้นหาเรื่องนี้
เราจำต้องถามว่าใครหรือคือผู้ควบคุม
  
49:13  ใช่ไหม
 
49:19  เรากำลังสืบค้นว่าสมาธิคืออะไร...
 
49:25  ...เพราะบางที
หากเราเข้าใจในธรรมชาติของสมาธิ...
  
49:31  ...มิใช่ความหมายของคำ
ความหมายของคำนั้นง่ายมาก...
  
49:33   
 
49:35  ...คือการใคร่ครวญ ตรึกตรอง สืบค้น
และอะไรอื่นทำนองนั้น...
  
49:41  ...แต่นอกเหนือจากเรื่องของถ้อยคำ
ให้ค้นหาว่าสมาธิคืออะไร
  
49:50  บางทีในการสำรวจสืบค้นนี้
อาจจะมีการคลี่คลาย...
  
49:54   
 
49:57  ..และนำมาซึ่งชีวิตที่สุดแสนจะปรกติ
สุดแสนจะมีเหตุมีผล...
  
50:10  ...และบางทีอาจจะค้นพบบางสิ่ง
ซึ่งไร้นาม ไร้กาลเวลา
  
50:13   
 
50:17  เรากำลังมุ่งไปสู่ตรงนั้น
 
50:22  เอาล่ะ ใครคือผู้ควบคุมที่บอกว่า
"ฉันต้องควบคุมความรู้สึกของฉัน"...
  
50:25  ...หรือ "ฉันต้องปล่อยให้ความรู้สึก
-ของฉันเลื่อนไหล"
  
50:28  ...และอะไรทำนองนั้น...
 
50:34  ...ใครคือตัวตน
ผู้กล่าวว่า "ฉันต้องควบคุม"
  
50:42  คุณเข้าใจไหม
มีการควบคุมและมีสิ่งที่ถูกควบคุม
  
50:47  มีผู้ควบคุมและสิ่งที่ถูกควบคุม
 
50:51  ดังนั้นจึงมีการแบ่งแยกเกิดขึ้น
 
50:54  แล้วใครกันหรือ คือผู้ควบคุมนี้
 
50:57  นั่นยังคงเป็นการเคลื่อนไหว
ของความคิดมิใช่หรือ
  
51:02  ความคิดพูดขึ้นมาว่า
กรุณาตามตรงนี้ให้ทัน...
  
51:06   
 
51:08  ..ความคิดพูดว่า"ฉันได้ประสบสิ่งนี้
ฉันได้เรียนรู้สิ่งนี้"...
  
51:11  ...และอื่นๆ ทำนองนั้นทั้งหมด
ซึ่งล้วนเป็นอดีต...
  
51:13  ...ดังนั้นอดีตคือผู้ควบคุม
 
51:17  ใช่ไหม
 
51:19  และผู้ควบคุมต้องถูกควบคุม...
 
51:23  ..สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
 
51:25  ใช่ไหม คุณเข้าใจไหม
 
51:30  คุณตามทั้งหมดนี้ทันไหม
 
51:32  หรือคุณสัปหงกแล้ว
(หัวเราะ)
  
51:35  Questioner: กำลังตามอยู่ครับ
 
51:39  Krishnamurti:
โปรดทำลงไปจริงๆ ในขณะนี้
  
51:41  ผมมิได้พูดเพื่อผลประโยชน์ของผมเอง
 
51:45  ผมพูดมาแล้ว 52 ปี
"พอแล้ว" สำหรับผม
  
51:51  ผมไม่ได้สนใจในการพูดอีก
 
51:55  ทว่าผมสนใจที่จะค้นหาว่า...
 
51:56  ...คุณสามารถที่จะค้นพบ
สิ่งเดียวกันนี้ได้หรือไม่...
  
52:02  ...เพื่อที่ว่าชีวิตของคุณเอง
จะแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง...
  
52:05  ...ชีวิตเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด...
 
52:07  ...แล้วคุณก็จะ
ไม่มีปัญหาอีกต่อไป...
  
52:09  ...ไม่มีความยุ่งเหยิง
ซับซ้อน ไม่มีการดิ้นรน...
  
52:12  ...ต้องต่อสู้
ไม่ถวิลหาสิ่งใดอีกต่อไป
  
52:19  นั่นคือเหตุผล
ที่ผู้พูดยังพูดอยู่นี้...
  
52:22  ...มิใช่พูด
เพื่อความพึงพอใจของเขาเอง...
  
52:23  ...มิใช่เพื่อความสนุกสนานหรือเพื่อ
เติมเต็มความปรารถนาของเขาเอง...
  
52:26  ...หรือเพื่อเรื่องเหลวไหลไร้สาระ
ทั้งหลาย
  
52:35  เอาล่ะ ผู้ควบคุมคือผลของความคิด...
 
52:41  ...ความคิดอยู่บนฐานของความรู้
ซึ่งคืออดีต
  
52:47  และความคิดนั้นก็บอกว่า...
 
52:50  ..."ฉันต้องควบคุม
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้" ใช่ไหม
  
52:56  ควบคุมสิ่งที่เป็นจริง
 
52:58  สิ่งที่เป็นจริง
คือสิ่งที่เป็นอยู่...
  
53:02  ...ยกตัวอย่างเช่น ความอิจฉา
หรือริษยา ซึ่งพวกคุณรู้จักอยู่แล้ว
  
53:09  แล้วความคิดก็บอกว่า
"ฉันต้องควบคุม"
  
53:11  ฉันต้องวิเคราะห์
ฉันต้องระงับหรือเติมมันให้เต็ม
  
53:16  จึงเกิดการแบ่งแยกขึ้น การแบ่งแยก
จึงถูกสร้างขึ้นโดยความคิด
  
53:19   
 
53:24  คุณตามทันไหม
 
53:25  ดังนั้นในกระบวนการนี้มีสิ่งหลอกลวง
 
53:33  ใช่หรือไม่
 
53:35  สิ่งหลอกลวงอยู่ที่ความคิดที่ว่า...
 
53:39   
 
53:41  ...ผู้ควบคุมแยกแตกต่าง
จากสิ่งที่จะถูกควบคุม
  
53:45  ซึ่งทั้งคู่ถูกสร้างขึ้นโดยความคิด
 
53:49  ใช่ไหม
 
53:51  ดังนั้นผู้ควบคุม
คือสิ่งที่ถูกควบคุม
  
53:56  ผมสงสัยว่าคุณเข้าใจตรงนี้หรือเปล่า
 
53:59  ถูกต้องไหม
 
54:04  หากคุณเข้าใจ
เรื่องนี้อย่างแท้จริง...
  
54:06  ...สืบค้นเข้าไปในสิ่งนี้
ด้วยตนเองอย่างจริงจัง...
  
54:10  ...คุณจะเห็นว่า
ไม่จำเป็นต้องมีผู้ควบคุม
  
54:12  การสังเกตเท่านั้นที่จำเป็น
 
54:20  คุณเข้าใจไหม
 
54:23  เมื่อคุณสังเกตจะไม่มีผู้ควบคุม
หรือสิ่งที่ถูกควบคุม...
  
54:26   
 
54:29  ...มีเพียงแค่การสังเกต
 
54:31  ตัวอย่างเช่น
สังเกตดูความอิจฉาของคุณ...
  
54:36  ...สังเกตโดยปราศจาก
การเรียกชื่อมัน...
  
54:42  ...ปราศจากการปฏิเสธ
หรือยอมรับมัน...
  
54:46   
 
54:49  ...เพียงแค่เห็น...
 
54:55  ...เห็นกระแสความรู้สึก
หรือปฏิกิริยาตอบสนองที่เกิดขึ้น...
  
54:59  ...ที่ถูกเรียกว่า ความอิจฉา
และมองดูมันโดยปราศจากถ้อยคำใด
  
55:04  คุณเข้าใจทั้งหมดนี้ไหม
 
55:08  เมื่อไร้ถ้อยคำใดๆ...
 
55:13  ...เพราะถ้อยคำแสดงถึงอดีต
คุณเข้าใจทั้งหมดนี้ไหม
  
55:18   
 
55:20  ...ฉะนั้น เมื่อคุณใช้คำว่า "อิจฉา"
จึงเป็นการทำให้อดีตมีกำลังมากขึ้น
  
55:30  ใช่ไหม
 
55:33  มันเป็นไปได้ที่จะดำเนินชีวิต
โดยไม่มีความรู้สึกใดๆ ของการควบคุม
  
55:42  สิ่งที่ผมพูดนี้...
 
55:44  ...มิใช่พูดอย่างเป็นทฤษฏี
แต่พูดสิ่งที่เป็นจริง
  
55:51  ผู้พูดพูดแต่สิ่งที่
เขาได้ทำมาแล้ว...
  
55:56  ...มิใช่สิ่งที่เขาคิดค้นขึ้นว่า
การดำเนินชีวิต...
  
56:02  ...โดยไม่มีความรู้สึกใดๆ
ของการควบคุมนั้นมีอยู่จริง...
  
56:10  ...ฉะนั้นจึงไม่มีความรู้สึกขัดแย้ง
และความรู้สึกแบ่งแยกใดๆ
  
56:17  ภาวะนั้นจะเกิดขึ้นได้
เมื่อมีการสังเกตที่บริสุทธิ์เท่านั้น
  
56:20   
 
56:24  เข้าใจหรือยังครับ
ลองดูแล้วคุณจะเห็นเอง
  
56:27  ทำนะ ลองทำดู
 
56:36  เมื่อไม่มีความขัดแย้ง
ไม่ว่าในเรื่องใดๆ ก็ตาม...
  
56:41  ...จะเกิดอะไรขึ้นในจิตใจ
 
56:47  คุณเข้าใจไหม
 
56:51  ความขัดแย้งบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหว
 
56:55  ใช่หรือไม่
 
56:58  การเคลื่อนไหวก็คือกาลเวลา
 
57:03  ใช่ไหม
 
57:05  จากตรงนี้ไปยัง ณ ตรงนั้น...
 
57:08  ...หมายถึงกาลเวลา
ทั้งในแง่ทางกายภาพและในแง่ทางจิตใจ
  
57:15  นั่นคือการเคลื่อนจากศูนย์กลางหนึ่ง
ไปยังอีกศูนย์กลางหนึ่ง...
  
57:18   
 
57:26  ...หรือการเคลื่อนจากรอบวงหนึ่ง
ไปยังอีกรอบวงหนึ่ง คุณตามทันไหม
  
57:30  การเคลื่อนอันไม่มีที่สิ้นสุดนี้
มีอยู่ในเราทุกคน
  
57:36  หากคุณสังเกตกระแสการเคลื่อนที่นี้
อย่างระมัดระวังยิ่ง...
  
57:43  ...ในขณะที่คุณสังเกตอยู่นั้น
อะไรเกิดขึ้นในจิตใจ
  
57:48  คุณเข้าใจทั้งหมดนี้ไหม
 
57:53  ประการแรก คุณมีความเข้าใจด้วยตนเอง
โดยไม่พึ่งพิงอะไรเลย...
  
57:57  ...เข้าใจในธรรมชาติของความคิด...
 
58:02  ...เข้าใจว่าความคิดจำกัดคับแคบ
และมาจากความรู้ที่เก็บไว้ในสมอง
  
58:04   
 
58:06  ...เป็นความทรงจำ...
 
58:11  ...แล้วความทรงจำนั้นก็แสดงออกมา
เป็นความคิดที่เคลื่อนไหวปฏิบัติการ
  
58:16  ดังนั้น ความรู้จึงเป็นส่วนหนึ่ง
ของความไม่รู้เสมอ
  
58:22  ใช่หรือไม่
เราสืบค้นในเรื่องนั้นแล้ว
  
58:26  ดังนั้น อะไรที่เกิดขึ้นในจิตใจ
 
58:34  คุณเข้าใจไหม
 
58:35  จิตใจ ดังที่เรา
ได้สืบค้นกันไปแล้ว...
  
58:40  ...จิตมิใช่เป็นแค่เพียงความสามารถ
ที่จะคิดได้อย่างชัดเจน...
  
58:45  ...โปร่งใส ไม่มีอคติ
ไม่ทำให้เป็นเรื่องส่วนบุคคล...
  
58:51  ...จิตยังรวมถึงสิ่งทั้งหลาย
ที่ความคิดสรรค์สร้างขึ้นทางเทคโนโลยี..
  
58:56  ...และสิ่งอื่นๆ ในโลกทั้งหมด...
 
58:58  ...และความคิดยังเป็นตัวสร้างปัญหา
ภายในใจทั้งหมด
  
59:03  ใช่ไหม
 
59:07  เมื่อเราสังเกตสิ่งนี้ทั้งหมด
จิตจะมีความสามารถที่จะกระทำ
  
59:10  ...แต่ไม่ใช่กระทำจากความคิด...
 
59:18  ...หากเป็นการกระทำ
จากการสังเกตอันบริสุทธิ์
  
59:22  คุณเข้าใจหรือยัง
 
59:23  ผมอยากรู้ว่า
คุณเข้าใจทั้งหมดนี้ไหม
  
59:27  ได้โปรดเถิดครับ
ทั้งหมดนี้ล้วนมีเหตุมีผล...
  
59:30  ...มิใช่เรื่องที่แยกย่อย
ออกมาเป็นนิกาย...
  
59:33  ...มิใช่แนวปรัชญาตะวันออก
มิใช่อะไรทำนองทั้งสิ้น
  
59:42  แม้ว่าผู้พูดจะเกิดในประเทศ
ที่ชื่อว่า อินเดีย...
  
59:46  ...ทว่าเขาไม่ใช่คนอินเดีย
 
59:50  เขาแค่มีหนังสือเดินทาง
ของอินเดียก็เท่านั้น
  
59:54  ดังนั้น เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ในเรื่องประหลาดมหัศจรรย์...
  
1:00:01  ..เรื่องเพ้อฝัน ไร้สาระ หรือปรัชญา
ที่แปลกประหลาด และอะไรเทือกนั้น
  
1:00:05  เราเพียงตรวจสอบดูว่า
อะไรกำลังเกิดขึ้น
  
1:00:13  ในการสังเกตดูสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
เราจำต้องมองดู...
  
1:00:18   
 
1:00:22  ...โดยไม่มีอดีต
ตอบสนองปั้นแต่งสิ่งที่สังเกต
  
1:00:28  จากการสังเกตบริสุทธิ์นั้น
จะเกิดปฏิบัติการ
  
1:00:34  นั่นคือปรีชาญาณ
 
1:00:36  คือสิ่งที่สุดแสนพิเศษที่เรียกว่า
ความรักและความเมตตาการุณย์
  
1:00:46  เมื่อจิตมีคุณภาวะของปรีชาญาณนี้
โดยธรรมชาติปรีชาญาณนี้มีความรัก...
  
1:00:50  ...ความเมตตากรุณาไปด้วยกัน
โดยธรรมชาติ
  
1:00:53  ความรัก
มิใช่เป็นเพียงเรื่องกามารมณ์...
  
1:00:59  ...เห็นแก่พระเจ้าเถิดกรุณาปัด
เรื่องพรรค์นั้นออกไปให้หมด...
  
1:01:04  ความรักเป็นอะไรอื่น...
 
1:01:09  ..ที่อยู่นอกเหนือไปจากเพียงเรื่อง
ของความรู้สึกทางอินทรีย์สัมผัส..
  
1:01:13  ...ความรักไม่เกี่ยวพัน
ใดๆ กันเลย...
  
1:01:19  ...กับความต้องการและการเติมเต็ม
ความปรารถนาทั้งหมดของเรา
  
1:01:23  ดังนั้น จิตในขณะนี้มีคุณภาวะนี้
มีความมั่นคง
  
1:01:34  มั่นคงดั่งหินผา
ยืนอยู่ท่ามกลางกระแสน้ำ...
  
1:01:39  ...ท่ามกลางแม่น้ำ
มีเสถียรภาพที่ไม่หวั่นไหว
  
1:01:43  เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง...
คุณเข้าใจไหม
  
1:01:45  ดังนั้น จิตเยี่ยงนั้น...
 
1:01:49  ...เพราะมันเข้าใจในความสัมพันธ์
ระหว่างกันและกัน...
  
1:01:53  ...เราสืบค้นในเรื่องนั้นแล้วว่า...
 
1:01:54  ...ความสัมพันธ์ที่มิได้อยู่บน
พื้นฐานของมโนภาพ...
  
1:01:58  ...คุณเข้าใจไหม
คุณมีมโนภาพเกี่ยวกับผม...
  
1:01:59  ...และผมก็มีมโนภาพเกี่ยวกับเธอ...
 
1:02:03  ...สัมพันธภาพของเราเป็นเช่นนั้น...
 
1:02:05  ...เป็นความสัมพันธ์ระหว่าง
มโนภาพกับมโนภาพ
  
1:02:10  คุณทราบดี ถึงสิ่งทั้งหมดนี้
มิใช่หรือ
  
1:02:15  ฉะนั้น
จึงไม่มีความสัมพันธ์ที่จริงแท้
  
1:02:21  อาจจะมีความสัมพันธ์อยู่บ้าง
ทางการสัมผัสและทางโสตสัมผัส...
  
1:02:27  ...ทว่านั่นมิใช่ความสัมพันธ์
อันลึกซึ้ง ลึกซึ้งระหว่างกันจริงๆ
  
1:02:32   
 
1:02:38  หากไม่มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งนั้น
ความขัดแย้งย่อมเกิดขึ้น...
  
1:02:42  ...และจากความขัดแย้งนั้น
เราสร้างสังคมนี้ขึ้น...
  
1:02:44  ...ซึ่งเป็นสังคมที่ไร้คุณธรรม...
 
1:02:48  ...รุนแรง เต็มไปด้วย
การเข่นฆ่ากันเป็นที่สุด
  
1:02:59  ดังนั้น ขณะนี้เมื่อจิตมีคุณภาวะ
ของความมั่นคงอันยิ่ง
  
1:03:11  และอะไรก็ตามที่เสถียร
ย่อมเงียบสงบ
  
1:03:18  ใช่หรือไม่
 
1:03:21  คุณเข้าใจทั้งหมดนี้ไหม
 
1:03:24  คุณเคยตรวจสอบเรื่องนี้ไหม
คุณเข้าใจไหม
  
1:03:32  เข้าใจชัดเจนเป็นที่สุด...
 
1:03:39  ...มีความกระจ่างแจ้ง
ที่สามารถจะตรวจสอบปัญหาใดก็ได้
  
1:03:46  ความกระจ่างแจ้ง นั่นคือ เสถียรภาวะ
 
1:03:51  คุณเข้าใจไหม
 
1:03:52  จิตที่สับสน มีความไม่ลงรอยกัน
แตกแยกออกจากกันเท่านั้น...
  
1:03:58  ...ที่ไม่มั่นคง จิตที่ประสาท
จิตที่เสาะแสวงหา ดิ้นรน ต่อสู้
  
1:04:02   
 
1:04:09  ฉะนั้น เรามาถึงจุดที่จิต
มีความกระจ่างชัดอย่างเต็มที่...
  
1:04:16  ...ดังนั้น
จึงนิ่งไม่หวั่นไหวอย่างสิ้นเชิง
  
1:04:22  คุณเข้าใจไหม
 
1:04:24  เป็นการนิ่งไม่เคลื่อนไหว...
 
1:04:29  ...ที่มิใช่การหยุดนิ่งเยี่ยงขุนเขา
ทว่าเป็นความไม่หวั่นไหว...
  
1:04:39  ...เพราะจิตนั้นไม่มีปัญหาใดๆ
โดยสิ้นเชิง...
  
1:04:43  ...ดังนั้นจึงเกิดเสถียรภาพ...
 
1:04:46  ...และยืดหยุ่นรับรู้ได้ว่องไว
อย่างยิ่งยวดเกินธรรมดา
  
1:04:49  ใช่ไหม
 
1:04:52  จิตเยี่ยงนั้นเงียบสงบ
 
1:04:58  และคุณจำเป็นต้องมี
จิตที่เงียบสงบอย่างถึงที่สุด...
  
1:05:07  ...สงัดเงียบโดยสิ้นเชิง
มิใช่เงียบสงบภายใต้เงื่อนไขใดๆ
  
1:05:11  เช่น เมื่อคุณออกไปเดินเล่น
ในพงไพรยามเย็น...
  
1:05:20  ...จะมีความเงียบอันไพศาล...
 
1:05:23  ...เมื่อหมู่นกกา
ล้วนกลับสู่รังรอน...
  
1:05:27  ...สายลมและเสียงกระซิบ
ของใบไม้ต่างสงัดลง...
  
1:05:31  ...และมีความนิ่งเงียบอย่างยิ่ง
เป็นความนิ่งเงียบของโลกภายนอก
  
1:05:36   
 
1:05:39  ผู้คนสังเกตเห็นความนิ่งเงียบนั้น
แล้วบอกว่า...
  
1:05:43  "ฉันต้องมีความนิ่งเงียบ
เยี่ยงนั้น"...
  
1:05:47  ...แล้วจึงพึ่งพา
ติดอยู่กับความนิ่งเงียบ...
  
1:05:52  ...ของการอยู่โดดเดี่ยวตามลำพัง...
 
1:05:54  ...คุณเข้าใจไหม
อยู่อย่างเงียบเชียบโดดเดี่ยว
  
1:06:00  ทว่านั่นมิใช่ความเงียบสงบที่พูดถึง
 
1:06:05  และยังมีความนิ่ง
ที่สร้างขึ้นโดยความคิด
  
1:06:15  ความคิดซึ่งบอกว่า
"ฉันต้องนิ่ง ฉันต้องเงียบสงบ...
  
1:06:20   
 
1:06:28  ..."ฉันต้องไม่พูดจ้อ คิดจ้อ"
แล้วมันก็ค่อยๆ ทำให้เกิดความนิ่ง
  
1:06:33  ทว่านั่นมิใช่
ความเงียบสงบที่กล่าวถึง...
  
1:06:35  ...หากเป็นเพียงผลพวงของความคิด
ที่กระทำต่อโสตเสียง
  
1:06:43  ถูกต้องไหม
 
1:06:45  เรากำลังพูดถึง ความเงียบสงบ
ที่มิได้ขึ้นอยู่กับอะไรทั้งสิ้น
  
1:06:55  คุณภาวะแห่งจิต
ที่เงียบสงบเยี่ยงนี้เท่านั้น...
  
1:07:00  ...ความเงียบอย่างถึงที่สุดนี้
เท่านั้น...
  
1:07:06  ...ที่สามารถรับรู้ภาวะอันเป็นนิรันดร์
ไร้กาล ไร้ชื่อได้
  
1:07:14  นี่คือ สมาธิ
 
1:07:20  ใช่ไหม
 
1:07:36  เอาล่ะ จบแล้ว
 
1:07:38  จบแล้ว